บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 คุณหนูใหญ่ไท่อี่หลิน

บทที่ 3

คุณหนูใหญ่ไท่อี่หลิน

“ท่านแม่ทัพขอรับ”

องครักษ์เยว่เดินปราดเข้ามาโดยที่ยังคงก้มหน้าหลุบเปลือกตาลงต่ำ ด้วยผู้เป็นนายยังไม่ออกคำสั่งให้เปิดตามองสตรีผู้นี้ได้

แม่ทัพหมิงหงเยี่ยนทอดสายตามองสตรีในอ้อมแขน ด้วยความรู้สึกยุ่งยากใจไม่น้อย ผู้ที่มาร้องขอชีวิตควรแล้วหรือที่จะทำตัวเป็นภาระเขาเช่นนี้

‘ฟื้นเมื่อไหร่ข้าจะให้เจ้าชดใช้อย่างสาสม!’

คิดพลางตวัดเสื้อคลุมสีน้ำเงินจากแผ่นหลังมาห่อหุ้มเรือนกายที่เกือบจะเปลือยเปล่าของหญิงสาวเอาไว้แน่น ดั่งไม่ต้องการให้บุรุษใดเห็นเรือนร่างของนาง

“เงยหน้าขึ้นแล้วจงกินดื่มสังสรรค์ต่อไป”

“ขอรับท่านแม่ทัพ!”

เพียงแม่ทัพหนุ่มออกคำสั่ง เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาก็พากันขานรับแข็งขัน เงยหน้าขึ้นเพียงเล็กน้อย ดวงตายังคงทอดต่ำก่อนจะคว้าจอกสุรามาดื่มดั่งจะดับความไม่สบายใจ

องครักษ์เยว่เงยหน้าขึ้นสูงกว่าคนอื่นๆ เขาจึงทันได้เห็นสายตาอ่อนแสงของผู้เป็นนายยามมองคุณหนูใหญ่ไท่ในอ้อมแขน อดที่จะรู้สึกแปลกใจไม่ได้เพราะแม่ทัพหมิงหาใช่บุรุษรักหยกถนอมบุปผา

มีสตรีมากมายที่แสร้งเป็นลมล้มลงตรงหน้าเพื่อเรียกร้องความสนใจ แม่ทัพหมิงกลับก้าวข้ามร่างนั้นไปอย่างไร้เยื่อใยดั่งเดินข้ามกิ่งไม้ผุพัง อีกทั้งยังปักคมกระบี่ลงไปที่ผืนดินข้างร่างบอบบางที่แสร้งสลบไสล จนพวกนางผวาลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ลืมว่าตนเองเป็นลมไปเสียสิ้น

สตรีบางนางบีบน้ำตาร่ำไห้ปราดเข้ากอดแข็งกอดขาแม่ทัพหมิงขอความเห็นใจอย่างน่าสงสาร ทว่าแม่ทัพหมิงกลับแสดงท่าทางรำคาญแล้วสั่งให้ควักลูกนัยน์ตาของนางออกมา ผลักสตรีผู้นั้นให้กลับสู่ลานประหารอย่างเลือดเย็นดังเดิม

ทว่าคุณหนูใหญ่ไท่อี่หลินผู้นี้ เหตุใดจึงได้รับการปฏิบัติแตกต่างจากสตรีคนอื่นๆ เล่า

น่าแปลกนัก...

แม่ทัพหมิงหงเยี่ยนคือผู้ที่ได้รับป้ายอาญาสิทธิ์จากโอรสสวรรค์ให้ออกปราบปรามการทุจริตของเหล่าขุนนางตามหัวเมืองต่างๆ ซึ่งสกุลไท่คือตระกูลที่ยี่สิบหก และยังเหลืออีกสองตระกูลที่แม่ทัพหมิงต้องจัดการให้สิ้นซาก

การปราบปรามครั้งนี้เป็นการล้างบางฐานอำนาจของฮ่องเต้ทรราชพระองค์ก่อนให้หมดไปจากแผ่นดิน และเร่งสร้างฐานอำนาจใหม่ขึ้นมาเพื่อพัฒนาและบริหารแว่นแคว้นในกาลต่อไป

“ข้าจะจัดการคุณหนูใหญ่ไท่เองขอรับท่านแม่ทัพ แล้วข้าจะเร่งนำสตรีคนใหม่มาปรนนิบัติท่านแม่ทัพในค่ำคืนนี้”

องครักษ์เยว่เสนอด้วยคิดว่าการร้องขอชีวิตของไท่อี่หลินไม่สำเร็จ ดังนั้นต้องส่งนางกลับเข้าคุกคุมขังเช่นเดิม จากนั้นเขาอาจจะนำคุณหนูรองไท่มาอุ่นเตียงให้ท่านแม่ทัพ เพราะหลังจากที่คุณหนูรองไท่ได้ยินคุณหนูใหญ่ไท่ร้องขอชีวิตด้วยการอุ่นเตียง นางจึงเสนอตัวเองบ้าง ซึ่งองครักษ์เยว่จะยื่นเรื่องในลำดับถัดไป

“ไม่ต้อง! ไปตามสาวใช้ส่วนตัวของนางมา แล้วสั่งให้คนไปตามหมอมาด้วย”

“ขอรับท่านแม่ทัพ”

“คารวะท่านแม่ทัพหมิงเจ้าค่ะ”

สาวใช้หน้าซีดเผือดทรุดเข่าลงโค้งคำนับบุรุษรูปร่างสูงใหญ่จนศีรษะจดพื้นด้วยความกลัวตาย เหล่าบ่าวไพร่สาวใช้ตัวเล็กๆ ถูกจับขังไว้ในคอกม้า มิได้ถูกขังคุกเฉกเช่นเจ้านายสกุลไท่ทั้งหลาย เมื่อถูกเรียกตัวออกมาย่อมลนลานกลัวความผิด

“นางมิใช่สาวใช้ของคุณหนูใหญ่ไท่ขอรับท่านแม่ทัพ นางบอกว่าคุณหนูใหญ่ไท่ไม่มีสาวใช้ส่วนตัว”

องครักษ์เยว่รายงาน

“งั้นหรือ”

แม่ทัพหมิงเพียงพยักหน้าน้อยๆ ด้วยความแปลกใจ บุตรสาวขุนนางระดับสูงแต่ไม่มีสาวใช้ส่วนตัว จะเป็นไปได้อย่างไรกัน

“พาข้าไปที่เรือนนอนของคุณหนูใหญ่ไท่”

“จะ...เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ”

แม่ทัพหมิงยังคงอุ้มร่างบอบบางไม่ได้สติของไท่อี่หลินไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินตามสาวใช้ลึกเข้าไปยังด้านหลังจวน คิ้วเข้มค่อยๆ ขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อเดินผ่านเรือนสวยงามโอ่อ่ามากมายแต่สาวใช้กลับไม่หยุดอยู่ที่เรือนเหล่านั้นสักหลัง ยังคงเดินลึกเข้าไปจนท้ายที่สุดไปหยุดยืนอยู่หน้าเรือนไม้เก่าซอมซ่อสภาพไม่ต่างจากโรงเก็บฟืนหลังหนึ่ง

“นะ...นี่คือเรือนของคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ”

สาวใช้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก

“เปิดประตู!”

“จะ...เจ้าค่ะ”

สาวใช้รีบเปิดประตูเข้าไป ก่อนที่องครักษ์เยว่จะเดินถือตะเกียงตามเข้ามา

แม่ทัพหนุ่มหมุนกายมองไปรอบๆ ห้องก่อนจะแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ

“ไม่ยักรู้ว่าเสนาไท่ดูแลฮูหยินเอกและบุตรสาวคนโตได้น่าสังเวชเช่นนี้ ทั้งที่ยักยอกกอบโกยเงินจากคลังหลวงไปตั้งมากมาย”

น้ำเสียงเย็นเอ่ยออกมาพลางก้มมองเจ้าของใบหน้าขาวซีดในอ้อมแขนด้วยความรู้สึกหลากหลาย

เขาค่อยๆ วางนางลงบนเตียงเก่า มองผ้าปูเตียงและผ้าห่มที่ผ่านการปะชุนมานับไม่ถ้วน ก่อนจะเหลือบมองไปยังมือที่แห้งกร้านดั่งผ่านการทำงานหนักไม่ต่างจากสาวใช้คนหนึ่ง

ไม่สิ...

เผลอๆ มือของคุณหนูใหญ่ไท่จะสากกระด้างมากกว่ามือของสาวใช้ผู้นี้เสียด้วยซ้ำไป

ยิ่งคิดพลันความโกรธก็แล่นพล่านขึ้นมาเสียดื้อๆ

“ระยำ!”

แม่ทัพหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย เขาเกลียดที่สุดคือความอยุติธรรม เห็นชัดว่าขุนนางไท่หลงใหลภรรยาใหม่จนละเลยภรรยาเอกและบุตรสาวคนโต อีกทั้งยังโลภโมโทสันยักยอกงบช่วยเหลืออุทกภัยน้ำท่วมจนชาวบ้านอดอยากล้มตายหลายพันคน

คงคิดว่าไม่มีใครสาวถึงเพราะอำนาจเงินปิดหูปิดตาปิดปากผู้เกี่ยวข้องเอาไว้ ใครที่ทำท่าจะปากสว่างก็ถูกตามเก็บจนหมดสิ้น ทว่าใต้หล้านี้จะมีผู้ใดเล็ดลอดพระเนตรพระกรรณโอรสสวรรค์ได้เล่า

มีแต่จะแสร้งทำเป็นไม่รู้เพื่อปล่อยให้พวกมันหลงระเริงก็เท่านั้นเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel