6 (ไม่ใช่คนเลวร้าย)
ไม่ไช่คนเลวร้าย
"อ่า"น้ำกามสีขาวขุ่นพ่นเข้าไปในเกราะป้องกันเป็นรอบที่สาม ฉันยังคงนอนกัดฟันข่มความเจ็บปวดร่างกายโดยเฉพาะส่วนตรงนั้น
"พะ พอแล้วใช่ไหม"ฉันลืมตาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายกับคนกำลังจะหมดเรี่ยวแรง
"หึ อึดดีหนิ"ชายหนุ่มบนร่างแสยะยิ้มร้ายก่อนที่จะถอนถอดท่อนเอ็นขนาดใหญ่ออกมา แล้วหลุบตามองที่กลางกายฉัน
"ยังไม่แหกเลย"ฉันเบิกตาโตจ้องหน้าคนตัวโตด้วยใจสั่น ๆ อย่าบอกนะว่าเขาจะทำอีก
"พอเถอะค่ะ นับไม่ไหวแล้ว"ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือน้ำตาคลอเบ้า
"ทนให้ได้!"ว่าจบคนตัวโตก็ถอดถุงยางอนามัยที่เต็มไปด้วยน้ำเชื้อสีขาวขุ่นออกแล้วหยิบอันใหม่ขึ้นมากัดมันด้วยปากแล้วสวมเข้าไปที่ท่อนเอ็นของเขาทันที สวบ!
"อื้ออ"ฉันร้องออกมาในลำคอรู้สึกว่าจะทนไม่ไหวต่อไปแล้ว มันหมดเรี่ยวแรง กล้ามเนื้อที่ขาล้าไปหมด ปึก ปึก ปึก เอวสอบถาโถมเข้ามาอย่างไม่ผ่อนแรง
"หึ"เจ้าของใบหน้าหล่อจ้องหน้าฉันขณะที่ท่อนอย่างยังคงกระแทกเข้าออกไม่หยุด ฉันสบตากับเขาที่กำลังจะปิดลง.
สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่สามารถผ่านมันไปได้
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดที่ท่อนล่างมาก พอจะขยับกายก็ยิ่งเจ็บแสบไปหมดทั้งตัว แต่ก็พยายามหยัดกายลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง แล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง สะดุดกับซองถุงยางอนามัยที่หล่นเกลื่อนกลาดทำให้รู้สึกซ้ำใจเป็นอย่างมาก หยดน้ำตาใส ๆ ก็รินไหลออกมา
ฉันก้มมองเรือนร่างตัวเองที่เปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่ม ก็ยิ่งรู้สึกตอกย้ำว่าตัวเองไม่ใช่คนเดิมแล้ว ฉันได้เสียความสาวให้กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ แม้แต่ชื่อฉันก็ยังไม่รู้จัก
พอเท้าแตะที่พื้นก็รู้สึกว่ามันจะสั่นแทบจะไม่มีแรงเดิน แต่ฉันก็ฝืนพาตัวเองไปชำระสิ่งสกปรกออกจากตัวให้ได้ กว่าจะจัดการตัวเองเรียบร้อยฉันก็ต้องเสียน้ำตาไปนานพอสมควร บอกตรง ๆ ว่าพอเห็นตัวเองในกระจกก็รู้สึกว่ารับไม่ได้ ร่องรอยฟันคม รอยฟกซ้ำ เต็มลำคอและหน้าอกไปหมด ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่ามีกระเป๋าเสื้อผ้ารวมถึงกล่องข้าวของฉันตั้งอยู่ ฉันรีบตรงไปเปิดดูด้วยความแปลกใจแฝงด้วยความดีใจ ที่ข้าวของฉันมาอยู่ที่นี่ จึงรับเปิดกระเป๋าหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ ก่อนที่จะสำรวจข้าวของ ซึ่งทุกอย่างไม่ได้หายไปไหนเลยสักชิ้นแม้แต่ผ้าเช็ดหน้าของรุ่นพี่ใจดีคนนั้น หลังจากนั้นฉันก็สะพายกระเป๋าเสื้อผ้ายกกล่องมาที่หน้าประตูห้องเพื่อจะออกไปจากที่นี่ แต่ทว่า...
แอ๊ดดดดด ประตูห้องเปิดเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ใช่แล้วเขาก็คือผู้ชายคนที่พรากความสาวของฉันไปนั้นเอง กล่องในมือหล่นลงที่พื้นด้วยความตกใจ
"จะหนี?"เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเดินล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามาแล้วหลุบตามองกล่องที่ร่วงตกที่พื้น
"นับจะกลับบ้าน"ฉันบอกด้วยน้ำเสียงสั่นภายในใจรู้สึกกลัว ๆ ชายตรงหน้าเอามาก ๆ
"เธอมีบ้าน?"นั้นสิ ฉันไม่มีบ้าน แต่ยังไงฉันจะต้องออกไปจากที่นี่
"ปล่อยนับไปเถอะนะ คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้ว"ฉันจ้องหน้าเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า
"ยังไม่พอ"หัวใจฉันเต้นรัว ๆ เมื่อได้ยินคำพูดจากปากชายหนุ่มตรงหน้า
"เท่านี้ก็มากพอแล้ว ปล่อยนับไปเถอะนะขอร้อง"ฉันยกมือขึ้นไหว้เขาด้วยหยดน้ำตา
"...."ชายหนุ่มมองฉันด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ต้องให้นับทำยังไงถึงจะปล่อยนับไป...."
"แค่นอนอ้าขาให้ฉันทุกคืนจนกว่าฉันจะเบื่อ"ฉันกลืนน้ำลายลงคอแล้วยกมือปาดน้ำตา
"เหอะ..."ฉันแค่นหัวเราะออกมาอย่างรู้สึกสมเพชตัวเองชะมัด
"....แล้วนับจะได้อะไร"ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันพูดคำนี้ มันตันไปหมดไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาขอร้องเขาแล้ว.
"ถ้าเธอไม่คิดจะหนี เธอจะได้ทุกอย่างที่อยากได้"ฉันเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วกลั้วหัวเราะเบา ๆ คำพูดเขาเหมือนจะดูดี แต่มันก็ให้รู้สึกว่า คำว่าของแถม มันคงรวมถึงการเป็นนางบำเรอ เป็นของเล่นของคนรวย ๆ อย่างเขาด้วยสินะ
"แต่ถ้าเธอคิดจะหนีเมื่อไหร่ ฉันจะลากเธอกลับมาไม่ว่าจะเป็นที่สวรรค์หรือนรก"แล้วเค้นเสียงเอ่ยออกมาสีหน้าดุดัน.
"...."หัวใจฉันสั่นไปหมดเพราะรู้สึกกลัวจนขนลุก
"เอาของไปเก็บ แล้วออกมากับฉัน"ฉันเงยหน้ามองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาแต่ดูเรียบเฉย แฝงความเย็นชา
"คุณจะพานับไปไหน"
"อยากออกไปไม่ใช่เหรอ ฉันกำลังจะพาเธอออกไปไง"ฉันคลี่ยิ้มหวานให้เขา อย่างน้อยชายหนุ่มตรงหน้าก็ไม่ได้กักขังฉันไว้แต่ในห้อง ฉันยอมจำนนเก็บเสื้อผ้าข้าวของจนเรียบร้อย โดยมีเขายืนกอดอกมองเงียบ ๆ
"เสร็จแล้วค่ะ"ฉันเดินมายืนตรงหน้าชายหนุ่มร่างสูง เขาปรายตามองฉันหัวจรดเท้าแล้วส่ายหน้า
"ไป"ก่อนที่จะหันหลังเปิดประตูห้องเดินนำออกมา โดยมีฉันตามไปติด ๆ
"ว่าแต่ นับยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร"ฉันเดินไปเดินเคียงข้างเขาแล้วเอ่ยถาม.คนตัวโตหยุดชะงักแล้วหันมาที่ฉันหน้านิ่ง.
"รณ"เขาตอบกลับสั้น ๆ แล้วเอามือสอดไปในกระเป๋ากางเกงก้าวขายาว ๆ เดินนำไป
.
.
.
"เธออยู่กับแม่เลี้ยง?"ระหว่างทางที่คุณรณกำลังขับรถพาฉันไปที่ไหนไม่รู้ถามก็ไม่บอก อยู่ ๆ ก็พูดขึ้นแต่สายตามองไปที่ถนน
"ใช่ค่ะ..ก่อนที่พ่อนับจะเสียท่านได้โอนบ้านและที่ดินเป็นชื่อน้าออยหมดทุกอย่างเพราะท่านคิดว่าเธอจะสามารถดูแลได้..."เขาเปิดเรื่องมาก่อนฉันจึงเล่าเรื่องดราม่าตัวเองทันที เผื่อเขาจะเห็นใจ
"...แต่เธอไม่ได้ดูแลนับอย่างที่พ่อคาดหวัง น้าออยกับพี่เอยใช้เงินของพ่อจนหมดรวมถึงเงินเก็บไว้สำหรับให้นับเรียนด้วย นับถึงต้องออกมาทำงานเลี้ยงดูตัวเอง มิหนำซ้ำเธอยังขายบ้านและที่ดินพ่อแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศกันสองแม่ลูก ยังหลอกให้นับมาเป็นของแถมบ้า ๆ นี้อีก"
"เธอก็แต่งเรื่องเก่งนะ"ฉันหันขวับไปที่คนตัวโตแล้วขมวดคิ้วจนเป็นปม เขาไม่เชื่อ? บ้าจริงพูดจนคอแห้งยังไม่เชื่ออีก เห็นฉันเป็นนักแต่งนิยายหรือไง
"...."ฉันเบือนหน้ามองไปที่ข้างถนนผ่านกระจกใสแล้วลอบถอนหายใจเบา ๆ จากนั้นบรรยากาศก็เงียบกริบ ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะพูดไปคนฟังก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งคุณรณเลี้ยวรถเข้ามาที่ผับแห่งหนึ่ง ซึ่งมีป้ายขนาดใหญ่ติดชื่อผับอยู่ว่า KAI
พอรถจอดสนิท ฉันก็ปลดสายเบลล์กำลังจะเปิดประตูรถ
"ตามติดฉันไว้ห้ามห่างจากฉัน"เสียงทุ้มดังมาจากข้าง ๆ
"ค่ะ"ฉันตอบรับแต่ในใจก็รู้สึกสงสัย ทำไมต้องติดกับเขาด้วย แต่ช่างเถอะ
พอลงจากรถฉันก็เดินตามคุณรณไปแบบติด ๆ ตามคำสั่งแอบประชดไปด้วย ฉันกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ด้านในที่กว้างขวางอย่างตื่นเต้น ปลั่ก! ฉันเดินชนแผ่นหลังกว้างเข้าอย่างจังเมื่อคนข้างหน้าหยุดเดินโดยที่ฉันไม่เห็นมัวแต่ตื่นเต้นที่ได้เข้ามาในผับครั้งแรก
"ดูตาม้าตาเรือบ้างสิ!"ชายหนุ่มร่างสูงหันมาตวาดใส่ฉัน
"ขอโทษค่ะ"เสียงพ่นลมหายใจของคนตัวโตก่อนจะหันไปคุยกับพนักงานที่ยืนอยู่
"เรียบร้อยดีไหม"
"เรียบร้อยดีครับ คุณเทมเข้ามาตรวจงานช่วงเย็นแล้วรอบนึง"
"อืม....ให้คนเอาเมนูอาหารขึ้นไปที่ห้องทำงานด้วย"ว่าจบคุณรณก็หันมาที่ฉันที่ยืนก้มหน้าอยู่
"ตามมา"พอเขาก้าวขาเดินฉันก็เดินตามไปติด ๆ
คุณรณพาฉันเข้ามาที่ห้องทำงาน เขาเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานใหญ่แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ ส่วนฉันยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
"ไม่ได้เอาก้นมาหรือไง"
"คะ"ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา
"ไปนั่ง.."ตวัดสายตาไปที่โซฟา
"...เดี๋ยวจะมีคนเอาเมนูมาให้อยากกินอะไรก็สั่งเอา...แล้วก็อยู่เงียบ ๆ ด้วยฉันจะทำงาน"
"รับทราบค่ะ"ฉันตอบกลับแล้วคลี่ยิ้มหวาน จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรเลยนะ ยังมีน้ำใจพาฉันมากินข้าวด้วย ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตู ฉันจึงเป็นคนไม่เปิด เป็นพนักงานเสิร์ฟที่ยกถาดวิสกี้พร้อมกับแก้วและน้ำเปล่า
"เดี๋ยวนับช่วยค่ะ"ฉันรับถาดเครื่องดื่มจากพนักงานมาตั้งไว้ที่โต๊ะกระจกกลางโซฟา
"ขอบใจนะ เอานี่เมนู"พนักงานสาวเอ่ยพร้อมกับยื่นเมนูให้ฉัน แล้วไปรินวิสกี้ใส่แก้วเดินไปตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานคุณรณ
"คุณรณทานอะไรคะ นับจะได้สั่งให้"ฉันเปิดเมนูอาหารดูแล้วพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้มองไปที่เขา
"ไม่ต้อง..."
"....เธอสั่งของเธอเถอะ"ฉันละจากเมนูแล้วหันไปยิ้มให้เขา แล้วก็สั่งอาหารกับพนักงานเสิร์ฟมาสองสามอย่าง บอกเลยว่าหิวมาก พอพนักงานเสิร์ฟออกไปฉันก็นั่งอยู่เงียบ ๆ ไม่ให้รบกวนคนทำงาน ฉันเผลอหันไปที่คุณรณที่นั่งทำงานด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วมีจังหวะที่ยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มไปด้วย เขามีใบหน้าหล่อเหลา ผิวขาวราวกับลูกคุณหนู มีจมูกโด่งเป็นสันเข้ากับใบหน้า เขาดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเลยนะ แต่แค่บ้ากามเท่านั้น
_________________
