บท
ตั้งค่า

CHAPTER 8 หมดความอดทน

    หลายวันมานี่ภูริกับเดียร์ไม่ค่อยทะเลาะกัน ช่วงนี้ชายหนุ่มอยู่แต่บ้านช่วยเธอเลี้ยงลูก จนทำให้เธอเริ่มกลับมาเชื่อมั่นในตัวเขามากขึ้น

       “เดียร์”

       “พี่ภูจะเอาอะไรคะ”

       “คือเย็นนี้พี่ต้องไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน”

       “จะกินเหล้ากันอีกหรือเปล่า” ทุกครั้งที่เขากลับมามักจะมีกลิ่นเหล้าติดมาตลอด แรกๆ ทะเลาะกันบ้านแทบแตก แต่ตอนนี้เธอเหนื่อยจะพูดเลยปล่อยเขา

       “อาจจะมีบ้างแต่ไม่ได้ออกไปผับ” เขาบอกตามความจริง ช่วงนี้เขาติดเพื่อนและชอบออกเที่ยวผับตามประสาวัยของเขา

       “ค่ะ อย่ากลับดึกนะ” เธออนุญาตเพราะรู้ดีว่าห้ามเขาไม่ได้อยู่แล้ว

       “ขอบคุณนะที่เข้าใจ”

       “ทำรายงานที่บ้านใครคะ?” เธอหันมาถามเขา เพื่อนของชายหนุ่มเธอไม่เคยเจอหน้า แต่พอจะรู้จักชื่อบ้าง

       “ก็มีไอ้สิงห์ไอ้เต”

       “ดูแลตัวเองตัวนะ” เธอยอมรับว่าไม่ค่อยไว้ใจภูริ เพราะการกระทำที่ผ่านมาของเขา ถ้ามัวแต่ระแวงกันอยู่แบบนี้ชีวิตของเธอคงไม่มีความสุข

“ขอบคุณนะเดียร์พี่สัญญา จะรีบทำให้เสร็จแล้วรีบกลับไม่ดึกแน่นอน” ใบหน้าของภูริก็ผ่อนคลายราวกับยกภูเขาออกจากอก เขารีบยกมือขึ้นประคองแก้มเธอเบาๆ ก่อนก้มลงหอมแก้มฟอดใหญ่ด้วยความดีใจ

หญิงสาวเม้มริมฝีปากพยายามไม่เผยสีหน้าอะไรมากนัก แต่ในใจยังคงมีความกังวลซ่อนอยู่ เธอเพียงพยักหน้าสั้นๆ เป็นการตอบรับ

“ปะป๊าจะรีบกลับมาหาลูกนะครับ” เขาพูดพลางยิ้มให้เด็กน้อยที่ยังหลับสนิท

เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในโทรศัพท์ของเดียร์ ขณะเธอกำลังกล่อมลูกให้หลับสนิท เธอหยิบขึ้นมาเปิดดูด้วยความสงสัย ทว่าทันทีที่สายตาปะทะกับภาพที่ถูกส่งมา มือของเธอก็สั่นระริก

ภาพถ่ายภูรินั่งเอนตัวอยู่บนโซฟาในห้องหนึ่ง แขนของเขาโอบเอวผู้หญิงแปลกหน้าที่นั่งแนบชิด ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มผ่อนคลาย ไม่เหมือนคนที่กำลังทำรายงานอย่างที่บอกไว้เลยสักนิด

“ไม่จริง…” เดียร์พึมพำน้ำตาคลอขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว หัวใจเธอเหมือนถูกใครเอามีดกรีดซ้ำลงไปอย่างโหดร้าย

ความโกรธและความน้อยใจปะทุขึ้นมาพร้อมกัน ภาพของภูริที่เคยสัญญาไว้ ว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจมันลอยวนในหัวราวกับคำโกหกที่ตอกย้ำเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ภูริทำไมต้องหลอกกันด้วย” เสียงเธอสั่นพร่าทั้งน้ำตาไหลพราก เธอเผลอกำโทรศัพท์แน่นจนข้อนิ้วซีด เธออยากจะตะโกน อยากจะโทรไปถามให้รู้เรื่อง แต่ก็กลัวว่าจะได้ยินคำโกหกที่เจ็บยิ่งกว่าภาพที่เห็นตรงหน้า

เดียร์นั่งตัวสั่นอยู่ข้างเตียงลูกความโกรธแผดเผา แต่ความรักที่มีต่อผู้ชายคนนั้นก็ยังฝังลึก เธอไม่รู้เลยว่าคืนนี้ควรจะรอเขากลับมาหรือเก็บกระเป๋าแล้วจากไปให้พ้น

“เดียร์มีอะไรเหรอทำไมอุ้มลูกมากลางดึก” ป้าอิ่มแม่ของน้ำอ้อยที่ทำงานบ้านของภูริมานานแปลกใจไม่น้อย

“เดียร์ฝากลูกหน่อยได้ไหมคะ มีธุระ”

“ธุระกลางดึกเลย ส่งคุณหนูเดี๋ยวตื่น”

“ขอบคุณมากนะคะป้า เดียร์จะรีบกลับมารับลูก” เธอหันหลังเดินออกไป พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมาต่อหน้าผู้ใหญ่

“ทะเลาะกันแน่ๆ เลยช่วงนี้เดียร์ไม่ค่อยมีความสุข” น้ำอ้อยมองตามแผ่นหลังของเดียร์

“อย่ายุ่งเรื่องของคนอื่น”

“แม่อ่ะขนาดเดียร์มันยังมีวาสนาได้เป็นสะใภ้บ้านหลังนี้เลย” เธออยากมีผู้ชายรวยๆ มาเลี้ยงดูบ้าง

“แกจะเป็นสะใภ้คุณท่านหรือไง”

“แม่อายุขนาดนั้นพักก่อน” น้ำอ้อยเดินเข้าห้องนอนไป เรื่องหน้าตาหรือวาสนาคนเรามันแข่งขันกันไม่ได้จริงๆ

เดียร์ยืนอยู่หน้าตึกคอนโดสูง เธอกำโทรศัพท์แน่นจนเหงื่อซึมออกมาตามฝ่ามือ โลเคชั่นที่ถูกส่งมามันชี้ชัดตรงนี้จริงๆ หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก

ระหว่างก้าวเข้าไปในลิฟต์ ความคิดในหัวพลุ่งพล่านไม่หยุด ถ้าเปิดประตูแล้วเห็นภูริอยู่กับผู้หญิงจริงๆ จะทำยังไง หรือจะเดินหนีไปทันที แต่ไม่ว่าทางไหนก็เจ็บปวดทั้งนั้น

เธอหลับตาลงสูดลมหายใจลึกพยายามควบคุมหัวใจที่สั่นระรัว ขาเธอสั่นจนแทบจะก้าวไม่ออก แต่ความอยากรู้ความจริงก็กัดกินใจจนไม่อาจถอยหลังได้

ภูรินั่งพิมพ์รายงานอยู่สายตาของเขาจับจ้องไปที่คอมพิวเตอร์ เขาปิดเสียงโทรศัพท์ไว้จึงไม่รู้ว่าตอนนี้เดียร์กระหน่ำโทรมาหาเขา

“ดื่มหน่อย” สิงห์ยื่นแก้วให้ภูริ

“ไหนบอกมาทำรายงานทำไมพวกมึงมานั่งดื่มกันชาติไหนจะเสร็จ” เขาบ่นแถมยังชวนเพื่อนผู้หญิงมานั่งดื่มด้วยกัน

“ไอ้ภูมึงหงุดหงิดอะไรเมียที่บ้านบ่นหรือไงวะ” เตชินมองใบหน้าเพื่อน ช่วงนี้ชวนไปไหนก็ไม่ไปบอกจะรีบกลับบ้าน เขาอยากรู้จริงๆ ที่บ้านมันมีอะไร

“เตอย่าไปแหย่ภูเขาสิ เขาทำงานอยู่” พีรญาแก้ต่างให้เพื่อน

“กูถามมึงจริงๆ นะ สาวๆครึ่งมหาลัยเขาตามจีบมึงทำไมมึงไม่ชอบว่ะ”

“ไม่ชอบก็คือไม่ชอบไงมึงจะมาถามทำไมวะ” ภูริเริ่มหัวเสียตอนนี้ดึกมากแล้ว แต่งานยังไม่คืบหน้าไปไหน เขาอยากกลับบ้านใจจะขาด

“ถามเล่นแค่นี้จะหงุดหงิดทำไม”

“ถ้าพวกมึงไม่ทำต่อกูจะกลับแล้ว”

“เมื่อก่อนกินเหล้าด้วยกันได้ถึงเช้า เดี๋ยวนี้เป็นอะไร” สิงห์ถามขึ้น เพราะเพื่อนเริ่มเปลี่ยนไป

“อยากกลับง่วง” เขาตอบไปแค่นั้น

“เมื่อก่อนกินเหล้ายันหว่างบอกไหว เดี๋ยวนี้ง่วงตั้งแต่สามทุ่ม” เพื่อนๆ ต่างพากันหัวเราะ แต่ภูริไม่สนใจเขาเก็บของใส่กระเป๋า

“ภูเป็นอะไร!”

“มึงเป็นอะไรวะ” เพื่อนต่างพากันมาพยุงภูริ เมื่อเห็นว่าเขาเหมือนจะหวูบหลับ

“กูเวียนหัวนิดหน่อย” เขานั่งลงที่โชฟาข้างกายมีพีรญาที่คอยนวดต้นคอให้ด้วยความเป็นห่วง ช่วงนี้เขาเครียดเรื่องส่วนตัวทำให้กดดันจนนอนไม่ค่อยหลับ

“ไหวมั้ย? ทำไมหน้าซีดขนาดนี้นะ” พีรญารีบควานหายาดมมาให้เขา แสดงออกชัดเจนว่าเป็นเพื่อนจนออกนอกหน้า

“สำออยนายเป็นอะไรหรือเครียดเรื่องเรียน” ดอกไม้สาวสวยที่นั่งดื่มอยู่เงียบๆ เอ่ยขึ้นพร้อมกับโยนขวดน้ำเปล่าให้ภูริ

“อาจจะนอนไม่พอ” เขาตอบไปแค่นั้นและสูดดมยาดม พิงตัวลงที่พนักโชฟาหลับตาลงช้าๆ เพื่อนเห็นท่าไม่ค่อยดีเลยปิดเพลง

“ใครมาเค่ะประตูวะ พ่อมึงมาหรือเปล่า” สิงห์ถามขึ้น กลัวว่าข้างห้องจะแจ้งตำรวจมาจับ

“กูไปเปิดเอง” เตชินเดินไปเปิดประตู ทำให้เขานิ่งไปเพราะมีผู้หญิงหน้าตาน่ารักยืนอยู่ตรงหน้า เขามองสำรวจเพราะไม่เคยเจอหน้ามาก่อน

“มีอะไรครับ”

“พอดีมาหาคนรู้จักค่ะ” เดียร์ตอบกลับไปมองเข้าไปข้างในแต่ไม่เห็นอะไร แต่เหมือนจะมีกลิ่นบุหรี่กับกลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมาจากตัวเขา

“มาหาใครเหรอหรือเป็นเด็กไอ้สิงห์” เขาไม่รู้ว่าเพื่อนจะนัดสาวมาหาถึงที่คอนโด

“เปล่าค่ะ” เธอส่ายหน้า

“แต่พี่จำได้ว่าน้องไม่ใช่เด็กในสต๊อก หรือว่ามาหาไอ้ภู” เขาเดาไปเรื่อย แต่เห็นสีหน้าไม่สู้ดีเขาเริ่มมั่นใจว่าต้องเป็นเด็กของภูริ

“...”

“มาหาไอ้ภูใช่ไหม”

“เขาอยู่ที่นี่ไหม” เดียร์ตัดสินใจถามออกไป กลัวว่ารูปที่เห็นจะเป็นความจริง หากเป็นแบบนั้นเธอจะทำอย่างไรต่อไปดี

“เด็กไอ้ภูจริงๆ มันไปหาผู้หญิงหน้าตาแบบนี้มาจากไหนอายุถึง 18 หรือยัง” เตชินถามออกไปกลัวว่าเพื่อนจะถูกจับ

“ค่ะ” เธอพยักหน้า

“มันอยู่ในห้องเข้ามาสิ”

เดียร์นึกอยู่สักพักตัดสินใจเดินเข้ามาในห้อง ที่มีแสงไฟสลัวๆ หัวใจเต้นกระหน่ำราวกับจะทะลุออกมา เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย

“ดีขึ้นหรือยังภู”

“อืมมม”

“พริมช่วยนะ”

“ดีขึ้นแล้ว”

       หญิงสาวได้ยินแบบนั้นจึงรีบเดินเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้เดียร์ยืนตะลึง ภูรินั่งกอดเอามือเกาะเอวของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่จริงๆ เธอถึงกับยืนอึ้งไปพักหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ เสียงหัวใจดังแข่งกับความเงียบรอบตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel