บท
ตั้งค่า

CHAPTER 4 ของเล่นราคาแพง

นินนี่นั่งจ้องใบหน้าของเพื่อนสาวด้วยความแปลกใจ คืนนั้นแทนที่อัญญาจะต่อว่าเธอแต่กลับไม่ใช่ แถมยังบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด

“ใช่ๆ ใครจะเลวถึงขนาดส่งเพื่อนไปขายตัว”

นินนี่รีบแก้ตัวทันที แปลกใจกับท่าทีของอัญญา

“ไม่เป็นไรหรอกเรื่องเข้าใจผิดนะ” เธอพยายามมองโลกในแง่ดี

“นั่นกระเป๋าคอคเลคชั่นล่าสุดเอามาจากไหน” นินนี่เพิ่งสังเกตว่าเพื่อนเริ่มของแบรนด์เนม ใบหน้าดูมีความสุขกว่าแต่ก่อน ตอนนั้นคิดว่าสวยแล้วตอนนี้ดูมีความเป็นลูกคุณหนูขึ้นมาอีก

“อัญญาครับพี่ซื้อของมาฝาก” นัทหนุ่มรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง เดินเข้ามาทักทายและยื่นของให้อัญญาด้วยท่าทีเขินอาย

“ขอบคุณค่ะพี่นัท” เธอรับของมาหากบางสิ่งมีมูลค่าเธอปฏิเสธ เพราะมันไม่เหมาะกับเธอสักเท่าไรของแพงแบบนั้นสมควรที่คนอื่นจะได้รับมากกว่าเธอ

“เย็นนี่ว่างไหมครับพี่ว่าจะชวนไปดูหนัง” นัทรีบก้มหน้าเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะเห็นว่าเขาเขินอายแค่ไหน

“อัญญาไม่ว่างเลยค่ะต้องขอโทษด้วยนะคะ” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาชวนออกเดต

“อัญญาเขาไม่ว่างเพราะตอนนี้หัวใจไม่ว่างแล้วนะ ไม่เห็นเสื้อผ้าของใช้เหรอของแพงทั้งนั้น!” นินนี่เอ่ยขึ้นแต่มันไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย เหมือนเป็นการบอกรุ่นพี่ว่าอัญญาเป็นเด็กเลี้ยง

“มะ ไม่เป็นไรครับพี่ขอตัวก่อน” นัทรีบเดินออกไปเมื่อเข้าใจความหมาย เขาตามจีบรุ่นน้องตั้งนานแต่ต้องกินแห้วตลอด

นินนี่ยิ่งอิจฉาทั้งที่เธอก็สวยและรวยกว่าอัญญาที่บ้านก็จน จนต้องทำงานหลังเลิกเรียนแบบนั้น เธอไม่เข้าใจพวกผู้ชายตาต่ำพวกนั้นเลยจริงๆ ว่าทำไมถึงชอบมันกันนัก

“เธอไม่โกรธฉันใช่ไหมที่พูดไปแบบนั้น”

“ไม่โกรธหรอกเรารู้ว่านินนี่ต้องการช่วยเรา”

“อืม” โง่แล้วโง่อีกไม่มีใครหน้าโง่เท่าอัญญาอีกแล้ว รอบก่อนมันไปเจอใครถึงได้ดูมีราศีขึ้นมา ตั้งใจส่งให้คนแก่รุ่นเดียวกับพ่อแท้ๆ แต่พลาด

อัญญาก็ยังคงปฏิเสธผู้ชายทุกคนที่เข้ามาจีบเธอและไม่คิดจะสนใจใครทั้งสิ้น เพราะเป็นข้อตกลงของเธอกับเขาซึ่งเธอไม่อยากมีปัญหา

“นั่งทำอะไรกันอยู่ครับสาวๆ” ธีธัชเดินเข้ามาทักทายแฟนสาว แต่สายตาของเขามองอัญญาเพราะอะไรเขาจึงไม่มีวาสนาได้พาคนสวยขึ้นเตียง

“พี่ธีเรียนเสร็จแล้วเหรอคะ” นินนี่รีบเข้าไปคล้องแขนแสดงความเป็นเจ้าของทันที รู้ว่าธีธัชเป็นคนเจ้าชู้มากแต่เขารวยเธอจึงทำใจยอมรับได้

“พี่จะชวนนินนี่ไปดินเนอร์พี่ของร้านอาหารสุดหรูไว้แล้ว”

“เราไปกันเลยไหมคะ”

“แล้วอัญญากลับยังไงครับ”

เขาเสียดายทั้งที่จีบตั้งนานแต่เล่นตัว จนเขาได้นินนี่แทนซึ่งหญิงสาวมีนิสัยที่ขี้อิจฉาไม่น้อย

“อัญญากลับเองได้ค่ะ”

“เดี๋ยวนี้อัญญาไม่ต้องทำงานหนักแล้วเพราะมีเสี่ยเลี้ยงพี่ธีไม่รู้อะไรแล้ว” นินนี่รีบตัดบทพูดให้เพื่อนดูต่ำลง เหยียดหยามเพื่อให้แฟนหนุ่มเลิกสนใจ

“เหรอครับ” เขาตกใจไม่น้อยที่มีคนได้ตัวอัญญาไปก่อนเขา มันเป็นใครกันที่กล้าทำแบบนั้น

“อัญญาขอตัวก่อนนะ” เธอเห็นรถของลูกน้องไลอ้อนที่จอดรอหน้าตึกจึงรีบเข้าไปในรถ พยายามปรับสีหน้าให้ดูปกติ

นินนี่และธีธัชมองรถหรูขับออกไปจากตรงนั้น ธีธีชรู้ดีว่ารถหรูยี่ห้อนี่ราคาแพงแค่ไหน ผู้ชายที่รับเลี้ยงอัญญาคงรวยไม่น้อย แต่เขาไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก

.

ไลอ้อนนั้นจะมาหาอัญญาแค่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้นหรือวันที่เขาเหนื่อยจากการทำงานแล้วอยากได้คนช่วยผ่อนคลายเขาจึงจะมาหาเธอที่ห้อง ซึ่งเป็นแบบนี้มาเกือบสามเดือนแล้ว

“วันนี้ฉันจะเข้าไปหา”

ข้อความสุดแสนเย็นชาถูกส่งเข้ามาหญิงสาวดีใจทุกครั้งที่เขามาหาเธอ จากตอนแรกที่กลัวเขาตอนนี้ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยน เธอเริ่มเอาหัวใจลงมาเล่นทั้งๆ ที่ไลอ้อนเคยเตือนอยู่หลายครั้ง

อัญญาที่รู้ว่าไลอ้อนจะมาก็ตั้งใจทำอาหารไว้ชายหนุ่มอย่างที่ทำเป็นประจำทั้งที่มันไม่ใช่หน้าที่ของเธอ แต่เธอก็อยากที่จะทำเพราะอยากตอบแทนชายหนุ่มที่เลี้ยงดูเธอและแม่มาเป็นอย่างดี ทว่าชายหนุ่มก็ไม่ให้เธอไปหางานทำ

แต่หญิงสาวก็หางานทำจนได้เพราะวันหนึ่งหากต้องจบกันเธอจะได้มีอาชีพติดตัว ปัจจุบันการหาเงินนั้นไม่อยากหากเราลงแรงได้ถูกที่

“มาแล้วเหรอคะ ทานข้าวก่อนไหม” เธอช่วยเขาถอดสูท แต่ไม่ทันได้นำไปเก็บเขาคว้าตัวเธอมากอดไว้แน่น ก่อนจะกดปลายจมูกลงที่แก้มทั้งสองข้างของอัญญา

“อืมม ฉันหิวแล้ว” น้ำเสียงเขาดูแหบพร่าไม่น้อย เมื่อคืนที่เขาติดงานจนไม่สามารถมาหาอัญญาได้

“คุณไลอ้อนเดี๋ยวสิ ข้าวยังไม่ได้กินเลยนะ”

เสียงเธอขึ้นเอ่ยเบาๆ พลางยื่นจานกับข้าวไปตรงหน้า น้ำเสียงทั้งอ่อนโยนทั้งวิงวอน แต่แววตาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเขินปนตื่นตระหนก

แต่ไลอ้อนไม่แม้แต่จะมองจานข้าว เขายืนมองเธออยู่นานแล้ว สายตาคมคู่นั้นราวกับจะกลืนกินทุกอณูของเธอเข้าไปทั้งตัว

“ไว้กินทีหลังก็ได้” เขาตอบเสียงต่ำแววตาไม่เปลี่ยน

“ไม่ได้สิ อัญญาอุตส่าห์ทำเองเลยนะคะ”

เธอพยายามเบี่ยงสายตาหนี ยิ่งเห็นแววร้อนแรงในดวงตาเขาใจเธอก็ยิ่งเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะหันไปไหน ร่างบางก็ถูกโอบรวบเข้าอ้อมแขนแกร่งอย่างรวดเร็ว และในเสี้ยววินาทีถัดมาตัวเธอก็ลอยขึ้นจากพื้นด้วยฝีมือของเขา

“คุณไลอ้อน! เดี๋ยวก่อนไหนบอกหิว อ๊ะ” เธอร้องเสียงหลงมือทั้งสองข้างรีบคว้าบ่าของเขาไว้แน่น

“หิว แต่ไม่ใช่ข้าว”

เขาพูดกระซิบข้างหูน้ำเสียงแหบพร่าทำเอาเธอขนลุกวาบตั้งแต่ต้นคอลงไปถึงปลายเท้า

เธอหน้าร้อนวูบพยายามดิ้นเบาๆ แต่ไร้ผลเพราะเขาก้าวยาวๆ มุ่งตรงไปที่ห้องนอนอย่างไม่คิดจะฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น

“ของกินจะเย็นหมดแล้วนะ” เธอยังพยายามส่งเสียงประท้วง

แต่เขาเพียงหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและเจ้าเล่ห์

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราค่อยอุ่นกันใหม่...”

ประตูปิดลง พร้อมเสียงหัวใจของใครบางคนที่ยังเต้นแรงไม่หยุด

อัญญาอาบน้ำเสร็จหลังจากที่ทั้งสองผ่านบทรักอันแสนเร่าร้อนกันมา แต่คนต้นเรื่องยังคงนอนอยู่บนเตียง บนกายไม่มีอะไรปิดไว้สักชิ้น เขาจ้องมองมาที่เธออย่างหื่นกระหาย

“กินอะไร” เขาเห็นหญิงสาวแกะแผงยากิน ถ้าป่วยทำไม่บอกเขาสักคำ

“ยาคุมกำเนิดค่ะ” เขาเล่นไม่เคยป้องกันเลยเธอเองก็กลัวว่าจะพาด กฎเหล็กของเขาคือให้เธอท้อง

“อุ้ย ทำอะไรคะ”

เขาก้าวเข้ามาใกล้ ร่างสูงข่มเธอจนเธอต้องถอยหลังไปติดโต๊ะเครื่องแป้งโดยไม่รู้ตัว

“ใครสั่งให้เธอกิน” น้ำเสียงเขาเริ่มแข็ง อารมณ์ร้อนคุกรุ่นอยู่ใต้ท่าทีเยือกเย็นนั้น

“กะ ก็เราเคยตกลงกันไว้ไม่ใช่เหรอว่าห้ามท้อง” เธอพูดติดขัด พยายามสบตาเขาแต่ก็รู้สึกเหมือนถูกแรงกดดันบางอย่างสะกดเอาไว้

“ใช่! ฉันห้ามเธอท้องแต่ฉันไม่เคยบอกให้เธอกินอะไรแบบนี้” เขาคำรามเบาๆ ดึงขวดยาในมือนางเอกขึ้นมาดูแล้วขว้างมันลงพื้นทันที

อัญญาสะดุ้งมือกำชายเสื้อแน่น ไม่คิดว่าเขาจะโกรธขนาดนี้

“ก็คุณไม่เคยป้องกัน”

“คราวหลังฉันจะป้องกันเอง” เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมต้องโกรธขนาดนั้น การกินยาคุมกำเนิดไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาวอาจจะทำให้มีลูกยาก แล้วทำไมเขาต้องเป็นห่วงนางบำเรอของเขาด้วย

“เงินพอใช้อยู่ใช่ไหม”

“ค่ะ”

“วงเงินบัตรไม่จำกัดอยากได้อะไรก็ซื้อ” เขาหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไป

ตั้งแต่เป็นนางบำเรอของเขา ไลอ้อนให้เงินใช้ไม่ขาดมือรวมถึงเงินเดือน ซึ่งทำให้เธอกับแม่นั่นสุขสบายไปอีกนาน แต่เหมือนเป็นดาบสองคมเพราะแม่ก็เล่นการพนันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเขาเป็นคนเข้ามาจัดการปัญหานี่แทนเธอ

“คุณจะไปไหนคะ? ยังไม่ทานข้าวเลย”

“ฉันจะออกไปไนต์คลับไม่ต้องรอและไม่กลับ” เขาเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีกฝ่าย

อัญญานั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นอยู่พักใหญ่ ร่างกายชาไปหมด สุดท้ายก็แค่ค่อยๆ ดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงอย่างแผ่วเบา ตักข้าวใส่จานให้ตัวเองเพียงเล็กน้อยก่อนจะเริ่มกินอย่างช้าๆ

แต่คำแรกที่กลืนลงคอ กลับขมขื่นจนแทบจะอาเจียนออกมา

เธอก้มหน้าลงไม่กล้ามองแม้แต่อาหารตรงหน้า น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาเงียบๆ ตามด้วยอีกหยด และอีกหยด กลายเป็นเสียงเบาๆ ของน้ำตาที่หยดลงบนข้าวในจานที่เธอเคยตั้งใจทำเพื่อเขา

เสียงนาฬิกายังคงเดินต่อไป

แสงไฟในห้องครัวไม่ต่างจากแสงเทียนไร้เปลวในใจเธอ

เธอยังกินต่อไม่ใช่เพราะหิว แต่เพราะเธอไม่อยากให้ความตั้งใจของตัวเองสูญเปล่า

แม้จะนั่งกินอยู่คนเดียว

แม้จะร้องไห้อยู่คนเดียว

แม้จะไม่มีใครกลับมาเห็นเลยก็ตาม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel