บทย่อ
คบกันมาตั้งแต่เด็ก จนกลายเป็นคุณแม่วัยใส ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูลูก ปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตตามวัยมีทางของตัวเอง ทำหน้าที่ตัวเองไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเราหมดรักกันตั้งแต่ตอนไหน?
CHAPTER 1 ความรักแบบลับๆ
เอวารินทร์นอนนิ่งอยู่บนเตียงผ้าห่มผืนเก่าห่มอยู่เหนือไหล่บาง ร่างสูงของภูริยังคงอยู่ข้างเธอแขนแกร่งกอดเอวเธอไว้หลวมๆ ราวกับไม่อยากให้เธอหายไปไหน
หัวใจของเดียร์เต้นแผ่วในอกความอุ่นจากร่างกายเขายังอยู่ แต่ความเป็นจริงกลับเย็นชาเกินกว่าจะลืมได้ เธอเป็นแค่ลูกคนใช้ในบ้านของเขา
และเขาจิณณ์ภูริคือคุณชายคนโตและคนเดียวของคฤหาสน์หลังนั้น
“พี่ภูริ” เธอเอ่ยเรียกเสียงเบาขณะที่มือเล็กแตะเบาๆ ที่แขนเขา
“อืม” เขาครางในลำคอ ไม่ยอมลืมตามือยังรั้งเอวเธอไว้แน่นขึ้นอีกนิด
“ใกล้จะตีสี่แล้ว”
ภูริลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตาคู่นั้นยังเต็มไปด้วยความง่วงงัน แต่ลึกๆ แล้วมีแววไม่พอใจฉายชัด เขาขยับตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง มองหน้าเธอที่หลบสายตาเขาด้วยความสับสน
“เดียร์เราต้องแอบแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน?” เขาถามเสียงต่ำ
เธอไม่ตอบทันทีดวงตาคู่นั้นวูบไหว เธออยากพูดว่าก็จนกว่าคนในบ้านของเขาจะยอมรับเธอ จนกว่าเธอจะไม่ใช่ ลูกคนใช้ที่ถูกมองว่าไม่คู่ควร แต่คำพูดพวกนั้นกลับติดอยู่ที่ลำคอ
“จนกว่าจะถึงวันที่มันไม่ควรเป็นความลับอีกต่อไป” เธอพูดเพียงเท่านั้น
“2 ปีแล้วเดียร์เราคบกันมา 2 ปีแล้วพี่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนว่าตัวเองเป็นชู้”
ภูริสบตาเธอเนิ่นนานเขาอยากจะพูด อยากจะดึงเธอมากอดไว้แน่นๆ แล้วบอกว่าเขาไม่สนใครทั้งนั้น แต่อย่างที่เธอว่ามันยังไม่ถึงวันนั้น
สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจลุกขึ้นจากเตียง หยิบเสื้อตัวนอกขึ้นมาใส่
“ไว้คืนนี้พี่จะแอบกลับมาอีก”
“เดียร์มีอ่านหนังสือ” เธอส่ายหน้าแต่ก็อดยิ้มบางๆ ไม่ได้ ดวงตาของเขาเวลามองเธอไม่เคยหลอกลวง
“เดี๋ยวมาช่วยติว”
“เดียร์อย่าลืมนะ ไม่ว่าใครจะมองเดียร์เป็นแบบไหนสำหรับพี่เธอคือคนที่มีค่าที่สุด” เขาก้าวไปที่ประตูก่อนจะหันกลับมามองอีกครั้ง
ประตูปิดลงเบาๆ เหลือเพียงเดียร์ที่นอนนิ่งอยู่ในห้อง ความอบอุ่นจากเขายังไม่ทันจางหาย แต่ความเป็นจริงก็รีบมาเยือนอย่างรวดเร็ว
ที่ต้องหลบซ่อนๆ เพราะหญิงสาวเพิ่งอายุสิบเจ็ดปี ส่วนเขาอายุสิบเก้า เราท้องสองคนแอบคนกันมาตั้งแต่ช่วงอายุสิบห้า ซึ่งเธอยังเด็กและไม่คู่ควรกับเขา
ภูริเป็นคนน่ารักเขามักเข้าหาเธอและคอยสอนการบ้านทุกครั้ง จนทั้งสองพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคนรักกันแรกๆ ก็อยู่ห่างกันได้แต่หลังๆ ภูริเริ่มตามติดชีวิตของเธอมากขึ้น
หลังจากภูริกลับไปเดียร์ก็พยายามข่มตาหลับอีกครั้ง แต่เปล่าประโยชน์สมองของเธอเต็มไปด้วยความคิดยุ่งเหยิง ตั้งแต่สายตาของเขายามพูดคำว่าคนที่มีค่าที่สุดไปจนถึงความรู้สึกหนักอึ้งในอกที่เธอไม่อาจอธิบาย
ไม่นานความรู้สึกคลื่นไส้ก็จู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวเธอรีบลุกพรวดจากเตียง วิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทันเสียงอาเจียนดังสะท้อนอยู่ในห้องเล็กๆ พร้อมกับหยดน้ำตาที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะปล่อย
เธอก้มหน้าลงพิงกับขอบอ่าง ลมหายใจหอบถี่ฝ่ามือสั่นเทา กำแน่นแนบหน้าท้องตัวเองอย่างอัตโนมัติ ก่อนจะฝืนหัวเราะให้กับเงาของตัวเองในกระจก
"สงสัยเครียดเรื่องสอบเกินไป" เธอพึมพำเสียงแผ่ว เหมือนพยายามบอกตัวเองให้เชื่อเช่นนั้น
เธอเป็นนักเรียนทุนต้องทำคะแนนดีถึงจะรักษาสถานภาพนั้นไว้ได้ และใช่มันก็มีเหตุให้เครียดพอสมควร แต่อาการแบบนี้มันเกิดขึ้นมาเกือบทุกเช้าในช่วงหลัง
ภูรินั่งมองใบหน้าแสนหวานที่ทำให้เขาหลงใหลจนหาทางไม่เจอ เดียร์ผู้มีดวงตากลมโตใบหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตา ทรวดทรงอกเอวไม่ต้องพูดถึงเพราะเขาสัมผัสมาหมดแล้ว
“อุ้ย พี่ภูเดียร์กำลังดูดฝุ่นอยู่” เธอหดลำคอหนีสัมผัสของเขา ตอนนี้มือของเขาเริ่มลูบไล้ต้นขาของเธอ
“ตอนเช้าไม่มีธุระต้องไปไหน เบบี๋~” น้ำเสียงเขาแหบพร่าพยายามบอกความต้องการของตัวเอง เขาหลอกให้หญิงสาวขึ้นมาทำความสะอาดห้องนอนของเขา
“อ๊ะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น”
“เจ้ดีนี่ไม่อยู่ป๊าไม่อยู่คุณปู่ก็ไม่อยู่” เขารู้ว่าคนตัวเล็กกำลังหาข้ออ้างเพื่อหวังเอาตัวรอด
“แต่เมื่อคืนก็...ก็” เธอไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ
“ก็อะไรพูดให้จบสิ” เขาดันตัวเดียร์มานั่งบนตักแกร่งของเขา ปลายคางวางไว้ตรงบ่าของหญิงสาวพอดี
“เราเพิ่งจะนอนด้วยกันมาเองนะ”
“เมื่อคืนส่วนเมื่อคืนสิครับ ตอนเช้าก็ต้องนับรอบใหม่”
“แต่เดียร์ต้องลงไปช่วยแม่” เธอหาข้ออ้างเพราะไม่อยากให้เขาทำอะไรแบบนั้น กลัวว่าจะมีคนว่ากินบนเรือนขี้บนหลังคา
“ครึ่งชั่วโมง” เขาล้วงมือเข้าไปในเสื้อของเธอ ปลดตะขอบราเชียร์อย่างชำนาญ มือหนากอบกุมทรวงอกที่ใหญ่เกินตัวของเดียร์
“อ๊ะ อื้อ” เธอบิดตัวไปมาเมื่อเขาสะกิดหยอกล้อกับยอดถันเบาๆ ร่างกายเธอเกร็งไปทั้งตัวลมหายใจเริ่มติดขัด
“ถอดชุดถ้าช้าจะไม่ใช่แค่ครึ่งชั่วโมง”
“ใจร้าย”
เดียร์รีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกถึงแม้จะเปลือยกายต่อหน้าเขาหลายครั้งแล้ว แต่ยังเขินอายกับสายตาที่หื่นกระหายของเขา
“อ๊ะ อื้อ เดียร์เจ็บ”
“ซี๊ดดด...อ๊าาา...โทษทีต้องทำเวลาเดี๋ยววันหลังจะเลียให้ถึงเท้าเลย” เขากดเอ็นร้อนเข้าหาร่องเยิ้ม ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความคับแน่นที่บีบรัดตัวตนของเขา ปากหนาดูดเลียยอดยันและประทับตีตราแสดงความเป็นเจ้าของ
เดียร์กอดเขาไว้แน่นยามที่เขาถาโถมเข้ามา เนื้อแนบเนื้อแบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น ทำให้ภูริมีความสุขปากหนาครางกระเส่าพร้อมกับพร่ำเพ้อบอกรักเดียร์
“พี่รักเดียร์นะ”
“อื้ออ...” เธอไม่มีโอกาสพูดบอกรักเขาเพราะลิ้นหนาแทรกเข้ามาหยอกล้อในโพรงปาก เขากระแทกท่อนเอ็นเข้าออกตามแรงอารมณ์
ก่อนจะปลดปล่อยน้ำกามฉีดพ่นเข้าไปในร่องสวาท เขาไม่ยอมดึงออก ในท้องน้อยของเธอเหมือนผีเสื้อโบยบินเมื่อหายเหนื่อยจึงหันไปต่อว่าเขา เหมือนทุกครั้งที่เขาทำ
“อื้อ พี่ภูไม่ใส่ถุง”
“เดี๋ยวซื้อยาคุมให้ มันฟินเอาออกไม่ทัน” เขาไม่คิดจะดึงออกต่างหาก
“เดียร์ไปล้างก่อนจะลงไปด้านล่างแล้ว” ครั้งนี้เขาไม่รั้งเดียร์จึงรีบเข้าไปล้างตัวและรีบลงมาช่วยแม่ทำงาน ในช่วงวันหยุดเธอไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน แต่จะมีบางวันที่แอบออกไปเที่ยวกับภูริสองต่อสอง
“เดียร์เอาผลไม้ยกไปให้นายน้อยหน่อย”
“แล้วทำไมไม่ยกขึ้นไปเอง”
“เป็นเด็กเป็นเล็กใช้อะไรให้มันขยันหน่อย” ดาทองมองใบหน้าลูกสาว ช่วงนี้รู้สึกขี้เกียจใช้อะไรไม่เคยได้
“ไปก็ได้จ้ะ” ที่ไม่อยากขึ้นไปเพราะกลัวว่าจะถูกเขาจับกินอีกต่างหาก อยู่กันสองต่อสองทีไรเป็นเธอที่ต้องเสียเปรียบเชา
“เดียร์หน้าอกไปโดนอะไรมาแดงเชียว” น้ำอ้อยทักทายสาวรุ่นน้อง
“เอ่อ โดนมดกัดจ้ะเดียร์ไปก่อน” เธอรีบยกผลไม้ขึ้นไปให้เขาที่ชั้นบน ไม่ได้แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะลงมาหน้าอกของเธอไม่มีที่ว่างให้เขาทำรอยแล้ว
ภูรินั่งเล่นเกมด้วยใบหน้าเคร่งเครียดชีวิตแบบคนรวยแบบเขาไม่ต้องทำอะไร แค่นั่งๆ นอนก็มีกินมีใช้ไปถึงชาติหน้าด้วยความที่เป็นลูกคนเล็กคนในบ้านจึงเอาใจเขา
“ไปผับป่ะมีสาวๆ ไปด้วยเยอะเลย”
“กูไม่ว่าง”
“ไอ้ภูมึงทำตัวเหมือนมีเมียเลย ไหนบอกโสดว่ะ”
“ก็โสด” แต่มีเมียพวงท้ายมาด้วย เพื่อนในมหาลัยไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาคบกับเดียร์ แต่เขาก็ไม่คิดจะมีคนใหม่เพราะในหัวใจก็มีแค่เดียร์คนเดียวและเป็นแบบนี้มาตลอดสองปี
“จะพาไปตีหรี่เสียหน่อยแม่ง”
“พักบ้างมึงไปทุกคืนเลย”
“พริมโคตรแจ่มเลยทำไมมึงไม่รักเขาว่ะ” เตชินบ่นเพราะภูริมีแต่สาวๆ วิ่งเข้าหาแต่อีกฝ่ายไม่สนใจใคร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“แค่นี้ก่อน” ภูริรีบว่างสายกลัวว่าจะมีคนเข้ามาได้ยินในสิ่งที่พูดเขาพูด พอเดินไปเปิดประตูเห็นเดียร์ยืนนิ่งในมือมีผลไม้
“แม่ให้เอามาให้” เธอรีบยัดใส่มือเขาและหันหลังเดินออกไป เพราะได้ยินในสิ่งที่เขาคุยกับเพื่อนในมหาลัยคงจะมีสาวสวยที่เข้าหาเขา กลัวเหลือเกินว่าเขาจะเจอคนที่ถูกใจและทิ้งเธอไป
“เพื่อนแค่พูดเล่นพริมแค่เพื่อนในกลุ่ม” เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด
“เดียร์เข้าใจค่ะ” สังคมของเขาคงจะมีแต่คนรวยและสาวสวยเข้าหาเพราะภูริเป็นคนหน้าตาดี แถมชาติตระกูลฐานะทางสังคมถือว่าดีมาก
“อย่างอนสิบ่ายนี้เดี๋ยวพาออกไปเดินห้างเย็นค่อยกลับ”
ด้วยความที่ภูริและเดียร์แอบคบหากันเป็นความลับ ทำให้ไม่มีใครในครอบครัวรับรู้ถึงความสัมพันธ์นี้เลย
ภูริมักจะพาเดียร์ออกไปเที่ยวด้วยกันอยู่เสมอ และเพราะความรักที่เธอมีให้เขามากเหลือเกิน เดียร์จึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะต้องยืนยาวเธอเชื่อเช่นนั้นมาตลอด
ตลอดสองปีที่ผ่านมาภูริยังคงทำทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่มีท่าทีว่าเขาจะรักเธอน้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งคู่เก็บความสัมพันธ์นี้ไว้อย่างแนบเนียน ไม่มีใครเคยจับพิรุธหรือสังเกตเห็นว่าระหว่างเจ้านายกับลูกน้องคู่นี้ มีบางอย่างพิเศษซ่อนอยู่
แม้แต่ดีนี่พี่สาวของภูริ ที่สนิทกับเดียร์มากและชอบใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ก็ยังไม่เคยเฉลียวใจเลยสักครั้ง

