บทที่ 10 สร่างเมา
บทที่ 10 สร่างเมา
ยัสซันกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นไฟในห้องเปิดเอาไว้ เดินดิ่งไปยังห้องนอนรับรองแขก เปิดประตูเข้าไปโดยไม่เคาะขออนุญาต ในห้องไร้ตัวตนของหญิงสาวที่ได้ตกลงนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า มีเพียงเสื้อและชั้นในที่วางไว้บนหมอนใบใหญ่ ทำให้รู้ว่าเธอกำลังอาบน้ำอยู่
และเพื่อไม่ให้เสียเวลา จึงจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง คว้าผ้าขนหนูสีขาวบนเตียงมาพันปกปิดท่อนล่างเอาไว้ลวก ๆ เดินออกไปหยิบบรั่นดีชั้นเยี่ยมพร้อมแก้วทรงสูงสองใบ
บานประตูแบบกระจกถูกผลักออกอย่างเบามือกว่าเดิม เพราะกลัวของที่ถือมาด้วยจะกระทบโดนจนเกิดความเสียหาย.. แต่แล้วใบหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ของยัสซันก็ต้องตะลึงค้าง.. เมื่อมองเห็นแผ่นหลังขาวผุดผาดของสตรีนางหนึ่งที่กำลังขยับเสื้อในตัวสวยให้เข้าที่
เพียงแค่เห็นด้านหลังเขาก็นึกไปถึงอินทิราทันที นางแบบคนนี้กับเธอคนนั้นช่างเหมือนกันราวกับแกะ รูปร่าง ทรงผม สีผิว.. เขารีบดึงสติให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริงตรงหน้า ไม่ยอมให้หญิงร้ายคนนั้นมามีอำนาจกับความคิดของตน
“จะใส่กลับเข้าไปทำไมให้เสียเวลา เดี๋ยวเราก็ต้องถอดมันออกอยู่ดี” เขาพูดกับเธอแล้วก้าวเท้าเข้าไปหา หวังประทับริมฝีปากบนแผ่นหลังขาวนวลเนียนนั้น
อินทิราสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับใจที่หายวาบ รีบคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นมาบดบังส่วนหน้าเอาไว้ “อย่าเข้ามานะ!” เธอตะคอกเสียงสั่น หัวใจเต้นแรงเกินอัตรา ไม่กล้าหันไปมองอีกฝ่าย
เสียงตวาดที่ดังกลับมาทำเอาคิ้วหนาเข้มขมวดมุ่นเข้าด้วยกัน สองเท้าที่ย่างกรายเข้าไปหาชะงักอยู่กับที่ตามคำสั่ง
“อินทิรา!” นอกจากรูปร่างจะเหมือนแล้ว แม้แต่เสียงก็ยังเหมือนกันอีก “ฉันกำลังจะมีความสุข ทำไมคุณต้องตามมาหลอกหลอนให้เสียอารมณ์ด้วย ทำไม..” เขาต่อว่าภาพหลอนนั้นเสียงดัง
“ไอ้บ้านี่! ฉันบอกให้ออกไปไม่ได้ยินเหรอ! มายืนพร่ำหาพระแสงอะไรอีกล่ะ!” อินทิราตะคอกด่าออกไปอย่างเหลืออดบ้าง
“อินทิรา!” ชายหนุ่มเบิกตากว้าง หายมึนเป็นปลิดทิ้ง เอ่ยชื่อเธอออกมาคล้ายละเมอ
“ใช่ฉันเอง!” หญิงสาวเหลียวไปมองชายหนุ่มด้วยใบหน้าบึ้งตึง ลืมตัวไปชั่วขณะว่าตัวเองอยู่ในสภาพเป็นรอง “พอใจหรือยัง ถ้าพอใจแล้วก็ออกไปซะที อย่ามายืนทำตัวเสียมารยาทแบบนี้” ต่อว่าด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
การกระทำของหญิงสาวทำให้ยัสซันรู้สึกหมั่นไส้มากกว่าเห็นใจ เขาไม่รู้ว่าเธอเข้ามาอยู่ในคอนโดส่วนตัวของเขาได้อย่างไร และไม่สนใจจะรู้ด้วยในตอนนี้ แต่เธอเสียเปรียบเขาอยู่ก็น่าจะอ่อนน้อมต่อเขา ไม่ใช่มาทำอวดดีแบบนี้
“ที่นี่ห้องผม ทำไมผมต้องออกไปด้วย คุณนั่นแหละที่ต้องออกไป”
ถ้าเธอไม่ได้อยู่ในสภาพล่อแหลม ดูเหมือนให้ท่าแบบนี้ เธอจะหันไปถีบใส่ผู้ชายปากดีคนนี้ให้ล้มหงายไม่เป็นท่าเลย แต่เพราะเป็นรองเขาอยู่จึงต้องทนข่มอารมณ์เอาไว้กึ่งหนึ่ง
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะเป็นฝ่ายออกไปเอง เชิญคุณอยู่ในนี้ตามสบาย” เธอพูดกับเขา หมุนกายวิ่งออกไปในสภาพกึ่งเปลือยแบบนั้น
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวยเฉี่ยวที่มองมาด้วยสายตาคมดุวิ่งออกไป กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของครีมอาบน้ำยี่ห้อโปรดของเขาก็ลอยเข้ามาปะทะจมูก
“คุณเป็นโจรหรือไง”
“โจรอะไร ฉันเปิดประตูเข้ามานะ ไม่ได้งัดแงะมันแม้แต่น้อย” เธอถลึงตาใส่เขาพร้อมกับชี้นิ้วไปทางหนึ่ง กล่าวท้าทาย “ไม่เชื่อก็ไปสำรวจดูได้เลย” เธอเถียงอยู่ที่หน้าประตู
ขณะที่เธอยกแขนขึ้นสูงเพื่อชี้นำออกไปทางด้านนอก ผิวกายที่ถูกปกปิดอยู่ภายใต้ผ้าขนหนูก็โผล่ล่อตาล่อใจให้เห็น ทำให้ยัสซันหายใจผิดจังหวะไปเลยทีเดียว ตอนไม่เมาเขาก็ชอบเรื่องบนเตียงพอตัวอยู่แล้ว แล้ววันนี้ได้ดื่มน้ำเมาเพื่อเตรียมตัวเคล้านารีเต็มที่ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพยายามฝืนความรู้สึกส่วนลึกเอาไว้ โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ถูกใจไปทุกส่วนสัดแบบนี้
“ในเมื่อเต็มใจเข้ามาเองแบบนี้..” เขามองหน้าเธอ แทรกจังหวะการพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมแววตาวาวระยับ “เราก็น่าจะหาอะไรสนุก ๆ ทำกันสักหน่อยดีกว่า”
“ฉันไม่ได้มาหาความสนุก ฉันมาเพราะเรื่องงาน” คำพูดและแววตาของชายหนุ่มตีความหมายออกมาชัดเจนจนอินทิราเริ่มกลัว
“หึ ๆ” เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ จงใจมองไปที่การแต่งตัวของเธอ “ผมคิดว่าคุณมีเจตนาแฝง”
หญิงสาวมองชายหนุ่มด้วยสายตาดูถูก แสยะยิ้มออกมาอย่างจงใจให้เขาโมโห
“หึ! คุณไม่ใช่สเป็คฉันหรอก”
ดวงตาสีดำนิลไหววูบด้วยความไม่พอใจ เมื่อได้ยินและได้เห็นอาการที่เธอแสดงออกมา
“สเป็กของคุณคงต้องเป็นยอดหญ้าอ่อน ๆ เลยล่ะสิ” เขานึกถึงนักศึกษาหนุ่มคนนั้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ไหล่บอบบางไหวขึ้นเล็กน้อยตามที่เจ้าของสั่งการ เลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมรอยยิ้ม จงใจพูดใส่โดยไม่สนกับความคิดผิด ๆ ของเขา
“มันติดเป็นนิสัยไปแล้ว จะแก้ก็คงยาก ขอตัวไปกินยอดหญ้าอ่อน ๆ ก่อนนะคะบอส”
ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดแสลงหูของเธอ หงุดหงิดที่หัวใจอย่างไร้เหตุผล สองเท้าก้าวออกไป คว้าแขนของหญิงสาวที่กำลังผลักบานประตูกระจก ลากเธอกลับไปที่เตียงหลังใหญ่
“ปล่อยฉันนะ” อินทิราฝืนกายเอาไว้สุดแรง สะบัดแขนสู้กับแรงของชายหนุ่ม จะใช้มืออีกข้างตีแขนเขาให้หลุดจากข้อมือของตนก็ทำไม่ได้เพราะต้องจับผ้าเอาไว้ “เป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย ปล่อยฉันนะ ตุบ!”
ยัสซันมองหญิงสาวที่กำลังขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างร้อนรน หลังจากโดนเขาเหวี่ยงลงไป
“วันนี้ก็ลองกินส่วนอื่นของหญ้าบ้างก็แล้วกัน รับรองว่าคุณต้องติดใจจนลืมยอดหญ้าอ่อน ๆ เลยแหละ” เขาพูดจบพร้อม ๆ กับผ้าที่หลุดออกจากเรือนกาย คืบคลานไปบนเตียง คว้าข้อเท้าของหญิงสาวที่ตะกายหนีแล้วกระชากเข้าหาตัว
“ปล่อยฉันนะไอ้เลว ฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้นะ” อินทิราสะบัดขาสุดแรงหนีการเกาะกุมของเขาถึงแม้จะยังไร้ผล
“แต่ผมต้องการ และผมก็เป็นคนที่เอาแต่ใจ ถือความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ดังนั้นอย่าหวังว่าผมจะใจอ่อนยอมปล่อยคุณไปง่าย ๆ” ขนาดเป็นแบบนี้เธอยังกล้าด่าเขา จะต้องสั่งสอนให้หลาบจำซะบ้างแล้ว
“กรี๊ดดดด..” อินทิรารีบคว้าผ้าขนหนูที่ถูกเขากระชากจนหลุดออกจากร่าง แต่แรงหญิงหรือจะสู้แรงชาย สุดท้ายเธอก็มีเพียงบราเซียตัวจิ๋วปกปิดเรือนร่างส่วนบนเอาไว้ เมื่อเห็นชายหนุ่มโน้มกายหมายเข้ามาหา จึงยกเท้าถีบไปที่ใบหน้าคมเข้มนั้นเต็มแรงจนเขาเสียหลัก รีบอาศัยจังหวะนี้คลานลงจากเตียง วิ่งหนีสุดฝีเท้า
