บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ผลแห่งควมหวังดี

ตอนที่ 5 ผลแห่งควมหวังดี

ภายในเพนท์เฮาส์หรูในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง คิมทันต์เพิ่งกลับถึงห้องในสภาพอ่อนล้า เขานั่งลงบนโซฟา ถอดเนกไทออกอย่างแรง สายตาเหลือบไปเห็นกล่องเค้กที่เลขาซื้อมาให้ ซึ่งเขายังไม่ได้แตะมันเลยตั้งแต่ช่วงค่ำ

“โครกกก” เสียงท้องร้องประท้วงออกมาด้วยความหิว เขาจึงเปิดกล่อง แล้วหยิบบราวนี่สีเข้มเข้าปากอย่างไม่รอช้า

วินาทีแรกคือรสช็อกโกแลตเข้มข้น แต่ทว่าในวินาทีต่อมา คิมทันต์เบิกตากว้าง พุ่งตัวไปที่ตู้เย็น คว้าน้ำเปล่ามาดื่มอั่กๆ

“แค่ก แค่ก นี่มัน อะไรวะเนี่ย”

ความเผ็ดแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปาก เขามองบราวนี่ในมือด้วยสายตาเหลือเชื่อ ก่อนจะนึกถึงใบหน้าหวานๆ ที่แฝงไปด้วยความท้าทายของบาริสต้าสาวเจ้าของร้านกาแฟ

“พิชชาอร” เขาเค้นชื่อเธอออกมา พร้อมกับฟันธง “เธอแกล้งฉัน”

ความเผ็ดร้อนยังคงค้างอยู่ในลำคอ แม้จะผ่านไปเกือบสิบนาที คิมทันต์ยืนพิงเคาน์เตอร์ครัวในเพนท์เฮาส์หรูของตัวเอง ดวงตาคมกริบจ้องมองก้อนบราวนี่สีดำสนิทในมือราวกับมันเป็นอาวุธชีวภาพ

“พิชชาอร”

เขาเปล่งชื่อเธอออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยประกายไฟที่พร้อมจะลุกโชน นี่ไม่ใช่ความผิดพลาด นี่คือการจงใจชัดๆ ผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงร่างเล็กที่ดูอบอุ่นเหมือนขนมปังอบใหม่ แต่กลับซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ภายใต้รอยยิ้มหวานๆ นั่น กล้าดียังไงมาเล่นตลกกับเขา

คิมทันต์ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาแกล้งได้ง่าย เขาเผลอคิดไปว่านี่คือการเอาคืน เรื่องที่เขาคอมเมนต์กาแฟของเธอเมื่อเช้า และมันก็สอดคล้องกับเรื่องอุบัติเหตุ กาแฟเค็มที่เธอกล่าวอ้างนั่นด้วย

เขาเป็นนักธุรกิจที่เชื่อในเหตุและผล และตอนนี้ หลักฐานก็ชี้ชัดว่าบาริสต้าสาวคนนั้นกำลังประกาศสงครามกับเขา

คิมทันต์แค่นยิ้มมุมปาก น่าสนใจดี

ปกติเขาไม่มีเวลามาเล่นเกมไร้สาระแบบนี้ แต่การย้ายออฟฟิศชั่วคราวมาที่ “The Hub” นี้ ทำให้ชีวิตที่เคยเป็นเส้นตรงของเขามีสีสันแปลกใหม่ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ และดูเหมือนว่า แม่สาวร้านกาแฟคนนี้จะเป็นตัวแปรที่น่าสนใจที่สุด

เขาทิ้งบราวนี่มรณะนั่นลงถังขยะอย่างไม่ไยดี ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์เลขาของเขา

“คุณมีนา พรุ่งนี้เช้า ผมขอกาแฟจากร้าน 'Blacksmith's Brew' ตรงหัวมุมถนน อเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ไม่เปรี้ยวครับ ขอก่อนแปดโมงเช้า ไม่ต้อง...ไม่ต้องซื้อจากคาเฟ่ข้างล่าง”

เขากดวางสาย สงครามจิตวิทยาเพิ่งเริ่มต้น ถ้าเธออยากเล่น เขาก็จะเล่นด้วย

ในเมื่อเธอใช้อาวุธเป็น “รสชาติ” เขาก็จะใช้อาวุธที่เขาถนัดที่สุด นั่นคือ “ความเฉยเมย”

และในเช้าวันรุ่งขึ้น พายมาถึงร้านตั้งแต่หกโมงเช้าด้วยอารมณ์ที่สดใสกว่าเมื่อวาน เธอฮัมเพลงเบาๆ ขณะจัดเรียงครัวซองต์อบใหม่เข้าตู้ กลิ่นเนยหอมกรุ่นฟุ้งไปทั่วบริเวณ

เมื่อคืนเธอนอนหลับฝันดี ฝันเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่เอ่ยชมรสชาติแปลกใหม่ของบราวนี่พริกที่เธอเพิ่งทดลองสูตรขึ้น

“ฉันอยากเห็นปฏิกิริยาของนายซีอีโอปากเสียนั่นจัง ว่าจะรู้สึกยังไงกับขนมที่ฉันเตรียมจะเปิดตัวขาย ในเมื่อเขาเป็นพวกชอบวิจารณ์มากนัก ให้เขามาทดลองเป็นลูกค้าคนแรกคงได้ผลไม่น้อย”

เช้าวันนี้พายจึงตั้งใจเตรียมอเมริกาโน่สูตรที่ดีที่สุดไว้รอเขาแล้ว กะว่าถ้าเขาโผล่หน้ามาเมื่อไหร่ เธอจะเสิร์ฟกาแฟที่เพอร์เฟกต์ที่สุด แล้วยิ้มหวานๆ ถามเขาว่า “ขนมของเธอเมื่อวาน 'พอใช้ได้' หรือยังคะ”

เจ็ดโมงครึ่ง ประตู The Hub เปิดออก พายได้แต่ชะเง้อคอมองหาคนๆ หนึ่งอย่างกระวนกระวาย

เจ็ดโมงสี่สิบห้า พนักงาน K-Innovate เริ่มทยอยกันมา พวกเขาสั่งกาแฟและขนมจากเธออย่างอารมณ์ดี “เมื่อวานบราวนี่อร่อยมากเลยค่ะคุณพาย” “ครัวซองต์ร้านนี้สุดยอดเลย”

พายยิ้มรับหน้าบาน แต่สายตาก็คอยสอดส่องหาเป้าหมายไม่หยุด

แปดโมงตรง ร่างสูงในชุดสูทสีเทาอ่อนเดินผ่านหน้าคาเฟ่ไป คิมทันต์

พายรีบปรับสีหน้า เตรียมปั้นรอยยิ้มต้อนรับให้เขาอย่างใจจดใจจ่อ เขากำลังเดินตรงมาที่เคาน์เตอร์...ไม่สิ เขาไม่ได้มองเธอเลยด้วยซ้ำ

ในมือของเขา ถือแก้วกาแฟกระดาษสีดำสนิทที่มีโลโก้ “Blacksmith's Brew” ร้านกาแฟชื่อดังที่เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของเธออยู่

คิมทันต์เดินผ่านหน้าพายไป เหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ เขากดลิฟต์ แล้วหายลับขึ้นไปชั้นสี่ โดยไม่แม้แต่จะชายตามองพายเสียด้วยซ้ำ

พายได้แต่อ้าปากค้าง รอยยิ้มที่เตรียมไว้แข็งทื่อ

“นี่มัน หมายความว่ายังไง” พายพึมพำออกมา เขาไม่ได้มาตำหนิหรือวิจารณ์อย่างเคย แต่เขากลับเลือกเมินเธอ แล้วไปซื้อกาแฟจากร้านอื่น

ความรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่ดังกว่าเมื่อวานเสียอีก นี่มันคือการหยามกันชัดๆ เมื่อวานเธออุตส่าห์หวังดีกลัวว่าเขาจะหิวจนไส้กิ่ว จึงได้ใช้ขนมสูตรทดลองนั่นไป แต่ไม่คิดว่าเขากลับไม่เห็นค่า ซ้ำยังมาดูถูกเธอแบบนี้อีก

ตอนนี้เขากำลังประกาศให้เธอรู้ว่า กาแฟของเธอไม่ดีพอ แม้แต่จะให้เขาเสียเวลาวิจารณ์อีกต่อไป นี่เขากำลังเล่นสงครามจิตวิทยากับเธอเหรอ...ได้...อยากเล่นนักใช่ไหม

“กรี๊ดดดด” พายอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ แต่ทำได้แค่กระทืบเท้าอยู่หลังเคาน์เตอร์

“ไอ้บ้า ไอ้คนไม่รู้สำนึก”

พายได้แต่หัวเสียและขัดใจกับท่าทีของคิมทันต์ แต่เธอก็ต้องปรับสีหน้าอีกครั้ง เมื่อมีลูกค้าคนใหม่เข้ามาภายในร้าน

จนกระทั่งเก้าโมงเช้า พายหย่อนกายนั่งลงพัก เมื่อลูกค้าเริ่มซาลง

“พาย ทำไมแกทำหน้าเหมือนครัวซองต์ไหม้ขนาดนั้นล่ะ”

เสียงของไวน์ดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของเพื่อนสาวในชุดจั๊มสูทสีเขียวมะนาวเปรี้ยวจี๊ด

พายเล่าเหตุการณ์กาแฟคู่แข่งให้ไวน์ฟังด้วยความเดือดดาล

ไวน์ฟังจบก็กอดอก “โอ้โฮ พ่อหนุ่มซีอีโอนี่ไม่ธรรมดานะยะ เขาไม่ได้แค่ปากร้าย แต่เขาร้ายลึกเสียด้วย”

“ฉันจะทำยังไงดีไวน์ นี่มันหยามกันชัดๆ”

“ง่ายมาก” ไวน์ยิ้มมุมปาก “ถ้าเขาไม่เดินมาหาเรา เราก็เดินไปหาเขาสิ”

“หมายความว่าไง”

“แกก็ทำขนม ขนมที่อร่อยที่สุดในสามโลกของแก แล้วเอาขึ้นไปเสิร์ฟให้เขาถึงที่ออฟฟิศเลยสิ” ไวน์ขยิบตา “ในฐานะลูกค้าชั้นหนึ่งยังไงล่ะ”

พายตาโตอย่างไม่ค่อยแน่ใจกับความคิดเพื่อนสาว “แต่เขาจะให้ฉันเข้าไปเหรอ ชั้นสี่นั่นระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนามากนะ”

“แกก็ฝากเลขาเขาไปสิ หรือไม่ก็ ไปดักเจอตอนเขาลงมาด้านล่าง ลิฟท์ก็อยู่ด้านหน้านั้นเอง เขาลงมาเมื่อไหร่ แกก็เห็นอยู่แล้ว”

“ไวน์”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel