ตอนที่ 7 เข้าหอในป่า (TW)
ต่อมาเสี่ยวเหอก็รู้สึกคล้ายปลาที่ถูกจับวางไว้บนพื้นดิน หายใจไม่ถนัด ดิ้นรนไปมา สัมผัสได้แต่อกเปลือยเปล่าแข็งแกร่งของชิงถิง หญิงสาวไร้เดียงสาจึงไม่กล้ายื่นมือไปผลักอีก
นางกลัวว่าจะไปโดนส่วนใดของเขาที่นางไม่สมควรโดน แต่ชายหนุ่มผู้นั้นกลับรุกล้ำไปทุกที่ ทุกส่วนที่เป็นส่วนหวงห้ามของหญิงสาว ทั้งอกชูชัน เอวคอด สะโพกเปลือยเปล่า และสวนดอกไม้ชมพู
ชิงถิงเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเคือง น้อยใจ อยากทำโทษ และอยากครอบครองคนใต้ร่างของเขา ต้องการกักขังนางไว้กับตัว เขาจึงไม่ได้อ่อนโยนมากนัก ทั้งบีบเคล้นอกอิ่ม ขบกัดตามหัวไหล่และลำคอ จูบ ๆ ดูด ๆ จนสร้างรอยช้ำรอยสีชาดเต็มไปหมด
หญิงสาวที่เพิ่งจะเคยรับรู้สัมผัสทางกายระหว่างชายหญิงเป็นครั้งแรก จึงไม่รู้จะรับมือกับเขาเช่นไร เขากอดนาง บีบนาง จูบนาง ดูด และขบกัด เลียจนเสี่ยวเหอหวาดหวั่น วาบหวาม เขาอยากกัดตรงไหนก็กัด อยากนวดคลึงตรงไหนก็ทำ ไม่สนใจร่างบางที่กำลังสั่นกลัว
ระหว่างที่มือและริมฝีปากสำรวจไปทั่วร่างของเสี่ยวเหอ ชิงถิงยังมีแรงมากพอจะด่าและตัดพ้อนางอีก
“เจ้าใจร้ายนัก ข้ารักเจ้ามากเพียงนี้ เจ้ายังจะแต่งให้ผู้อื่นอีก” พูดแล้วก็กัดที่ยอดชมพูอิ่มหนึ่งครั้ง
“โอ๊ย!” เสี่ยวเหอร้องเพราะเจ็บแต่เขากลับดูดกินและโลมเลียยอดชมพูต่อ ไม่ใส่ใจเสียงร้องของนาง
“ชิง...ชิง..ถิง” เสี่ยวเหอพยายามขอร้องให้เขาหยุดแต่เสียงที่ออกมา กลับมีเพียงความแหบพร่าร้องครางชื่อของเขา ราวกับการขอร้องของนางจะเป็นแรงกระตุ้นให้เขาอยากครอบครองนางมากว่าจะทำให้เขาอยากจะหยุด
“ข้ารักเจ้า..อย่าทิ้งข้า ข้ารักเจ้าผู้เดียว..รักมาก” เขายังคงพร่ำเพ้อสิ่งที่เขาไม่เคยพูด
เสี่ยวเหอไม่เข้าใจ เวลาปกติเขาเป็นคนไม่ชอบพูด แต่เวลาเช่นนี้ เหตุใดจึงบ่นมากมายนัก พร่ำพูดแต่คำน่าอับอาย
“ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้อยากว่าเจ้าโง่เขลา เป็นข้าเองที่โง่เขลา รักข้าเถิด” เขาเริ่มออดอ้อนร้องขอความรัก
“ชิง..ชิง ชิงถิง ข้า...ข้า” เสี่ยวเหอในที่สุดก็กล้าใช้สองมือจับหน้าเขาเอาไว้เพื่อพูดบางอย่าง แต่เขาไม่ยอมฟัง
“ข้าไม่ยินยอม เจ้าห้ามทิ้งข้า เจ้าต้องเป็นของข้าคนเดียว” เขาไม่ยอมให้นางพูด
ชายหนุ่มปากพูดพร่ำบอกรัก ด่าทอ ไล้ลิ้นอุ่นไปทั่วคอระหง สองมือก็จับขาเสี่ยวเหอแยกออก เลื่อนไปจูบปิดปากของนางไว้ ดันกายเนื้อท่อนล่างที่แข็งแกร่งรุกล้ำเข้าไปในตัวของหญิงสาวฉับพลันรุนแรง [1]
ถึงแม้เสี่ยวเหอจะเจ็บปวดมาก แต่ทุกคำร้องขอก็ถูกเขากลืนกินจนหมด ได้แต่อดทนรับความเจ็บปวด
เขากระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างรุนแรง ด้วยความกลัวว่าเสี่ยวเหอจะทิ้งเขาไป น้อยใจที่เสี่ยวเหอไม่เลือกตัวเขา อยากลงโทษหญิงสาวที่ทำให้เขารักนางมากเกินไป อยากครอบครองนางให้เป็นของเขาผู้เดียว
ระหว่างที่รุกล้ำช่วงชิงพรหมจรรย์ของเสี่ยวเหอ เขาเห็นว่าน้ำตาของนางคลอเบ้าแทบจะไหลรินออกมา แต่ช่างเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูจนเขาทนไม่ไหว อยากครอบครองนางมากยิ่งขึ้นไปอีก ไฟกำหนัดลุกโหมกระหน่ำจนไร้สติ ความสุขสมวิ่งแผ่ทั่วร่างทุกครั้งที่เขาล่วงล้ำเข้าไปในตัวหญิงสาว
เขาสอดใส่กระแทกกระทั้น จูบ ลูบไล้ไปทั่วเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ชิงถิงแม้จะรุนแรงอย่างไรเขาก็เป็นคนหนุ่มไม่เคยผ่านหญิงใด เคยแต่ฝันถึงเสี่ยวเหอและใช้มือช่วยเหลือตัวเอง ไม่เคยพบกับความรัดแน่นหอมหวานเช่นนี้ จุดสุขสมของอารมณ์จึงแตกออกอย่างรวดเร็ว ปลดปล่อยน้ำรักเข้าช่อดอกไม้ชมพู หอบสั่นกอดเสี่ยวเหอจนแน่น
“เสี่ยวเหอ เสี่ยวเหอของข้า เจ้าเป็นของข้า” เขากระซิบเสียงแหบพร่า จากนั้นเขาจึงใจเย็นลงบ้าง แต่ยังไม่ยอมปล่อยนาง ยังคงคลอเคลีย ไล้ริมฝีปากไปจนทั่วใบหน้าละมุน หากเสี่ยวเหอพยายามจะพูดสิ่งใด ก็จะถูกจุมพิตช่วงชิงจนหายใจไม่ทัน
จูบไปหลายครั้ง เขาก็เริ่มทิ่มแทงนางอีก แต่ครั้งนี้ชิงถิงไม่ได้เร่งรีบ ไม่ได้โมโหเท่าครั้งที่แล้ว เขาจึงอ่อนโยนขึ้นมาก ไม่กัดนาง ไม่กระแทกรุนแรง ทั้งยังพร่ำพูดคำขอโทษ
“ขอโทษ ข้ามันเลวนัก เจ้าเจ็บหรือไม่”
เสี่ยวเหอเจ็บไปทั้งตัว แรงจะพูดออกมายังไม่มี ในใจอยากจะด่าทอต่อว่า แต่ทุกคำพูดเมื่อบ่นออกมาก็เหลือเพียงเสียงหอบหายใจ
‘เจ้าค้างคาอยู่เช่นนี้ ยังจะมีหน้ามาถามว่าเจ็บหรือไม่ ใหญ่มากเช่นนี้ ข้าก็ต้องเจ็บอยู่แล้ว’ นางได้แต่ด่าอยู่ในใจ
“เด็กดี เจ้าเจ็บหรือไม่” เขาถามอีกทั้งที่ยังคงกอดนางไว้และช่วงล่างก็ยังคงขยับสะโพกอยู่ตลอดเวลา
เสี่ยวเหอพยักหน้าบอกว่าตัวเองเจ็บ ชิงถิงจึงจูบซับน้ำตาของนางอย่างอ่อนโยน
“ขอโทษ ข้าขอโทษ ข้าไม่ดีเอง”
แต่ก็ยังไม่ยอมเอามังกรตัวนั้นออกจากดอกไม้ช้ำๆ ของนางสักที! เขาจูบซับน้ำตา ก่อนจะเลื่อนจูบไปที่คางมนของเสี่ยวเหอ เริ่มลิ้มเลียเหงื่อเม็ดเล็กที่ผุดตามคอและหน้าอกของหญิงสาวอย่างหลงใหล
“ข้ารักเจ้า... ข้ามีความสุขมาก”
เขาพร่ำบอกรัก ขยับช่วงล่างถี่ๆ ครั้งนี้เขาไม่ได้รุนแรงมาก เสี่ยวเหอจึงเริ่มจะรู้สึกถึงบางอย่างตรงท้องน้อยบ้างแล้ว นางไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงเริ่มรู้สึกวาบหวามเสียวซ่าน อาจเป็นเพราะคำพูดที่เขาพร่ำเพ้อระหว่างที่กลืนกินนางอย่างมัวเมาบ้าคลั่ง
“ข้ารักเจ้า...อา รักมาก.. รักเจ้าผู้เดียว... รักที่สุด... รักมาก... ข้ารักเจ้า..อา..เสี่ยวเหอของข้า..อะ อา”
เสียงพูดหอบกระเส่าที่ชวนใจเต้น ร่างกายที่ขยับเข้าออก และริมฝีปากที่พรมจูบไปทั่วทั้งใบหน้า ลำคอ ติ่งหู หรืออกชมพู เสี่ยวเหอกลายเป็นปลาที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นดิน หายใจหอบพะงาบ พะงาบ รอคอยความสุขสมที่เขาปรนเปรอ
จากนั้นนางก็รู้สึกว่ามังกรตัวใหญ่ของเขาที่เข้าๆ ออกๆ ตอนนี้ไม่ได้ทำให้นางเจ็บปวดมากเท่าไรแล้ว ทั้งนางยังรู้สึกคล้ายว่าต้องการให้มังกรเข้าออกให้เร็วขึ้นกว่านี้ด้วย!
“รักข้าหรือไม่..เสี่ยวเหอ..อือ อา ข้ารักเจ้าเหลือเกิน..อา อะ” เขายังคงขยับสะโพกและพร่ำบ่นต่อไป
เสี่ยวเหอได้รู้ถึงความแปลกใหม่ ความหอมหวานของการเข้าหอ ทุกครั้งที่เขาขยับสะโพกดึงแท่งหยกเข้าออก ร่างกายของนางจะรู้สึกราวกับใกล้แตกสลาย ความสุขสมสายหนึ่งโจมตีซ้ำๆ ตรงช่อดอกไม้ชมพู กระทั่งนางลืมเลือนทุกสิ่งรอบข้างไปจนหมด
ช่วงจังหวะที่ร่างกายของหญิงสาวถูกแท่งเอ็นร้อนใหญ่ของชิงถิงเบียดเข้าออก และบดขยี้ไปรอบๆ ช่อดอกไม้ เสี่ยวเหอกัดฟันทนรับความเสียวซ่านอีกไม่ไหว จึงตัวสั่นกระตุกบางเบาในอ้อมกอดแกร่งของชายหนุ่ม
หลังจากที่ชิงถิงพานางไปถึงยอดเมฆหมอกอารมณ์ แม้ทั้งสองจะยังไม่ได้ทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน แต่เสี่ยวเหอก็รู้ว่าตัวเองเป็นภรรยาของเขาแล้ว การหนีตามกันก็นับว่าเป็นสามีภรรยา ความคิดนี้ของนางช่างเด็กน้อยนัก
เมื่อช่วงเวลาของการเข้าหอสิ้นสุดลงหลายครั้ง อารมณ์ของชิงถิงก็ดีขึ้นมากๆ แต่เสี่ยวเหอกลับไม่มีแรงแม้แต่จะประคองตัวเอง แม้เขายังรู้สึกว่าอยากได้อีกมากกว่านี้ อยากกลืนกินนางอีกหลายๆ ครั้ง แต่ก็สงสารหญิงสาวที่สั่นเทามากเกินกว่าจะตัดใจได้
ชิงถิงจึงยอมหยุด
[1] ฉากนี้นางเอกถูกข่มขืนนะคะ น้องไม่ได้เต็มใจแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะลึกๆ ก็เฝ้าคิดถึงจูบของพระเอก อยากถูกพระเอกจูบหรือสัมผัสให้มากขึ้น แต่ด้วยศีลธรรมและการสั่งสอนที่ถูกสอนมาตลอดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องไม่ดีเลยไม่รู้จะรับมือยังไง ไหนจะความกลัวพระเอกที่กำลังโกรธจึงยิ่งไม่กล้าปฏิเสธเข้าไปอีก แม้ตัวเองจะทั้งเจ็บและกลัวมาก
ส่วนพระเอกก็ไม่ได้อ่อนโยน เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ น้อยใจ อยากทำโทษ อยากครอบครอง และยังซาดิสม์ชอบความรุนแรงด้วยค่ะ
อยากให้คุณนักอ่านเข้าใจว่าเป็นฉากที่มีความรุนแรง ในความเป็นจริง ถึงพระเอกจะรักนางเอกแค่ไหน หรือกลัวถูกทิ้งยังไง หรือน้อยใจอะไรก็ตาม ก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับน้องนะคะ
