บทที่ 15 ผู้หญิงผมยาว
“ทุกคนปล่อยคนไข้ค่ะ”
ทุกสายตาหันมาจ้องหน้าพยาบาลที่กล้าออกคำสั่งหมอและหัวหน้า โสภีปล่อยมือจากขาคนไข้
“หมอคะ ปล่อยเถอะค่ะ”
นิรุทธ์ปล่อยแขนคนไข้ตามที่โสภีกระซิบบอก ทุกคนปล่อยเช่นกัน อารตียืนอยู่ปลายเท้าคนไข้
“ใครจับคุณไว้คะ เขาจะให้คุณทำอะไรคุณถึงไม่ยอมทำแล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนคะ”
คำถามติดต่อกันโดยไม่รอฟังคำตอบที่ละคำถาม สายตาจับนิ่งที่ใบหน้าคนไข้ซึ่งบัดนี้บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
“มือมันบีบอยู่ที่หน้าอกฉัน มันจะให้ฉันฆ่าคน มันบังคับฉัน ช่วยฉันด้วย”
คนไข้ตอบติดขัดยกมือขึ้นคว้าอากาศเหนือหน้าอก โสภีรู้ทันทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไข้ไม่ใช่อาการป่วยแต่กำลังถูกผีหรืออะไรก็ตามที่มองไม่เห็นด้วยสายตาของพวกหล่อนบีบบังคับให้ฆ่าคนอย่างที่คนไข้พูด
“เขาจะให้ฆ่าใครแล้วทำไมต้องฆ่า”
“ฆ่าผู้หญิงเป็นพยาบาล เพิ่งออกไปแต่วันนี้ยังไม่เข้ามา”
คนไข้ยังคงตอบคำถามอารตี สายตาจ้องมองตรงแต่ไม่ได้มองใครรอบเตียง โสภีไม่รอนิ่งฟังอารตีถามต่อ
“พยาบาลชื่ออะไร”
“ไม่รู้ สวยๆ เคยมาให้ยาฉัน มาเมื่อวาน”
อารตีมองหน้าเปมิกา เมื่อวานชยาภรณ์เข้าเวรเพิ่งออกไปตอนเช้า ถ้าอย่างนั้นพยาบาลที่คนไข้พูดถึงคือชยาภรณ์ โสภีขยับเข้าใกล้คนไข้
“เขาให้ฆ่าทำไม ทำไมต้องฆ่า คนที่สั่งเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“ผู้หญิง ผมยาว โอ้ย ปล่อยกู ปล่อยกู โอ้ย”
โสภีไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียว สร้อยพระที่คล้องอยู่ดึงออกทางศีรษะแล้ววางบนหน้าอกคนไข้
“อ๊ายยยยยยย...”
เสียงกรีดร้องเจ็บปวดดังโหยหวน โสภีหลับตาท่องมนตร์ที่เคยท่องจนจำขึ้นใจและแผ่เมตตาตามไปเสียงกรีดร้องนั้นหายเงียบไป คนไข้วางมืออย่างหมดแรง ทุกสายตาจับที่ใบหน้าคนไข้
“พี่โส ตี้ขอกลับบ้านพักแป๊บนึงนะคะ”
“เปมไปด้วยค่ะ”
สังหรณ์ใจบางอย่างเกี่ยวกับเพื่อนรักรบกวนจิตใจจนไม่อาจยืนนิ่งอยู่ได้ อารตีวิ่งออกจากห้องผู้ป่วย เปมิกาวิ่งตามไปติดๆ สองสาวคิดถึงชยาภรณ์ เพื่อนของพวกหล่อนกำลังตกอยู่ในอันตราย
นิรุทธ์ก้าวยาวๆ จะออกจากห้องอีกคน เพลินใจวิ่งไปฉุดแขนเขาไว้ โสภีมองด้วยสายตาไม่พอใจนักเพราะเพลินใจทำตัวเป็นเจ้าของหมอนิรุทธ์มากเกินไปและทำโดยไม่เกรงใจหัวหน้าอย่างโสภี
“พี่หมอจะไปไหนคะ ตามนังสองคนนั่นไปเหรอคะ เพลินไม่ให้ไปค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“เพลิน อย่าเสียมารยาท คุณหมอจะไปตรวจคนไข้ต่อ ถ้าเธอจะคุยต้องรอให้หมอทำงานเสร็จก่อน เชิญค่ะหมอ”
โสภีแทรกขึ้นและกันตัวหมอนิรุทธ์ออกไป เพลินใจหงุดหงิดใส่โสภีจ้องหน้าหัวหน้าพร้อมจะเปิดศึกเป็นศัตรูกันเลยทีเดียว
“พี่โสมายุ่งอะไรด้วย นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเพลิน พี่ไม่เกี่ยว”
“ถ้าหมดเวลาทำงานพี่ไม่ยุ่งด้วยหรอกเพลินแต่นี่เวลาทำงาน คนไข้รอหมออยู่อีกหลายเตียง ถ้าจะโกรธพี่ก็โกรธได้เลยนะ พี่ไม่ว่า”
สาวใหญ่เดินกลับมาที่เตียงคนไข้เพิ่งถูกผีทำร้าย พระยังวางอยู่ที่หน้าอกคนไข้ ญาติคนไข้มองหน้าโสภี
“หมอคะ ขอพระไว้ก่อนได้มั้ย ฉันกลัวผีจะมาทำร้ายลูกฉันอีก”
“ได้จ้ะป้า ไม่ต้องเรียกฉันหมอหรอก ฉันเป็นพยาบาล”
“มันติดปากแล้วจ้ะ”
“งั้นก็ตามสบาย ถ้ามีอะไรไปเรียกฉันที่ห้องนั้นนะ ฉันอยู่เวรทั้งคืน”
“จ้ะ ขอบใจมากนะหมอ”
โสภียิ้มกับญาติคนไข้ อยากไปบ้านพักชยาภรณ์แต่หน้าที่ทำให้หล่อนเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องทำงาน
อารตีวิ่งเร็วที่สุดในเวลานั้นแม้กระโปรงจะเป็นอุปสรรคในการวิ่งก็ตาม เปมิกาวิ่งตามมาติดๆ ไม่ถึงนาทีสองสาวก็มาหยุดหอบอยู่หน้าห้องพักของอารตีและชยาภรณ์
มือเคาะประตูแบบไม่ยั้ง สีหน้าของคนเคาะกังวลคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ลุ้นให้คนในห้องเปิดออกมา
“ก๊อกๆ ๆ”
“เปิดสิวะภรณ์ เปิดเร็วๆ ตื่นสิภรณ์ ตื่น”
ไม่เพียงเสียงเคาะประตูเท่านั้นเสียงเรียกก็ดังไม่แพ้กัน เปมิกาช่วยอารตีเรียกเพื่อนอีกคน
“ยัยภรณ์ ยัยภรณ์ ตื่นรึยัง เปิดประตูหน่อย ยัยภรณ์”
บานประตูเปิดออก ชยาภรณ์มองหน้าเพื่อนที่มาเคาะประตูราวกับจะพังอย่างนั้น
