บทที่ 6: ราตรีแห่งการครอบงำ
หลังจากปลีกตัวออกมาจากเพียงขวัญ อารยาไม่ได้เดินออกจากงานในทันที เธอกลับเคลื่อนกายอย่างสง่างามไปอีกฟากหนึ่งของห้องบอลรูม ที่ซึ่งกลุ่มนักการเมืองและนักธุรกิจระดับประเทศกำลังรวมตัวกันอยู่
เป้าหมายของเธอคือ "ท่านสุรศักดิ์" รัฐมนตรีอาวุโสผู้มีข่าวฉาวเรื่องสตรีไม่เคยขาดสาย แต่ด้วยอำนาจและบารมี ก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องเขาได้ ชายวัยหกสิบเศษในชุดสูทผ้าไหมราคาแพงมองเธอด้วยสายตาที่หื่นกระหายมาตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในงานแล้ว
อารยาแสร้งทำเป็นเดินเข้าไปทักทายนักธุรกิจคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในกลุ่มนั้น ก่อนจะหันมาสบตากับท่านสุรศักดิ์อย่างจงใจ พร้อมกับรอยยิ้มที่พอเหมาะพอเจาะ ไม่ได้ดูอ่อยเหยื่อจนเกินงาม แต่ก็ไม่ได้ดูไร้เดียงสาจนน่าเบื่อ
"ดิฉันอารยา จาก V-Crown ค่ะท่านสุรศักดิ์ ได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานแล้ว ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบตัวจริงในคืนนี้" เธอเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการเยินยออีกฝ่ายอย่างมีชั้นเชิง
ท่านสุรศักดิ์พยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ เขาชอบท่าทีที่ดูฉลาดและมีระดับของผู้หญิงคนนี้ "ผมก็ได้ยินชื่อเสียงของคุณมาเหมือนกัน V-Crown นี่มาแรงจริงๆ...คุณนี่ทั้งสวยทั้งเก่งสมคำร่ำลือ"
บทสนทนาของทั้งสองไหลลื่นไปอย่างรวดเร็ว อารยาใช้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจและโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่เธอศึกษามาเป็นอย่างดีในการพูดคุย ทำให้ท่านสุรศักดิ์รู้สึกว่าเธอนั้นแตกต่างจากผู้หญิงสวยๆ ทั่วไปที่เขาเคยเจอ เธอคือคู่สนทนาที่ทัดเทียม และนั่นยิ่งทำให้เขาต้องการจะ "ครอบครอง" เธอมากขึ้นไปอีก
"ผมว่าเรื่องที่เราคุยกันน่าสนใจมาก" ท่านสุรศักดิ์เอ่ยขึ้นหลังจากคุยกันได้พักใหญ่ "แต่น่าเสียดายที่นี่เสียงดังไปหน่อย...ผมมีห้องสวีทส่วนตัวอยู่ที่ชั้นบนของโรงแรมนี้ เผื่อว่าคุณอารยาจะสนใจขึ้นไป 'ปรึกษา' เรื่องการลงทุนกับผมต่อตามลำพัง"
มันคือคำเชิญที่ตรงไปตรงมาและไม่ปิดบัง อารยายิ้มรับคำท้านั้น "ถ้าอย่างนั้น...คงต้องรบกวนท่านแล้ว
ล่ะค่ะ"
ห้องสวีทของท่านสุรศักดิ์นั้นหรูหราและโอ่อ่ายิ่งกว่าห้องของวิชัยเมื่อคืนก่อน บ่งบอกถึงระดับอำนาจที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ทันทีที่ประตูห้องปิดลง ท่านสุรศักดิ์ก็ไม่รอช้าอีกต่อไป เขาเข้ามาประชิดตัวอารยา แต่แทนที่จะใช้ความรุนแรง เขากลับใช้ความนุ่มนวลที่แฝงไปด้วยการแสดงอำนาจ เขารินแชมเปญราคาแพงให้เธอ ก่อนจะเชยคางเธอขึ้นมาเบาๆ
"ผมชอบผู้หญิงฉลาด...แต่ผมจะยิ่งชอบมากขึ้น ถ้าผู้หญิงฉลาดคนนั้นรู้จักที่จะ 'ยอม' ให้กับคนที่เหนือกว่า" เขากล่าวพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ
อารยาหัวเราะในลำคอเบาๆ "แล้วท่านจะรู้ได้ยังไงคะ...ว่าใครกันแน่ที่ 'เหนือกว่า'"
สิ้นคำพูดนั้น เธอก็เป็นฝ่ายช่วงชิงจังหวะกลับคืนมา เธอแย่งแก้วแชมเปญจากมือเขาไปดื่มรวดเดียวจนหมด ก่อนจะผลักร่างของรัฐมนตรีอาวุโสให้นั่งลงบนโซฟาหรู แล้วตัวเธอก็ทิ้งตัวลงนั่งบนตักของเขาอย่างท้าทาย บดเบียดเรือนร่าง และ ทรวงอกของเธอเข้ากับแผงอกของเขาจนชายสูงวัยถึงกับหายใจสะดุด
"คืนนี้...อารยาอยากให้ท่านเป็นคน 'สอน' ค่ะ...สอนบทเรียนรักที่ท่านถนัดที่สุดให้หน่อยได้ไหมคะ"
เกมได้เริ่มขึ้นแล้ว และอารยาคือผู้เขียนกฎทั้งหมด
บทรักในคืนนั้นแตกต่างจากคืนก่อนโดยสิ้นเชิง มันไม่ใช่แค่การใช้ร่างกาย แต่เป็นการต่อสู้ทางจิตวิทยาที่ดุเดือด อารยาไม่ได้ยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่เธอสลับบทบาทเป็นทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า เป็นทั้งผู้ควบคุมและผู้ที่แสร้งทำเป็นยอมจำนน เธอปลุกสัญชาตญาณดิบของชายแก่ให้ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นราชสีห์ที่กำลังจะขย้ำกวางสาว แต่หารู้ไม่ว่ากวางตัวนี้คือพญามารจำแลงกายมา
เสียงครางหวานหูที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มของอารยาคืออาวุธที่ร้ายกาจที่สุด มันเคลือบไปด้วยยาพิษที่ทำให้สติของท่านสุรศักดิ์หลุดลอยทุกขณะ เธอตอบสนองทุกการกระทำของเขาด้วยความร้อนแรงที่ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาเชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอกำลังหลงใหลในตัวเขาจนโงหัวไม่ขึ้น
"อ่าาาห์...คุณอารยา...คุณมัน...สุดยอดจริงๆ" เขาคำรามออกมาอย่างสุขสม
"ท่านก็เหมือนกันค่ะ" เธอกระซิบตอบกลับ ลมหายใจร้อนๆ ของเธอเป่ารดใบหูของเขา "คนที่ทรงอำนาจอย่างท่าน...คงจะทราบใช่ไหมคะว่าโปรเจกต์รถไฟฟ้าที่รัฐบาลกำลังจะอนุมัติ...มันจะผ่านไปทางไหน...อารยาแค่อยากจะเข้าไปลงทุนแถวๆ นั้นดูบ้าง...เผื่อจะได้พึ่งบารมีของท่าน"
ในภาวะที่ตัณหาครอบงำจนไม่เหลือที่ว่างสำหรับความคิดอื่นใด ท่านสุรศักดิ์ก็หัวเราะออกมาอย่างผู้มีชัย "แน่นอนสิ! เรื่องแค่นี้เอง...ผมจัดการให้คุณได้สบายมาก...เส้นทางมันจะผ่านที่ดินผืนใหญ่ทางตะวันออก...ที่กลุ่มของทรงภพกำลังจ้องตาเป็นมันอยู่...แต่ถ้าเป็นคุณ...ผมจะช่วยให้คุณได้มันมาเอง!"
ข้อมูลล้ำค่าหลุดออกมาจากปากของเขาอย่างง่ายดาย...ง่ายเสียจนอารยาแทบจะหัวเราะออกมา
'สำเร็จ'
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว อารยาก็ไม่จำเป็นต้องเล่นละครอีกต่อไป เธอเร่งจังหวะเกมรักให้เร่าร้อนและดุดันขึ้นสู่ขีดสุด ปลดปล่อยให้เขาได้ถึงฝั่งฝันอย่างรุนแรงจนแทบสิ้นสติ
หลังจากเสียงคำรามสุดท้ายของเขาเงียบลง อารยาก็ผละตัวออกมาทันที ความร้อนแรงบนใบหน้าและร่างกายหายวับไป ถูกแทนที่ด้วยความเฉยชาและสายตาที่ว่างเปล่า
เธอหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะชายตามองร่างที่นอนหมดแรงอยู่บนโซฟา
"เดี๋ยวสิคุณอารยา..." ท่านสุรศักดิ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง "จะรีบไปไหน...อยู่ต่อกับผมก่อน"
อารยาหันกลับมามองเขาเป็นครั้งสุดท้าย รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองรู้สึกหนาวสะท้านไปถึงกระดูก
"ธุระของดิฉันกับท่าน...จบลงแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับ 'ข้อมูล' นะคะ"
เธอเน้นคำว่า 'ข้อมูล' อย่างชัดเจน ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้รัฐมนตรีผู้ทรงอำนาจต้องนอนนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น พร้อมกับความรู้สึกอัปยศอดสูและตระหนกตกใจที่แล่นเข้ามาแทนที่ความสุขสมเมื่อครู่
บนรถที่ขับเคลื่อนไปตามท้องถนนที่ว่างเปล่าในยามดึกสงัด อะดรีนาลีนจากการ "ล่า" ค่อยๆ จางหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าที่กัดกินหัวใจเช่นเคย ชัยชนะในคืนนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงการตอกย้ำว่าเธอต้องทำเรื่องสกปรกเช่นนี้อีกกี่ครั้งกว่าจะไปถึงเป้าหมายสุดท้าย
เช้าวันรุ่งขึ้นที่ V-Crown อารยากลับมาสวมเกราะของประธานหญิงผู้ไร้เทียมทานอีกครั้ง ใบหน้าของเธอดูไร้ที่ติเหมือนเคย แต่แววตาคู่สวยกลับฉายแววเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด
เพียงขวัญเดินเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับกาแฟดำแก้วโปรดของอารยา เธอวางมันลงบนโต๊ะโดยไม่พูดอะไร สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเข้าใจและความเป็นห่วง
ในจังหวะนั้นเอง เสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์ของอารยา เธอหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะชะงักไปเล็กน้อย
มันเป็นข้อความจากเนเน่...
"ท่านประธานคะ แบบร่างสวนหย่อมที่ปรับปรุงแล้วเสร็จแล้วนะคะ เนเน่ลองใส่ 'ดอกลิลลี่สีขาว' เข้าไปด้วยค่ะ...เขาว่ากันว่าเป็นดอกไม้ที่หมายถึง 'รักแท้' ค่ะ :)"
ข้อความที่เปี่ยมไปด้วยความสดใสและบริสุทธิ์นั้น...ช่างขัดแย้งกับค่ำคืนอันโสมมที่เธอเพิ่งผ่านมาโดยสิ้นเชิง คำว่า "รักแท้" เป็นเหมือนเศษแก้วที่ทิ่มแทงหัวใจของเธอ
อารยาวางโทรศัพท์ลง จ้องมองออกไปยังวิวเมืองเบื้องนอก...หน้ากากนางพญาของเธอเกือบจะปริแตกออกมาอีกครั้ง