ตอนที่ 2 ถ้ารู้ว่าจะเจ็บหนักขนาดนี้ วันนั้นจะยังรักอย่างไม่ลังเลไหม?
ตอนที่ 2
ถ้ารู้ว่าจะเจ็บหนักขนาดนี้
วันนั้นจะยังรักอย่างไม่ลังเลไหม?
"ตื่นได้หรือยังธารธารา"
10 ปีก่อน
"ธาร ไปดูศีลเล่นบาสข้างล่างกันไหม" เสียงของพิมพ์มาดา เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของธารธาราวิ่งตะโกนทันทีที่โผล่หน้าเข้ามาในห้องเรียน ทำให้ธารธาราที่กำลังมองร่างสูงที่ชูตบาสอยู่กลางสนามจำต้องละสายตามาหาเพื่อนสนิท
"ไม่ล่ะพิมพ์ พิมพ์ไปเถอะ ธารอยากอ่านหนังสือเตรียมสอบมากกว่า" ธารธาราตอบพร้อมรอยยิ้มน้อยน้อย รอยยิ้มแค่นั้นก็มากพอสำหรับพิมพ์มาดาแล้ว เธอรู้ว่าธารธาราเป็นคนเงียบเงียบ การที่เธอยิ้มให้นั่นคือที่สุดของมิตรภาพแล้ว
"ธารเรียนเก่งจะตาย ไม่ต้องทบทวนแล้ว " พิมพ์มาดาสัพยอกให้ ธารธาราเรียนเก่งชนิดที่หาตัวจับยาก เธอเองก็เรียนกับธารธารามาตั้งแต่ประถม จนมาเข้ามัธยมปลายเนี่ยล่ะที่ธารธาราตกเป็นที่สองของสายชั้น
"ธารอยากอ่านหนังสือ พิมพ์ไปเถอะ" ธารธาราทวนคำตอบของเธออีกครั้ง ซึ่งพิมพ์มาเองก็พยักหน้าเข้าใจ คบกันมาตั้งแต่เด็กทำไมจะไม่รู้ว่าธารธาราไม่ชอบให้ใครวุ่นวายเรื่องส่วนตัว ไม่ชอบคนเซ้าซี้ หากบอกว่าไม่ก็คือไม่ รู้จักกันมานานขนาดนี้พิมพ์มาดายังไม่รู้เลยว่าตัวเองรู้จัก ธารธาราดีพอหรือยัง
"ตามใจธารล่ะกัน เดี๋ยวเราไปดูความหล่อของศีลมาเผื่อนะ" พิมพ์มาดาพูดติดตลกก่อนจะยอมถอยเดินออกจากห้องแต่โดยดี
เมื่อเห็นพิมพ์มาดาไปลับตาแล้ว สายตาหวานก็เบนไปมองร่างสูงที่วิ่งอยู่กลางสนามเช่นเดิม ศีลเสมอยังคงสง่างามในใจเธอเสมอ แม้ว่าจะไม่เคยพูดคุยกันเลยสักครั้งก็ตาม
ความรักที่เบ่งบานในใจของธารธารามาตั้งแต่วันแรกที่ประกาศผลการสมัครสอบเข้าเรียน
ลำดับ
1.นางสาว ธารธารา สมุทรไพศาล
2.นาย ศีลเสมอ ดำรงกิจไพบูลทวี
"คนชื่อธารธารานี่โคตรเก่งเลยว่ะไอ้ศีล ชนะอันดับหนึ่งของโรงเรียนเราอย่างมึงได้" เสียงทุ้มที่ดังข้างหู ทำให้ธารธาราที่กำลังยืนดูผลสอบตัวลีบและพยายามทำตัวให้เล็กลงมากกว่าเดิม
"มึงก็พูดเกินไป ใช่ว่าบนโลกนี้จะมีคนเก่งแต่กูสักหน่อย ดีซะอีกที่โรงเรียนเรามีคนเก่งเพิ่มมาอีกคน" ศีลเสมอพูดออกมาจากใจจริงจริง การเป็นคนเก่งมันเป็นเรื่องที่ดี แต่การแบกความหวังของเหล่าบรรดาอาจารย์เนี่ยสิ มันทำให้เขาลำบากใจไม่น้อย การที่มีคนเก่งมาเพิ่มนั่นเท่ากับเขาได้แบ่งเบาความลำบากใจนั้นออกไป
"ทำมาพูดดี แต่เรียนเก่งแบบนี้ต้องใส่แว่นเป็นป้าแน่เลยวะ" จอมทัพชายร่างสมส่วน ส่วนสูงไล่เลี่ยกับศีลเสมอ ทั้งสองกอดคอกันพูดเจื้อยแจ้วอย่างสนุกสนาน
"ไม่แน่นะ อาจจะน่ารักก็ได้ คนเรียนเก่งไม่จำเป็นต้องใส่แว่นหนาเตอะหรอกนะ " นั่นสิ เรียนเก่งขนาดนี้อาจจะใส่แว่นหนาเตอะเป็นป้าเหมือนที่จอมทัพพูดก็ได้
"เหอะ!!" จอมทัพทำเสียงขึ้นจมูกก่อนจะกวาดสายตามองหาชื่อตัวเอง
25.นาย จอมทัพ ชนะศึกสงคราม
"ยี่สิบห้า โอ้โห ผลของการตั้งใจอ่านหนังสือของกูในที่สุดก็สำเร็จแล้วโว้ย" รอยยิ้มของจอมทัพฉายกว้างอย่างภาคภูมิใจ
"อันดับที่ยี่สิบห้าเนี่ยนะ" น้ำเสียงเรียบของศีลเสมอทำให้จอมทัพอดหมั่นไส้ที่จะสัพยอกเขาไม่ได้
"ยี่สิบห้าเนี่ยล่ะ มึงคิดว่ากูดูหน้าโง่แล้วฉลาดหรือไง อย่างน้อยได้อันดับยี่สิบห้านี่ก็ยังนับว่าแต้มบุญกูยังพอมี ได้เกาะมึงจนเรียนจบมัธยมปลายแน่นอน" จอมทัพพูดอย่างอารมณ์ดี ถึงเขาจะเรียนไม่เก่งเท่ากับศีลเสมอ แต่การเรียนเขาก็ไม่ได้แย่ แต่การมีศีลเสมออยู่มันดีกว่าเป็นไหนไหน
"ตามติดเป็นเจ้ากรรมนายเวรเลยนะ"
"มามะ ที่รักมาจุ้บหน่อย" เมื่อเห็นศีลเสมอบ่น เขาก็อดที่จะแกล้งเพื่อนไม่ได้ จอมทัพทำปากจู๋ พยายามเข้าไปจูบศีลเสมอ ชายหนุ่มก้าวถอยหลังอย่างไม่ทันระวัง ชนกับร่างบางเต็มแรง ร่างทั้งสองเสียหลักล้มลง มันคงจะดูเป็นบทละครมากกว่านี้หากทั้งสองล้มลงแล้วปากสัมผัสกัน แต่ความเป็นจริงแล้วเปล่าเลย ข้อศอกของศีลเสมอกระแทกเข้าเต็มหน้าผากเธอจนปูดเป็นลูกมะนาวขึ้นมา จบกัน ความโรแมนติกที่ควรมี
"โอ้ย.."แม้จะเป็นเพียงคำพูดสั้นสั้นและเบาหวิว แต่มันก็ทำให้รับรู้ว่าคนที่ร้องออกมานั้นคงเจ็บไม่น้อย
"เธอ เราขอโทษนะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" ศีลเสมอกระวนกระวายลุกขึ้นออกจากตัวหญิงสาวทันที สายตาคมกวาดสำรวจบาดแผลตามร่างกาย ก่อนจะทำสีหน้ารู้สึกผิด เมื่อเห็นหน้าผากมนของธารธาราเริ่มมีอาการปูดขึ้นมา
"ไม่ ไม่เป็นไร" ธารธาราตอบเพียงแค่นั้น ก่อนจะขยับถอยหลังและยันตัวเองให้ลึกขึ้นยืน และเดินหนีไปทันที
"แปลกคนชะมัด" ศีลเสมอที่มองตามร่างบางที่กำลังเดินอย่างรวดเร็วอย่างอดสงสัยไม่ได้
'ต้องเดินเร็วขนาดนั้นเลยหรือไง'
"แปลกจริง ปกติมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา แต่คนนี้วิ่งหนีก็มึงไปเฉยๆ" จอมทัพเห็นด้วย เพื่อนเขามันพราวเสน่ห์ มีทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง รุ่นเดียวกัน มาสารภาพรักไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครสมหวังเลยสักคน
"กูไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น แต่เขาเจ็บขนาดนั้น ไม่คิดจะโวยวายสักคำหรือไง"
"ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง อีกอย่างมึงก็ขอโทษแล้ว เขาคงไม่ได้ติดใจอะไรหรอก ไปเหอะ วันนี้กูอยากไปเล่นเกมส์บ้านมึง"จอมทัพกระโดดกอดคอศีลเสมอ ก่อนจะลากคอพาเพื่อนกลับบ้าน ในเมื่อพวกเขามาเพื่อดูผลสอบ และในเมื่อดูผลสอบเสร็จแล้ว ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ต้องทำอีก ดังนั้นการกลับไปเล่นเกมส์ที่บ้านของศีลเสมอจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกว่า
