บท
ตั้งค่า

5.2 ประตูนรกเปิดแล้ว

สิ่งแรกที่ปีแสงสัมผัสได้ในตอนที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันใหม่คือความสบายตัว เป็นความกระปรี้กระเปร่าสดชื่น เผยรอยยิ้มออกมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตาตื่นด้วยซ้ำ สูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอด…คว้าแขนควานหาคนตัวเล็กที่คิดว่าต้องนอนอยู่ข้าง ๆ แต่กลับเจอเพียงความว่างเปล่า เท่านั้นคิ้วเรียวก็ขมวดชิดในทันที แต่ไม่ทันได้ลืมตามองดูเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ปลุกมัน”

เสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงทุ้มต่ำฟังดูมีอำนาจของผู้ชายวัยกลางคน ส่วนความรู้สึกเจ็บที่ข้างลำตัว…มันคล้ายกับว่าเขาโดนถีบเข้าอย่างแรง เท่านั้นก็ลืมตาตื่นในทันที แล้วสิ่งที่ได้เห็นก็ทำให้ไอ้ปีมันแทบหยุดหายใจ

ปลายปืนพร้อมด้วยที่เก็บเสียงกำลังจ่ออยู่ตรงหน้าผากเขา…คนที่ถือมันอยู่คือชายวัยสามสิบปลายถึงประมาณสี่สิบต้น ๆ ที่จ้องมองเขาราวกับต้องการจะฆ่าให้ตายในทันทีที่ลืมตา ด้านหลังเขามีชายฉกรรจ์ชุดดำอีกห้าคน และที่ยืนอยู่มุมห้องนอนคือพริมโรสที่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาวหน้าตาสวยที่ไหนก็ไม่รู้

“นี่มันอะไรกันครับ?” โพล่งถามพลางขยับตัวลุกขึ้นนั่ง หน้าผากเกิดเป็นเม็ดเหงื่อทั้ง ๆ ที่แอร์ในห้องนั้นเย็นเฉียบ

“กล้าดียังไงมาแตะต้องลูกสาวกู?!”

“ลูกสาว?” ทวนคำที่อีกฝ่ายว่า ไล่สายตามอง…เพียงเสี้ยววินาทีก็รู้ได้ในทันทีว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งปืนในมือ…ทั้งนาฬิกาข้อมือราคาหลักล้าน ไหนจะสูทแบรนด์ดังจากอิตาลี แบบเดียวกับที่เขาสวมเมื่อวันก่อนอีก

“เด็กคนนั้นเป็นลูกสาวกู!” เพทาย ลูเซียโน มาเฟียใหญ่คำรามลั่น

“เด็ก?” แต่ละคำที่ได้ยินทำเอาปีแสงอยากปลิดชีวิตตัวเองทิ้งเสียเดี๋ยวนี้ “พวกคุณเป็นใครครับ?”

“เพทาย ลูเซียโนคือชื่อกู ส่วนนั่น…พริมโรส ลูเซียโน ลูกสาวอายุสิบแปดของกู!”

ฉิบหายแล้วไอ้ปี!

งานนี้มึงได้เหลือแต่ชื่อแน่ ๆ

ปีแสงรู้แก่ใจว่าเพทาย ลูเซียโนนั้นเป็นใคร รู้ด้วยว่ามาเฟียคนนี้สามารถฆ่าคนได้แบบไม่ต้องรู้สึกสะทกสะท้าน…และรู้อีกเหมือนกันว่าประตูนรกได้เปิดรอต้อนรับเขาแล้ว!

เมื่อความตายกำลังรอคอยอยู่ตรงหน้า ปีแสงเพิ่งจะตระหนักได้ว่าชีวิตอันไร้ค่าของเขามันสำคัญแค่ไหน ถึงจะอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอดแต่เขายังตายไม่ได้ เขายังมีสิ่งที่ต้องการ มีเป้าหมายที่ต้องการจะคว้ามันไว้รอเขาอยู่ มันไม่ใช่ความฝัน…คนอย่างเขาไม่เคยนึกคิดถึงความใฝ่ของชีวิต เขามีเพียงสิ่งที่ต้องการ มีแค่จุดที่อยากไปให้ถึงเท่านั้น ก็อย่างที่บอก…

เขามันก็แค่ไอ้ชาติหมาที่หลอกผู้หญิงไปวัน ๆ ด้วยเหตุผลสั่ว ๆ ว่าต้องการเงินห้าร้อยล้าน และในเมื่อยังไม่ได้มันมาเขาก็ยังตายไม่ได้

เอาไว้ก่อนเรื่องที่ว่าจะเอาเงินห้าร้อยล้านนั่นไปทำอะไร ตอนนี้ทางเดียวที่ต้องทำคือหาทางเอาตัวรอด ในห้องนอนมีบุรุษเพศชายวัยฉกรรจ์อยู่หกคน…หนึ่งคือเพทาย สองคือมือขวาของเขาที่ยืนอยู่ข้างเตียงซึ่งน่าจะเป็นคนที่เตะอย่างแรงเพื่อปลุกเขาขึ้น อีกสี่คนเดาว่าเป็นบอดี้การ์ดซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง คำนวนแล้วไม่มีทางที่ปีแสงจะเอาตัวรอดไปได้ด้วยการต่อสู้แน่ เขาเป็นรองอย่างเต็มรูปแบบ และเพียงแค่ขยับตัว…ไม่แน่ว่าเพทายอาจจะยิงแสกหน้าเขาในทันที

อย่างนั้นแล้วเขาจะเอาตัวรอดด้วยวิธีไหนล่ะ?

เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตายทำให้ปีแสงงัดเอาความรู้ ไหวพริบ งัดเอาประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดที่มีขึ้นมาใช้ เรื่องที่โรสหรือพริมโรสเป็นเด็กสาวอายุสิบแปดแถมยังเป็นลูกสาวมาเฟีย เอาไว้ก่อน…เอาไว้จะจัดการเรื่องนั้นทีหลัง ตอนนี้เขาต้องจัดการกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อน อีกฝ่ายคือมาเฟียใหญ่ แน่นอนว่ามีทั้งเงินและอำนาจ มีคอนเนกชั่นมากมาย ทั้งเส้นสายคนมีตำแหน่งหรือแม้แต่คนในวงการดำมืด ไม่มีทางที่ปีแสงจะใช้เงินน้อยนิดที่มีเมื่อเทียบกับที่เพทายมีมาแก้ไขเรื่องนี้ได้ และต่อให้เขาอ้าปากพูดว่าจะรับผิดชอบด้วย นั่นแปลว่าเขาตีค่าลูกสาวอีกฝ่ายด้วยเงิน ย่อมมีแต่ตายกับตายเท่านั้น

คิดสิ…เขาเป็นมาเฟีย คิดสิวะไอ้ปี! มึงจะเอาอะไรมาสู้กับมาเฟีย!

“ฮึก! คุณป๋าอย่าทำแบบนี้นะ! คุณป๋าไม่มีสิทธิ์ฆ่าเขานะ! พี่ปีแสงไม่ได้ทำอะไรผิด! ลูกหลอกเขาเอง!” ยังไม่ทันที่ปีแสงจะคิดหาทางออกเพื่อเอาชีวิตรอดได้ พริมโรสก็โพล่งขึ้นมาทั้งน้ำตา พยายามดีดดิ้นแต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากเกาะกุมของปาลิน มือซ้ายหรือเลขาของเพทายได้

“ไม่ต้องพูด!” เพทายตวาดใส่ลูกสาว ไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้า สายตาของมาเฟียใหญ่ยังคงจับจ้องที่หน้าของปีแสง ปลายปืนก็ยังจ่ออยู่ที่หน้าเขา

“เพราะคุณป๋าเป็นแบบนี้ไง! เพราะลูกไม่เคยมีสิทธิ์พูด! เพราะคุณป๋าไม่เคยรับฟัง ไม่เคยใส่ใจ คุณป๋าไม่เคยรัก! ลูกถึงทนอยู่กับคุณป๋าไม่ได้! ฮือ ๆ จะมาทำเหมือนหวงแหนลูกเพื่ออะไร? ในเมื่อคุณป๋าไม่เคยรักลูกเลย! บางทีลูกอาจไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของคุณป๋าก็ได้! ปล่อยลูกไปเถอะนะ! ฮึก! ถ้าไม่รักก็ปล่อยให้ลูกไป! เพราะลูกไม่อยากอยู่กับคุณป๋าแล้ว!”

ไอ้ฉิบหายเอ๊ย!

ทำไมต้องเป็นกูที่มาอยู่ท่ามกลางสงครามประสาทของสองพ่อลูก?

หลอกงั้นหรือ? ปีแสงเชื่อว่าตัวเองได้ยินไม่ผิด…พริมโรสเพิ่งจะพูดออกมาว่าเธอเป็นฝ่ายหลอกเขา ให้ตายเถอะ…เขาคือปีแสงนะเว้ย! เขาหลอกผู้หญิงมาเป็นร้อยแล้ว! เธอเป็นแค่เด็กสิบแปดกล้าดียังไงมาหลอกเขา! แล้วเสือกหลอกสำเร็จซะด้วยมั้ง!

“ปาลินพาออกไป” เพทายวางนิ่ง สายตาแข็งกร้าวไม่มีส่อแววว่าจะสะทกสะท้านกับคำพูดของลูกสาว เอ่ยเสียงเรียบกับเลขาสาวปล่อยให้เธอพาพริมโรสออกไปจากห้องนอน

“ไม่เอา! ฮึก! คุณลินปล่อยพริม! คุณป๋าอย่าฆ่าเขานะ! คุณลินปล่อย!”

“คุณหนูไปกับลินค่ะ! อย่าทำให้เรื่องมันแย่มากไปกว่านี้เลยนะ ไปกับลิน…เชื่อลินเถอะนะคะ” ปาลินฉุดกระชากลากถูพริมโรสออกมา แววตาของเธอเศร้าหมองเพราะเห็นใจเด็กสาวเป็นอย่างมาก และพอเห็นว่าปาลินคนเดียวไม่อาจเอาพริมโรสที่ขัดขืนเท่าชีวิตออกไปได้ การ์ดสองในสี่คนจึงเข้ามาช่วย จนในที่สุดก็สามารถพาพริมโรสออกไปได้

“ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง” เอาวะ! ปีแสงมองเหตุการณ์แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หากเพทายคิดจะฆ่าเขาจริง คงไม่เสียเวลายืนจ่อปืนอยู่แบบนี้ เขาคงตายไปนานแล้ว ตายทั้ง ๆ ที่ยังหลับอยู่แบบนั้น

“มึงจะรับผิดชอบยังไง? คิดว่าตัวเองมีปัญญาจะรับผิดชอบเหรอ? คุณหนูมีค่ามากกว่าชีวิตของมึง!” คีน มือขวาของเพทายเอ่ย

“ปล่อยให้มันพูด” เพทายบอกกับคีน

“ผมมีเงิน ถึงไม่มาก…แต่ก็มี มีคอนโดหลังนี้กับรถ มีทรัพย์สินอีกนิดหน่อย…รวบรวมมาคงได้สักห้าสิบล้าน ถ้ามันพอจะซื้อชีวิตผมได้…” ปีแสงไม่กล้าตีราคาลูกสาวเพทาย แต่เขากำลังเสนอเงินห้าสิบล้านเพื่อเอาชีวิตรอด เขาคิดจะซื้อชีวิตตัวเอง

“หึ!” ได้ยินแบบนั้นเพทายก็แสยะยิ้ม “ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต…มึงพรากอนาคตที่สดใสไปจากลูกสาวกู มึงก็ต้องรับผิดชอบด้วยชีวิต คิดว่าเงินห้าสิบล้านของมึงจะช่วยจบเรื่องนี้ได้เหรอ? ชีวิตมึงอาจไร้ค่า…แต่ลูกสาวกูมีค่ามากกว่านั้นเยอะ!”

ก็ยิงกูเลยสิวะ! พล่ามเพื่อ? ถ้าลูกสาวมีค่ากับมึงจริง…ทำไมเธอถึงได้หนีออกมาแบบนั้นล่ะวะ?

ปีแสงนึกอยากจะพูดสิ่งที่คิดออกไป แต่รู้ว่าแค่อ้าปากพูด…วิญญาณคงหลุดออกจากร่างทันที

“งั้นคุณต้องการอะไรจากผม?”

“ชีวิตมึงไง…เอาชีวิตทั้งหมดของมึงมาสังเวยให้ลูกสาวกู เอาทั้งชีวิตมึง! ยกให้ลูกสาวกู!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel