4
ทรงจันทร์ช่วยเขาโดยไม่คิดค่าตอบแทน นั่นเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เธอได้ใกล้ชิดกับเขา ไอราพัทวางตัวสบายๆ เมื่ออยู่ใกล้เธอ นอกจากเรื่องการเรียน...ทรงจันทร์เริ่มกลายเป็นเพื่อนที่เขาสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง บางครั้งไอราพัทก็โทรศัพท์หาเธอเพื่อระบายความในใจเกี่ยวกับความกดดันที่ต้องเรียนและฝึกกีฬาไปพร้อมกัน หลายครั้งเขาอยากจะทิ้งการเรียน แต่ทรงจันทร์จะคอยเอาใจช่วยเขาเสมอ เธอไม่ได้คาดคั้น...แต่มักจะพูดให้ความหวังว่าเขาและเธอควรเรียนจบพร้อมกัน
“ไปดูหนังกันนะแยม ตอบแทนที่แยมช่วยติวให้เราจนจบเทอม”
“อะไรกัน ยังไม่รู้เลยว่าที่ติวไป...เติร์ดจะผ่านรึเปล่า”
“ต้องผ่านสิ ระดับติวเตอร์แยมทั้งที”
หญิงสาวยอมออกไปข้างนอกในวันหยุดพร้อมกับเขา โรงภาพยนตร์ที่ไอราพัทพาเธอไปนั้นอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรูหราใจกลางเมือง ทรงจันทร์และเขาได้ที่นั่งเป็นเบาะคู่ขนาดใหญ่ซึ่งเธอรู้ว่ามันต้องราคาแพงมาก เมื่อชมภาพยนตร์จบ ชายหนุ่มก็พาเธอไปร้านขนมหวานเพื่อเติมท้องก่อนขับรถพาเธอกลับมาส่งที่หอพัก มันเป็นช่วงเวลาที่ทรงจันทร์รู้สึกว่าโลกกำลังหมุนรอบตัวเอง เธอมีความสุขกับทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตช่วงนั้น
ที่มหาวิทยาลัย ทรงจันทร์จะไม่เข้าไปทักไอราพัทถ้าเห็นเขาอยู่กับนักศึกษาซึ่งน่าจะเป็นคู่เดทของเขา เธอรู้ดีว่าเธอเป็นคนหนึ่งที่ไอราพัทสนิทสนม แต่เธอคงไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะควงไปออกงานต่างๆ ในวงสังคมของเขาได้ ทรงจันทร์ตระหนักดีว่าตัวเธอเปรียบเสมือนดอกไม้ป่า แต่คนอย่างไอราพัทต้องคบกับผู้หญิงที่เหมือนดอกไม้งามที่ตัดแต่งและจัดวางในแจกันอย่างดีเท่านั้น
ในช่วงใกล้จบการศึกษา ไอราพัทก็เริ่มนัดพบเธอน้อยลง หญิงสาวเห็นข่าวของเขาปรากฏตามวงการกีฬาที่เขาถนัดมากขึ้น คงเพราะเขาเก็บหน่วยกิตได้ครบหลักสูตรและขึ้นทะเบียนเป็นบัณฑิตที่จบการศึกษาแล้ว ชายหนุ่มจึงทุ่มเทเวลากับกีฬากลางแจ้งที่เขารักได้เต็มตัว
ทรงจันทร์ก็ใช่ว่าจะมีแต่ไอราพัทเป็นเพื่อนต่างคณะเพียงคนเดียว เธอก็มีวงเพื่อนอื่นๆ บ้างเช่นกัน เพื่อนคนหนึ่งชักชวนไปงานปาร์ตี้ฉลองเรียนจบก่อนแยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิต ทรงจันทร์เห็นว่าเธอควรได้ใช้ชีวิตนักศึกษาให้เต็มที่เป็นครั้งสุดท้าย เธอจึงตกลงไปร่วมงานนี้
งานปาร์ตี้จัดที่รีสอร์ทริมทะเลของเพื่อนคนนี้ ภายในงานมีหนุ่มสาวที่เธอไม่รู้จักอยู่บ้างเพราะเพื่อนคนนี้ถือว่าเป็นคนกว้างขวางพอสมควร ทรงจันทร์ได้สวมเดรสเปิดไหล่และแต่งหน้าทำผมในแบบที่เธอไม่เคยทำมาก่อน เพื่อนเจ้าของงานจัดให้ เพื่อให้หญิงสาวดูสวยฉ่ำไม่แพ้สาวๆ ในงานซึ่งหลายคนเป็นระดับดาวมหาวิทยาลัยหรือดาวคณะ
“แยม...มางานนี้ด้วยเหรอ”
ไอราพัทเอ่ยทัก เขามางานนี้ก็ไม่แปลกเพราะอยู่ในวงสังคมระดับเดียวกับเจ้าของงานเลี้ยง แต่ทรงจันทร์แทบเรียกได้ว่าอยู่นอกวงโคจรของพวกเขา แถมวันนี้เธอยังแต่งหน้าแต่งตัวจนดูแปลกตาไปจากวันธรรมดา
“เพื่อนชวนมาแน่ะ เราเห็นข่าวเติร์ดบ่อยๆ นะ เข้าออกสนามกอล์ฟแทบกลายเป็นบ้านเลยนี่”
“ถ้าแยมว่างก็ไปด้วยกันสักวันสิ เราพร้อมดูแลเสมอ”
ปาร์ตี้ในค่ำคืนนั้นมีแต่ความสนุกสุดเหวี่ยง วงดนตรีเล่นเพลงที่พวกเขาร้องตามได้แทบทุกเพลง อาหารเครื่องดื่มมีเสิร์ฟไม่อั้น แขกแต่ละคนไม่ต้องรีบกลับเพราะที่รีสอร์ทเปิดห้องพักสำหรับคนที่ไม่พร้อมเดินทางกลับในคืนนี้เอาไว้แล้ว ทรงจันทร์มองเห็นไอราพัทมีสาวสวยอีกคนหนึ่งมาด้วย เธอจึงได้จิบเครื่องดื่มที่มุมห้องเงียบๆ เพราะรู้ดีว่าเขาไม่มีทางมองเธอเกินเพื่อน ในงานเลี้ยงที่มีแต่บรรยากาศครื้นเครง เธอรู้สึกอ้างว้างขึ้นมาวูบหนึ่ง เพราะหลังจากวันนี้ไปเธอกับไอราพัทก็จะเหมือนเส้นทางที่แยกจากกัน จบสิ้นแล้วช่วงวันเวลาที่เคยทำให้เขาได้มาพบเธอครั้งหนึ่งในชีวิต
# # # # # #
“เป็นยังไงบ้างจันทร์ เหนื่อยไหมลูก? จะรับงานแทนป้าอร่ามได้ไหม”
บิดาของทรงจันทร์เอ่ยถามเมื่อเธอขับรถเต่ากลับมาจอดในตัวบ้าน ใครฟังก็คงไม่เชื่อว่าหญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ ที่มีใบปริญญาจะรับทำงานแม่บ้าน แต่ตอนนี้มันก็เกิดขึ้นแล้วกับลูกสาวของเขา
