บท
ตั้งค่า

Chapter 2 ถ้าเธอตบฉันอีกครั้ง ฉันปล้ำ!!!

“เปล่า! ไม่มีอะไรหรอกแค่ถามดู ที่นัดมาก็แค่อยากให้แกหานักเคมีให้หน่อย ฉันรู้ว่าแกรู้จักคนวงการนี้เยอะกว่าฉัน หลายปีมานี้ฉันมัวแต่ทำไร่ ปรับปรุงไร่ ไม่ค่อยรู้จัก หรือว่าแกสนใจมาทำงานกับฉันหรือเปล่า” พ่อเลี้ยงหนุ่มเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อน

“ทำไมแกต้องปฏิเสธเสียงสูงขนาดนี้ ฉันว่าแกมีพิรุธนะเนี่ย” อิทธิพลจ้องหน้าเพื่อนอย่างค้นหา

“แกไม่ต้องมาจับผิดฉัน แล้วแกจะมาทำงานกับฉันหรือเปล่า...”

“ไม่เลย...ไม่ต้องมาชวนให้ยาก ช่วงนี้กำลังอภิรมย์กับสาวๆ ที่เมืองกรุง จะให้เป็นฤๅษีเฝ้าดอย หมกอยู่ในไร่ในป่า อย่างแก อย่างไอ้ก้อง ไม่ไหวหรอก สักวันแกสองคนคงได้กินกันเอง แล้วฉันก็กลัวสาวเจ้าหนีไปกับคนอื่น” คำเย้าสุดท้ายอย่างไม่ตั้งใจของเพื่อนทำให้ใบหน้าของพ่อเลี้ยงธามส์หม่นลง อิทธิพลรู้สึกผิดขึ้นมาทันที เขาคงพูดแรงไปจริงๆ สะกิดโดนแผลสดหมาดๆ ของเพื่อนหนุ่มอย่างจัง

“ฉันขอโทษว่ะ ไม่ได้จะตอกย้ำแผลของแกเรื่องคุณมุกนะ ส่วนเรื่องคนที่แกให้ช่วยหาฉันจะหาให้ก็แล้วกัน”

“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องของฉันกับคุณมุกมันผ่านมาแล้ว เธอก็มีครอบครัวไปแล้ว พูดมากสามีเขาจะหาว่าฉันยังรักเมียเขาอยู่”

“เออ...” อิทธิพลครางในลำคอ หันมาถามเพื่อนอีกครั้ง

“ว่าแต่แกมีอะไรกับฉันอีกหรือเปล่า ถ้าไม่มี...ฉันจะได้ไปหาสาวสักที...เวลาฉันมีค่า...ที่แกลากฉันมาก็ผลาญเวลาอันมีค่าของฉันมากแล้ว”

“เออ...พ่อคนเนื้อหอม...แกไปเถอะ...แล้วโทรหาฉันก็แล้วกัน ฉันฝากเรื่องงานด้วย ไม่ใช่เจอหน้าสาวแล้วลืมนะ ห้ามเด็ดขาดนะโว้ย”

“เออน่ะ เดี๋ยวจัดการให้ ไม่ต้องห่วง ไปแล้วโว้ย” อิทธิพลเดินหันหลังออกไป ยกมือบอกโดยไม่ได้หันกลับมามอง

หลังจากแยกจากเพื่อน...พ่อเลี้ยงธามส์ก็แวะไปหาน้องสาวที่โรงแรมปางวิมาน ใจอยากเห็นหน้าเหยื่อในเกมแค้นของตัวเองเต็มที แต่ทว่าขาของเขาก็ต้องชะงักก้าวค้าง

หญิงสาวยืนกอดอกมองดอกไม้อยู่ในเขตโรงแรมหรู ผู้หญิงที่ใจเขาสั่งให้เกลียดตั้งแต่ยังไม่เจอหน้าด้วยซ้ำ..

ชายหนุ่มกวาดสายตามองรอบๆ ก็เห็นว่าพื้นที่ตรงนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักของน้องสาวและน้องเขย และพื้นที่บริเวณนี้ก็เป็นเขตที่เจ้าของโรงแรมหวงห้ามให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมคางสากอย่างครุ่นคิด

‘หรือว่าจะเป็นคนนี้...ปารวี ปภากุล’ ชายหนุ่มขยับเข้าใกล้ นึกถึงคำพูดของเพื่อนสนิทของเขาบอกว่าเป็นน้องสาวที่ปรินทร์รักมาก รู้อย่างนั้นพ่อเลี้ยงธามส์ก็ก้าวขามาตามแรงดึงดูด...เดินมาหยุดตรงหน้าหญิงสาว มองสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยที่อีกคนไม่รู้สักนิด เพราะมัวแต่ชื่นชมความงามของดอกไม้ตรงหน้า

ความพาลที่มีอยู่กับน้องเขยทำให้ชายหนุ่มมองหญิงสาวแง่ลบเหมือนเดิม การแต่งตัวธรรมดาที่หลายคนก็แต่ง แต่พอมาอยู่บนตัวหญิงสาวชายหนุ่มกลับคิดว่าเธอแต่งตัวเหมือนอยากยั่วผู้ชาย พาลไปถึงบิดาของเธอที่เพิ่งเสียชีวิตลง ชายหนุ่มไล่สายตามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

ความรู้สึกแรกของคนถูกมองไม่ค่อยชอบใจนัก มันเป็นสายตาของความเหยียดหยาม ทั้งที่เพิ่งเจอกัน

พ่อเลี้ยงหนุ่มเดินตรงเข้าไปทักทันที หญิงสาวก็กำลังจ้องมองที่เขาเหมือนกัน ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้ พระเจ้าช่างปั้นแต่งมาให้อย่างลงตัวเหมาะสมกันจริงๆ พ่อก็เป็นเสี่ยคุมซ่อง ค้าประเวณี ส่วนลูกสาวแต่งตัวแบบนี้ก็คงจะใจแตกเหลวแหลกที่เมืองนอก

“สวัสดีคนสวย ดีใจที่ได้พบกัน ถ้าเดาไม่ผิดเธอคือน้องสาวของคุณปรินทร์” ชายหนุ่มเดินเข้ามาทัก แต่ทว่าน้ำเสียงและของเขาสายตากลับดูแคลน มองไล่การแต่งตัวของปารวีตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ถ้าทักเพราะฉันเป็นน้องเจ้าของโรงแรมก็ใช่ แต่ถ้าทักเพราะอย่างอื่นละก็...เท่าที่จำความได้ ก้านสมองและซีรีบรัมของฉัน ที่เก็บข้อมูลไว้หลายปี ไม่เคยรู้จักคนหยาบคายอย่างคุณมาก่อน คงไม่มีความจำเป็นที่ฉันจะได้พบคุณ” ปารวีเงยหน้าตอบกลับเสียงแข็ง ยังไม่ทันมองเห็นหน้าชายหนุ่มชัดๆ เต็มตาด้วยซ้ำ แล้วเธอก็เดินหนีเลี่ยงจากตรงนั้นไปทันที

“เดี๋ยว!” พ่อเลี้ยงธามส์เรียกเสียงดัง มือหนาก็คว้าฉุดมือปารวีไว้ ทว่าหญิงสาวสะบัดมือหนาของเขาออกทันทีอย่างนึกรังเกียจสายตาโลมเลีย ถึงจะเป็นเขา แต่เธอไม่ชอบให้ใครเข้าถึงเนื้อถึงตัวง่ายดายอย่างนี้ แต่แทนที่มือหนาจะยอมปล่อย เขายิ่งกระชับมันแน่นขึ้น เหมือนต้องการยั่วอารมณ์หญิงสาวตรงหน้า

“อย่ามาทำกิริยาต่ำๆ แบบนี้กับฉัน ปล่อย! และช่วยหลีกทางด้วย” ไม่เพียงแต่ไม่ทำตามคำสั่งของหญิงสาว พ่อเลี้ยงธามส์ยังกระตุกมือบางของปารวีอย่างแรง ทำให้เธอเซเสียหลักเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างง่ายดายไม่ทันตั้งตัว

“ไอ้! ไอ้คนฉวยโอกาส! จะทำอะไรฉัน ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้คนช่วย...” ปารวีแหวออกมาด้วยความโมโหที่โดนชายหนุ่มโอบ ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง ถึงแม้เธอจะชอบแต่งตัวตามแฟชั่น และมั่นใจในตัวเองมาก ตามแบบฉบับสาวที่ถูกเลี้ยงมาจากชาติตะวันตก ยิ่งเธออยู่เมืองแฟชั่นก็ยิ่งไม่แปลกกับการแต่งตัวแบบนี้ แต่เธอก็ไม่เคยให้ใครถึงเนื้อถึงตัวมากขนาดนี้เลยสักครั้ง

“พับผ่า! ให้ตายเถอะ ฉันสาบานได้ว่าไม่มีทางคิดพิสมัย ผู้หญิงที่แต่งตัวเหมือนจะอ่อยผู้ชายตลอดเวลาอย่างเธอหรอก บอกตรง ๆ ว่ากระเดือกไม่ลง ถึงแม้หน้าอกของคุณจะโอ้ว อึ้ม อ้า...เกินคาดก็เถอะ แต่ผู้หญิงนมโตอย่างเดียว แล้วแต่งตัวเหมือนอีตัวแบบนี้ ฉันไม่มีวันลดตัวลงไปเกลือกกลั้วด้วยหรอก...กลัวโรคติดต่อ...”เขาส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ทำมือล้อเลียนขนาดหน้าอกเธออย่างหยาบคาย

ปารวีโกรธจนแทบพ่นไฟออกปาก พ่นลมออกหู เมื่อเธอได้ฟังวาจาจาบจ้วงหยาบคายของเขา แถมสายตาโลมเลียที่จับจ้องมองมาที่หน้าอกของเธออีกละ หยาบคายที่สุด

เผียะ!

“หยาบคาย สารเลว” แทนที่คนถูกฝ่ามือพิฆาตเมื่อครู่จะแสดงความโมโหออกมา เขากลับยิ้มเยาะ ลูบแก้มเบาๆ จับมือปารวีไว้แน่น เขามองหน้าอกเธออย่างจาบจ้วงอีกครั้ง

ปารวีพยายามข่มใจ ไม่ฟาดมืออีกข้าง ที่ไม่ได้ถูกเขารวบและกำไว้ เธอยกมืออีกข้างขึ้นกระแทกบนใบหน้าอีกฝ่าย แต่ก็สุดที่จะทนมองสายตาหยาบคายได้

ยังไม่ทันที่เธอจะยกมืออีกข้างขึ้นตบ มือบางก็ถูกยึดไว้ได้ทัน...ด้วยมือหนาใหญ่กว่ามือของเธอเกือบเท่าตัว ตอนนี้...มือทั้งสองข้างถูกพันธนาการแน่นหนา เหมือนเขาจะรู้ทันความคิดของเธอ แถมเธอยังโดนเจ้าของมือใหญ่ลากรั้งร่างอิ่มถลาเข้าไปหาจนชิดแทบอก คนตัวใหญ่กว่าที่ก้มลงกระซิบชิดใบหูบาง

“อย่าหวังว่าเธอจะได้ตบฉันฟรี ๆอีกครั้ง ถ้าเธอตบฉันอีกครั้ง ฉันปล้ำ! คนอย่างฉันไม่ทำแค่จูบหรอกนะจะบอกให้” สิ้นคำหน้าคมก็ก้มลงชิดพวงแก้มปารวี ทำเอาหญิงสาวสั่นเป็นลูกนกด้วยความกลัว อีกคนยิ้มเจ้าเล่ห์ ยกนิ้วขึ้นจุ๊ปาก

“จุ๊ จุ๊...แต่ไม่ต้องคิดว่าคนอย่างฉันจะหน้ามืดจูบหรือปล้ำเธอหรอกนะ บอกแล้วว่าแค่มีเรื่องจะคุยด้วยเท่านั้น เพราะกลัว...โรคติดต่อ! ถ้าเธอยอมไปคุยกับฉันดีๆ” เขาเน้นคำว่าโรคติดต่อสียงหนัก จนคนฟังเต้นเร่าเป็นเจ้าออกโรง มันจะมากเกินไปแล้วนะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel