ตอนที่ 2 กาแฟที่รสชาติเหมือนกาแฟ
ตอนที่ 2 กาแฟที่รสชาติเหมือนกาแฟ
พายเผลอจ้องมองดวงตาคู่นั้นของคิมทันต์อย่างลืมตัว ดวงตาที่คมกริบ เย็นชา และกำลังกวาดมองร้านของเธอด้วยสายตาที่เหมือนกำลังประเมินอะไรบางอย่าง
พายรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกดึงดูดจนไม่กล้าละสายตา ในขณะเดียวกับก็รู้สึกเหมือนถูกเครื่องสแกนราคาสูงจับจ้อง จนเผลอกลืนน้ำลายดังเอื๊อก
“สวัสดีครับ” คิมทันต์เอ่ยทักทำลายความเงียบ เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำราบเรียบ หัวคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าเอาแต่จ้องมองเขาตาไม่กะพริบ “ผมคิมทันต์ จาก K-Innovate ครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” พายยิ้มรับ “เดี๋ยวพายเตรียม Welcome Drink ให้นะคะ เป็นกาแฟซิกเนเจอร์ของทางร้านค่ะ”
เธอรีบหันกลับไปที่เคาน์เตอร์ หัวใจเต้นตึกตัก ไม่ใช่เพราะความหล่อ แต่เพราะความกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวผู้ชายคนนี้
เธอตั้งใจชง “Caramel Cloud Latte” สูตรพิเศษของเธออย่างสุดฝีมือ มันคือกาแฟลาเต้ที่ผสมคาราเมลโฮมเมดสูตรลับ ราดด้วยโฟมนมหนานุ่มที่เธอใช้เวลาฝึกฝนมานาน และมันก็เป็นเมนูยอดฮิตที่ลูกค้าหลายคนต่างพากันชื่นชอบ
พายค่อยๆ บรรจงวางแก้วกาแฟทั้งสี่ลงบนถาด แล้วนำไปเสิร์ฟให้กลุ่มของคิมทันต์ที่นั่งรอสิงห์จัดการเรื่องเอกสารอยู่ที่โต๊ะมุมร้าน
“เชิญค่ะ Caramel Cloud Latte”
ทีมงานของคิมอีกสองคนรับไปดื่มแล้วยิ้ม “หอมจังเลยครับ” “ขอบคุณค่ะ”
แต่ทว่าเมื่อพายหันไปมองคิมทันต์ เขากลับยังคงนั่งนิ่ง มองแก้วกาแฟตรงหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย
“คุณคิมไม่ลองชิมหน่อยเหรอคะ” พายเอ่ยถาม พยายามรักษาโทนเสียงให้เป็นมิตรที่สุด
เขาละสายตาจากแก้วกาแฟขึ้นมาสบตาของเธอ ดวงตาคมกริบคู่นั้นมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะหยุดที่ผ้ากันเปื้อนที่มีรอยแป้งติดอยู่นิดหน่อย
“ปกติผมไม่ดื่มกาแฟรสหวาน” เขาตอบสั้นๆ
พายหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย “อย่างนั้นเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพายทำอเมริกาโน่ร้อนมาให้ใหม่นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ” เขาปฏิเสธ “ผมขออเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน และไม่เปรี้ยว ขอกาแฟที่รสชาติเหมือนกาแฟจริงๆ”
คำพูดนั้นเหมือนตบหน้าของพายกลายๆ กาแฟที่รสชาติเหมือนกาแฟจริงๆ นี่เขาหมายความว่ากาแฟของเธอไม่ใช่กาแฟอย่างนั้นเหรอ...
“เอ่อ ได้ค่ะ” พายกัดริมฝีปาก ข่มความไม่พอใจเอาไว้ เธอหันหลังกลับ พร้อมปรายตามองค้อนชายหนุ่มเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ด้วยความหงุดหงิดใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ในที่สุดพายก็เลือกเมล็ดกาแฟคั่วกลางที่ดีที่สุดในร้าน บรรจงบดและสกัดช็อตเอสเปรสโซอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนจะเติมน้ำร้อนลงไปในอัตราส่วนที่พอดีเป๊ะ
“อเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ไม่เปรี้ยว” เธอพึมพำกับตัวเอง
และแล้วพายก็ได้นำกาแฟแก้วใหม่ไปเสิร์ฟให้เขาอีกครั้ง “ได้แล้วค่ะ อเมริกาโน่”
คิมทันต์ยกแก้วขึ้น จิบเพียงเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็ขมวดคิ้วออกมา
พายสังเกตเห็นอาการดังกล่าว เธอได้แต่กลั้นหายใจรอฟังคำวิจารณ์ที่น่าหงุดหงิดอีกครั้ง
คิมทันต์วางแก้วลงในที่สุด “เมล็ดกาแฟนี้ คั่วมานานเท่าไหร่แล้วครับ”
“เอ๊ะ” พายเลิกคิ้วอย่างงงๆ “ก็...ประมาณสองอาทิตย์ค่ะ เป็นรอบคั่วปกติ”
“นานเกินไป” เขาพูดเรียบๆ “กาแฟสูญเสียอโรม่าไปหมดแล้ว และอุณหภูมิน้ำที่คุณใช้...ร้อนเกินไป ทำให้รสชาติขมโดดและมีกลิ่นไหม้ปนมา”
พายถึงกับอ้าปากค้าง นี่มันคำวิจารณ์ที่ตรงและแรงที่สุดเท่าที่เธอเคยได้รับมา
“ขอโทษนะคะ” พายเริ่มควบคุมสติไม่อยู่ เธอจึงขึ้นเสียงออกมา “ฉันเป็นบาริสต้าที่นี่มาปีกว่า ยังไม่เคยมีลูกค้าคนไหน...”
แต่ยังไม่ทันที่พายจะพูดจบ คิมทันต์ก็ปรายตามองเธอและพูดตัดบทออกมาอย่างไม่เกรงใจ
“นั่นคงเพราะลูกค้าของคุณ...ไม่รู้ว่ากาแฟที่ดีควรเป็นยังไง” น้ำเสียงของเขาทั้งแข็ง ทั้งเย็นชา เขาขัดจังหวะเธออย่างไม่ไยดี “หรือบางที...ก็แค่พวกเขาเกรงใจคุณ”
“นี่คุณ” พายเริ่มโมโห
“ผมก็แค่พูดตามจริง” คิมทันต์กล่าวออกมาลอยๆ ก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นดูราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ผมต้องจ่ายเงินค่าเช่าที่นี่เดือนละหลายแสน ดังนั้นผมจึงคาดหวังว่าอย่างน้อย กาแฟที่ผมต้องดื่มทุกเช้ามันควรจะ 'ดื่มได้' มากกว่านี้”
สิ้นคำพูดที่ราวกับลากเธอมาตบกลางสี่แยก พายก็สวนกลับด้วยความโกรธ จนลืมไปเลยว่านี่คือลูกค้ารายใหญ่ที่เธอต้องมัดใจ
“ถ้ากาแฟของฉันมัน 'ดื่มไม่ได้' ขนาดนั้น ก็เชิญคุณไปหาดื่มที่อื่นเถอะค่ะ”
คิมทันต์เลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากของเขาเหมือนจะยกยิ้ม แต่ก็ไม่เชิง มันเป็นรอยยิ้มที่เย้ยหยันมากกว่า
“นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังจะทำ แต่โชคไม่ดีที่ผมติดสัญญาเช่ากับคุณสิงห์ไปแล้วหนึ่งปี” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ผมหวังว่าอย่างน้อย คุณคงจะไม่เอากาแฟรสชาติแย่ๆ นี่มาเสิร์ฟผมอีกในวันพรุ่งนี้”
หลังจากพูดจบ คิมทันต์ก็หันไปหาสิงห์ที่เดินกลับมาพอดี “เอกสารเรียบร้อยนะครับคุณสิงห์ ทีมผมจะเริ่มย้ายของเข้ามาบ่ายนี้”
“เรียบร้อยครับ” สิงห์ยิ้มรับ โดยไม่รู้เลยว่าสงครามย่อมๆ เพิ่งเกิดขึ้นที่โต๊ะนี้
คิมทันต์พยักหน้าให้สิงห์ แล้วเดินนำทีมงานของเขาออกไปจากโซนคาเฟ่ โดยไม่แม้แต่จะชายตามองพายอีกเลย เขาทิ้งอเมริกาโน่แก้วนั้นไว้บนโต๊ะ โดยที่มันพร่องไปเพียงแค่จิบเดียว
พายกำหมัดแน่น ยืนตัวสั่นด้วยความโกรธ “ไอ้ผู้ชายปากร้าย...ไอ้คนบ้าไร้หัวใจ”
นี่ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นวันที่แย่ แต่มันคือการเริ่มต้นของ “หายนะ” ชัดๆ โอกาสพลิกวิกฤตของเธอกลายเป็นวิกฤตซ้ำซ้อนเพียงเพราะกาแฟแก้วเดียว
พายมองตามหลังคิมทันต์ไปจนลับตา แล้วหันกลับมามองตัวเลขสีแดงในแท็บเล็ตอีกครั้ง ความโมโหก่อนหน้าถูกดับจนมอดไหม้ เหลือเพียงความหวังที่ถูกเป่าดับในชั่วพริบตา
“เฮ้อ...ดูเหมือนว่าอีกหนึ่งปีข้างหน้านี้ ชีวิตของแกที่ “The Hub Cafe” จะไม่มีวันสงบสุขอีกต่อไปแล้วสิ” พายได้แต่ยืนทอดถอนหายใจอย่างหนัก “ตัวเลขก็แดงเถือก ลูกค้าก็ปากร้าย เอาใจยาก...อยากจะบ้าตายจริงๆ”
พายยืนมองแก้วอเมริกาโน่ที่ถูกทิ้งไว้ด้วยความเจ็บใจ เธอหยิบมันขึ้นมาลองจิบเอง และเธอก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้ง
“นี่มัน...เค็ม” พายอุทานออกมาอย่างตกตะลึง
