บท
ตั้งค่า

11.ไร้ทางเลือก

จานีคเดินกลับมาที่ห้อง เพราะมาไคบอกด้วยใบหน้าที่แดงจัดว่าเขาต้องการนอนพักผ่อน และเขากลัวว่าไข้จะกลับมาติดเธออีกครั้งหนึ่ง

ฉันคิดว่าในบางทีเรื่องพวกนี้มันอาจไม่ง่ายต่อการรับมือและเธอควรที่จะให้เวลาเขาสักหน่อย กับการ..ยอมรับว่าตัวเองได้ทำเรื่องที่ไม่คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์อีกต่อไป

แต่ว่าคนเราจะถือครองพรหมจรรย์ไปทำไมกันนะ เกิดมาก็ควรจะใช้ชีวิตแซ่บๆ ไปสิ

อัศวินที่ยืนอยู่หน้าห้องก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพนักบุญหญิง

“ท่านคาดินันเรียกหาท่านนักบุญหญิงเป็นการส่วนตัวครับ..และท่านนักบุญฟลินย้ำว่าท่านนักบุญหญิงควรจะรีบไปเพื่อไม่ให้ท่านคาดินันรอนาน”

พึ่งบ่นถึงแท้ๆว่าสบายใจดีจังเลยที่ไม่ได้เห็นหน้าคาดินันผู้นั้น แต่นี่เธอจะต้องไปพบเจอเขาอีกแล้วงั้นเรอะ

จานีคไม่เต็มใจเดินตามอัศวินผู้นั้นไปสักเท่าไหร่นัก แต่อย่างที่รู้เธอเลี่ยงไม่ได้ และเพราะระยะทางของที่พักนักบุญหญิงกับคาดินันห่างไกลกันมากพอสมควร

เมื่อมาถึงที่ห้องทำงานของท่านคาดินัน ประตูห้องทำงานที่สูงมากกว่าสี่เมตรก็เปิดออก

“สวัสดียามบ่ายจานีค รีบเดินเข้ามาสิข้ามีเรื่องราวมากมายที่จะพูดคุยกับเจ้า..แน่นอนว่าเป็นการส่วนตัว”

แซลัสเบนสายไปมองที่ด้านหลังของจานีคเมื่อเขาไม่เห็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์เดินตามมาเขาก็จุดยิ้มด้วยความพึงพอใจ

“วันนี้หมารับใช้ของเจ้าไม่มาอย่างนั้นหรือ?”

โปรดระวังการถูกล่อลวง

ข้อความสีแดงพวกนั้นเด้งขึ้นมาอีกแล้ว แต่จะให้เธอระวังได้ไงก่อนในเมื่อเธอสู้หรือว่าต่อต้านเขาไม่ได้เลยสักนิดเดียว

ถึงแม้ค่าพลังจะเพิ่มมาเป็น 30 แต่อีกฝ่ายคือ 100 มันต่างกันมากเกินไป

"...บนร่างกายของเจ้ามีกลิ่นสุนัขตัวนั้นอย่างชัดเจนเกินไปแล้ว"

“อา..พอดีว่าข้านอนเตียงเดียวกับท่านมาไคค่ะ เพราะแบบนั้นเขาจึงติดไข้จากข้าไปแทน..แต่ก็ต้องขอบคุณเขาที่ทำให้ข้าหายป่วยได้”

บนใบหน้าของแซลัสยังคงมีรอยยิ้มระบายอยู่

“ให้ตายสิ ที่ผ่านมาที่ไม่เห็นเจ้าเข้าร่วมการประชุมหรือว่าเข้าร่วมพิธีการต่างๆ เพราะเจ้าป่วยอย่างนั้นหรือ? ข้าก็คิดเองไปว่าเจ้าไม่พอใจข้าและไม่อยากจะทำงานในฐานะนักบุญหญิงซะอีก”

เพราะค่าความฉลาดที่มีแค่ 10 ทำให้เธอไม่รู้เลยว่ามีงานที่ต้องทำด้วยงั้นเรอะ ไม่เห็นมีใครบอกเธอเลยสักนิดเดียว

“จะเป็น..แบบนั้นได้อย่างไรกันคะ ข้าเต็มใจที่จะช่วยเหลืองานทุกอย่างที่ท่านคาดินันมอบให้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาข้าแค่ป่วย ครั้งหน้าหากมีงานอะไร ท่านควรให้คนไปตามข้าสิคะ..”

เขาลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอ ทุกย่างก้าวที่เดินเข้ามามันเต็มไปด้วยความกดดันและความรู้สึกหนักอึ้งในใจ เขาก้มหน้าลงก่อนจะกระซิบข้างหูของเธอเบาๆ

“อา..ข้าไม่ชอบเลยที่บนร่างกายของเขามีกลิ่นของเจ้าสุนัขตัวนั้นติดมา..แต่ไม่เป็นไรจานีคเพราะข้าจะใช้กลิ่นของตัวเองเพื่อลบกลิ่นของหมอนั่นเอง..”

หะ..หายใจไม่ออก บรรยากาศหนักอึ้งทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับกำลังอยู่ในอุ้งมือของเขาแล้วถูกบีบแน่นจนไม่เว้นช่องว่างให้หายใจ

เขาเดินออกไปห่างจากเธอเล็กน้อยก่อนจะดีดนิ้วราวกับคิดอะไรออก

“จริงสิ อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะมีการประชุม และข้าอยากให้เจ้าเข้าร่วมด้วยนะจานีค”

เธอหน้าซีดในทันที เพราะในตอนนี้เธออยู่ในชุดที่ไม่เป็นทางการเท่าไหร่นัก มันไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วมการประชุมหรือว่าทำงานที่เป็นทางการ

“หากจะให้ข้าเข้าร่วมการประชุม ท่านคาดินันควรแจ้งข้าก่อน ข้าจะได้..อยู่ในชุดที่ดูเป็นทางการมากกว่านี้..”

เขาเดินเข้ามาประชิดตัวของเธออีกครั้ง นิ้วชี้ของเขาวางทาบลงไปที่ริมฝีปากของเธอ

“ไม่เป็นไรหรอกจานีค เจ้าจะอยู่ในชุดไหนมันไม่สำคัญหรอก..ทว่าตอนนี้มีเรื่องด่วนมากกว่านั้นนิดหน่อย”

เขาชูแท่งอัญมณีสีทองขึ้นมา มันเป็นแท่งยาวที่มีขนาดใหญ่มากกว่านิ้วชี้เล็กน้อย และสายตาของท่านแซลัสทำให้จานีคเดินถอยหลังในทันที เธอรู้สึกเหมือนกับว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาหาเธอ

“ไม่จานีค อย่าหนีสิ..หากเจ้าหนีไปสิ่งที่จะเสียบแทงเข้าไปในหว่างขาของเจ้ามันจะเป็น..ส่วนนั้นของข้าแทนนะ นี่ข้ากำลังอ่อนโยนอย่างสุดความสามารถอยู่นะเด็กดี เพราะเจ้าไม่เคยทำมาก่อนข้าจึงจะเริ่มตั้งแต่สิ่งที่มันมีขนาดเล็กเช่นนี้..เพื่อให้เจ้าเริ่มชินจึงจะได้โอบรับตัวตนของข้าเข้าไป”

จานีคกำมือแน่น เธอกลับมาอยู่ในสภาพเดิมอีกแล้ว วิ่งหนีไม่ได้ ขัดขืนไม่ได้ แม้แต่จะด่าเขาออกมายังทำไม่ได้เลย

คุณผู้เล่นกำลังตกอยู่ในสถานะ “ถูกล่อลวง”

“มานี่สิ”

เขาตบลงบนโต๊ะทำงานของเขาก่อนจะให้เธอยืนหันหลังมาหาเขา ส่วนมือวางเอาไว้บนโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารมากมาย..และดูท่าว่ามันน่าจะสำคัญซะด้วย

ค่าความฉลาด 10 ตอนแรกฉันคิดว่ามันไม่มีผลอะไร เพราะตัวฉันนั้นไม่ใช่คนโง่ แต่ปรากฏว่าค่าความฉลาดมันคือการรอบรู้ต่างหาก แต่นี่ฉันไม่รู้อะไรเลย หน้าที่ของนักบุญหญิง หรือว่าเรื่องเกี่ยวกับการเมือง ที่นี่มีองค์จักรพรรดิชื่อว่าอะไร หรือว่ามีใครบ้างที่ไม่ชอบนักบุญหญิงและคิดจะทำลายตำแหน่งนี้

ฉันไม่รู้..อะไรเลยนี่แหละคือปัญหา

และยิ่งมองเห็นใบหน้าที่แสนสมบูรณ์แบบราวกับภาพวาดของเขามันยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิด หากจะเลวก็ช่วยอย่าหล่อได้ไหมล่ะ จะได้เกลียดอย่างเต็มหัวใจ!!

มือข้างหนึ่งของเข้าเลื่อนลงไปตามแนวสันหลัง ก่อนจะเลิกกระโปรงสีงาช้างที่จานีคสวมขึ้นไปกองเอาไว้บนสะโพก เธอสวมกางเกงชั้นในสีขาวเอาไว้ และมันกำลังเปียกชุ่มตรงส่วนนั้นจนแนบติดไปกับร่องรักเล็กๆ

มือใหญ่ล่วงเข้ามาระหว่างขาที่หนีบแน่น

“กางขาออกสิจานีค เจ้ากำลังทำให้มันช้านะ หรืออยากให้ขุนนางที่เข้ามาในนี้เห็นสภาพนักบุญหญิงที่กำลังแอ่นสะโพกเช่นนี้ก็ตามใจเจ้าเถิด

กางเกงชั้นในตัวเล็กจิ๋วถูกจับไปไว้ที่ด้านข้าง เขากำลังจ้องมองช่องทางรักสีชมพูที่ราวกับผลไม้สุกงอม ความชุ่มชื้นที่แผ่ซ่านเหมือนสายน้ำที่ไหลเอื่อยในสวนต้องมนต์ ร่องสวาทที่ละเอียดลออประดุจดังผ้าซาตินที่พลิ้วไหว

ไม่ใช่แค่ใบหน้าที่สวยจนลืมหายใจ แต่ทว่าร่างกายนี้ก็ดูงดงามไม่แพ้กัน

ถึงแม้อยากจะลองใช้ลิ้นเลียเพื่อชิมน้ำหวานจากแหล่งน้ำนั่นมากแค่ไหนแต่ทว่าเขาไม่มีเวลาแล้ว

การประชุมจะเริ่มในอีกไม่กี่นาที เพราะฉะนั้น..หลังจากจบการประชุมแล้วเขาค่อยมากจัดการในสิ่งที่อยากทำก็แล้วกัน

แซลัสลูบไล้ราวกับกำลังหยั่งเชิง ก่อนที่เขาจะแหวกกลีบเนื้อเข้าไปอย่างอุกอาจ แล้วส่งปลายนิ้วดันเข้าไปอย่างไม่คิดรั้งรอ

“เห็นไหมว่าเจ้าเปียกมากแค่ไหน คงแทบรอให้ข้าสัมผัสไม่ไหวเลยงั้นสิ”

“อะ..อื้อ!!”

นี่มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด! ร่างกายของเธอร้อนมาตั้งแต่ที่สัมผัสท่านมาไค ไม่ได้รู้สึกอยากกระทำเรื่องเช่นนั้นกับเขาสักหน่อย ไอ้คนหลงตัวเอง!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel