บทที่ 18 จัดการ
อารตีเดินยิ้มเข้ามาในบ้านพักหมอทศพล ไม่แปลกใจที่เห็นโสภีนั่งอยู่ข้างทศพล หล่อนรู้ทันทีว่าสองคนนี้รู้บางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่หล่อนเห็น เปมิกานั่งตรงข้ามกับหมอ อารตีนั่งตรงข้ามโสภี
“พี่โสรู้เรื่องด้วยใช่มั้ยล่ะ”
เปมิกาเอ่ยขึ้นขณะมองหน้าหัวหน้าพยาบาล สาวใหญ่ทำหน้าเบื่อการรู้ทันของหญิงสาว ทศพลยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยว่า
“อยากรู้อะไรถามพี่มา”
“เรื่องผีที่เราสองคนเห็นค่ะพี่หมอ”
อารตีตอบทันทีและรอฟังเรื่องราวที่หล่อนไม่เคยรู้จากหมอและหัวหน้าพยาบาล
“ก่อนที่แกสองคนจะฟังเรื่องนี้ พี่ขอร้องว่าอย่าให้เรื่องมันไปถึงหูคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องดีเลยพี่กับหมอทศถึงไม่อยากเล่าแต่แกบังคับพี่ทางอ้อม พี่จะเล่าให้ฟังแต่รับปากมาก่อนว่าจะไม่เล่าต่ออีก”
“รับปากค่ะ”
สองสาวตอบพร้อมกัน ความอยากรู้ฉายชัดในดวงตาสองคู่ โสภีหันมามองทศพลแล้วพยักหน้าให้หมอหนุ่มเริ่มเรื่องทั้งหมด
อารตีและเปมิกาอ้าปากค้างกับเรื่องสยองขวัญแม้รับฟังเพียงอย่างเดียวก็สามารถมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน เหตุร้ายที่เกิดในโรงพยาบาลจะยังอยู่ถึงทุกวันนี้ทีเดียวหรือ อารตีกลืนน้ำลายลงคอ พูดไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไรกับเรื่องที่ทศพลเล่าจบลง
เปมิกาถอนใจเฮือกเป็นห่วงชยาภรณ์มากกว่าที่เคยห่วงแม้ว่าจะไม่สนิทกับชยาภรณ์เท่าอารตีก็ตามแต่ก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันทำงานพร้อมกัน เรื่องความรักของชยาภรณ์หล่อนรู้ทุกอย่างและเพลินใจโกรธเกลียดชยาภรณ์เพราะนิรุทธ์ควงชยาภรณ์อย่างเปิดเผยไม่แคร์เพลินใจที่รู้กันภายในว่าพยาบาลรุ่นพี่คนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหมอรุทธ์
“เป็นไงล่ะรู้แล้วรู้สึกยังไง”
โสภีมองหน้าสองสาวสลับกัน ทศพลก็เช่นกันมองหน้าอารตีแล้วเบนสายตามาที่เปมิกา
“น่ากลัวมากค่ะ ตี้มองเห็นภาพชัดเลย พี่โส ทำไมเขามาทำให้ตี้กับเปมเห็นคะ คนอื่นเห็นเหมือนเรามั้ยคะ”
“คงไม่หรอก ถ้าเห็นก็ต้องร้องกันทั้งโรงพยาบาลแล้วสิ”
“แล้วเราต้องทำยังไงคะเขาถึงจะไม่ให้เราเห็นอีก”
เปมิกาถามน้ำเสียงและสีหน้ากังวล โสภียิ้ม ไม่เพียงเปมิกากลัวตัวหล่อนที่รู้เรื่องตั้งแต่ต้นยังกลัว วิญญาณอาฆาตของปิ่นเพชร สามีทรยศและรับพยาบาลสาวเป็นภรรยาน้อยออกหน้าออกตาเป็นสิ่งที่ภรรยาหลวงรับไม่ได้ เหตุการณ์เหล่านั้นกลับมาเกิดในโรงพยาบาลม่านแพรอีกครั้ง หากวิญญาณปิ่นเพชรยังอยู่คนที่วิญญาณต้องการเอาชีวิตคือชยาภรณ์
อารตีกลับเข้าห้องพักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาชวนเปมิกาที่อยู่อีกห้องลงไปหาซื้ออาหารสำหรับมื้อค่ำ ตลาดนัดใกล้โรงพยาบาลเป็นสถานที่ช้อปปิ้งอาหารของพยาบาลสาว
“เปม เย็นนี้กินข้าวที่ห้องฉันนะ”
“เออ ยัยภรณ์แวบมากินกับเรามั้ย”
“ไม่รู้เหมือนกัน งานเยอะก็มาไม่ได้ เออ แกว่าที่พี่โสกับพี่หมอทศเล่าน่ะน่ากลัวมั้ย”
“อือ.เลิกพูดเถอะ ฉันไม่อยากคิด”
เปมิกายกมือห้ามเพื่อนสาว เสียงพูดคุยจึงหยุดเพียงแค่นั้น อารตีซื้อกับข้าวสำเร็จได้ถูกใจสามอย่าง เปมิกาได้สี่อย่างผลไม้ต่างหาก สองสาวขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านพัก
ชยาภรณ์ทำงานตามปกติเช่นทุกวัน นิรุทธ์เข้ามาคุยกับหล่อนครู่หนึ่งก็เดินกลับออกจากห้องผู้ป่วย เพลินใจแอบมองอยู่นอกหน้าต่างหลังห้องผู้ป่วยรวม สายตาเคียดแค้นปรากฏในดวงตา ริมฝีปากเม้มกัดจนรู้สึกเจ็บ
“อีตัวมาร มึงกับกูอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้หรอก ถ้ามีกูต้องไม่มีมึง”
“ถ้าอย่างนั้นก็จัดการมันเสียสิ”
เสียงก้องกังวานดังอยู่ชิดใบหู หญิงสาวพ่นลมหายใจแรงๆ แล้วหันไปทางเสียงที่ได้ยินตั้งใจต่อว่าคนที่มาแอบฟังหล่อนพูดแต่ข้างตัวหล่อนไร้แม้เงาของสิ่งมีชีวิต
หัวคิ้วย่นเข้าหากัน ดวงตากลอกกลิ้งซ้ายขวาอย่างหาที่มาของเสียงเมื่อครู่ ลมพัดวูบปะทะใบหน้าเย็นวาบ ขนลุกชูชันโดยไม่รู้ตัว เท้าก้าวเร็วๆ ไปที่บันไดด้านหลังห้องพักผู้ป่วย ด้วยความรีบร้อน รองเท้าส้นสูงสะดุดกับขั้นบันไดสุดท้าย ร่างบางเสียหลักถลาไปข้างหน้า
“ว้าย ว้าย ว้าย ว้าย...”
เพลินใจร้องด้วยความตกใจเป็นครั้งที่สองภายในนาทีเดียวที่หล่อนพบกับสิ่งประหลาดและกำลังจะประสบอุบัติเหตุตกบันได แขนของหล่อนกางเหมือนปีกนกจะเหินลมแต่ร่างที่กำลังจะล้มลงกลิ้งกับพื้นกับพุ่งตรงไปหาต้นกาสะลอง
