ตอนที่ 6 เอาแต่ใจ
สุดท้ายเสี่ยวเหอจึงมานั่งใกล้ๆ กองไฟ แต่แทนที่ชิงถิงจะได้นอน นางกลับชวนเขาคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ หลังจากไม่ค่อยได้พูดหลายวันเพราะมัวแต่ใจเต้นแรง วันนี้เสี่ยวเหอจึงพูดมากกว่าปกติ เอาความทุกข์ใจของนางมานั่งบ่นให้เขาฟัง เขาทำได้เพียงนั่งฟังนางบ่น
หญิงสาวเล่าว่าที่จริงไม่ได้อยากหนีมา แต่จำเป็นต้องมา นางอยากให้พี่สาวได้แต่งงาน ไม่อยากให้พี่สาวต้องอับอาย ไม่อยากให้พี่สาวถูกนินทาเรื่องอายุมากขึ้นเรื่อยๆ
“ตกลงเจ้าอยากแต่งงานกับเจ้าหมูตอนนั่นหรือ” ตอนนั้นเองที่ชิงถิงพูดขัดเสียงเย็นออกมา
“...” เสี่ยวเหอรู้สึกว่าเขาโกรธมากจึงกลัว ก้มหน้าลงและได้แต่เงียบ
“ที่จริงแล้ว ต่อให้เป็นพี่สาวของเจ้า เจ้าหมูตอนนั่นก็ไม่คู่ควร” เขายังคงพูดด้วยอารมณ์คุกรุ่น
“ไม่ใช่ว่าข้าอยากแต่ง แต่มันจำเป็น ข้ากลัวว่าหากยังไม่แต่ง ปีหน้าก็จะไม่มีคนอยากแต่งกับข้าแล้ว อีกอย่างที่ข้ากังวลคือเมื่อท่านพ่อท่านแม่รู้ว่าข้าหนีมาจะรู้สึกเช่นไร
พวกท่านต้องเสียใจเพียงใดที่ข้าไม่รักดี แต่ข้าก็เป็นห่วงพี่หลันเหมย พี่คงทนรออีกปีสองปีไม่ไหวแล้ว นางจำเป็นต้องได้แต่งงาน ข้าจึงได้แต่ต้องเสียสละ” เสี่ยวเหอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องดุนาง
นี่นางทำอะไรผิดอีกเช่นนั้นหรือ หญิงสาวน้อยใจที่ถูกดุ และน้อยใจที่เขาปกป้องพี่สาวมากกว่า ทั้งที่นางต้องเสียสละครั้งใหญ่ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าหากท่านพ่อรู้เรื่องนางหนีมาจะโกรธโมโหมากเพียงใด
“เจ้าไม่ได้อยากมากับข้าสินะ” เขากลับพูดใส่นางด้วยเสียงที่แข็งกระด้าง
“ไม่ใช่เช่นนั้น เพียงแต่ข้าต้องเสียสละให้พี่สาว”
“เจ้าอ้วนนั่นไม่คู่ควรกับพี่สาวเจ้า นางเป็นคนดี แต่เจ้ากลับโง่เขลานัก คิดว่านางอยากแต่งงานจนตัวสั่น ทั้งที่พี่เจ้าทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเจ้า!!” เขาพูดด้วยความโมโห
ยามนี้เสี่ยวเหอรู้สึกน้อยใจมาก ชิงถิงเข้าข้างพี่สาว ทั้งยังดุด่านางอีก เขาไม่รู้หรือไรว่าพี่หลันเหมยใช้วิธีสกปรกเพื่อแย่งงานแต่งครั้งนี้ไป ทั้งยังทำให้นางต้องหนีออกมาจากบ้าน ไม่ได้พบท่านพ่อท่านแม่และน้องๆ อีกตลอดไป
ไหนจะถูกคนทั้งหมู่บ้านตราหน้าว่าหนีตามผู้ชาย นางต้องเสียสละมากเพียงใดเขาไม่รู้เลยจริงหรือ ที่นางยอมมากเช่นนี้ เป็นเพราะยังหวังให้พี่สาวมีชีวิตที่ดี แต่เขากลับว่านางโง่เขลา ยิ่งคิดเสี่ยวเหอก็ยิ่งน้อยใจ
ต่างคนต่างโกรธ หึงหวงโดยไม่รู้ตัว ด้วยความเหนื่อยล้า ความกดดัน เสี่ยวเหอเองก็ขาดสติ คิดว่าที่จริงแล้วชิงถิงคงอยากหนีมากับพี่สาวมากกว่า ดูจากการปกป้องพี่สาวมากขนาดนั้น
ตั้งแต่เล็กนางไม่เคยเห็นเขาปกป้องสตรีคนไหนขนาดนี้มาก่อนเลย คนที่บอกว่าต้าจื่อรักนาง ก็เป็นพี่สาวที่เป็นคนพูด ไม่ใช่ตัวเขา ชิงถิงตั้งแต่แรกจนวันนี้ เขายังไม่เคยพูดว่ารักนางสักครั้ง
เมื่อก่อนเวลามีของอะไรก็ไม่ได้เอาให้นางคนเดียว มักจะมีให้พี่สาวด้วยเสมอ บางทีสองคนนั้นอาจแอบคบกันมานานแล้ว มิน่าท่านแม่หาคู่ให้เท่าไร พี่สาวก็ไม่เคยยอมแต่งงานด้วย
บางทีพี่สาวคงอยากแต่งงานกับคนรวยๆ มากกว่า เพราะชิงถิงยากจน พี่หลันเหมยรู้ตัวว่าเขารักนาง จึงได้บีบให้ชิงถิงพาน้องสาวหน้าโง่หนีมามากกว่า เสี่ยวเหอคิดมากจนไม่มีสติ
“ที่จริงแต่งกับคนแก่อ้วนหัวล้านก็ไม่เห็นจะเป็นไร ขอเพียงเขาต้องการข้า รักข้าเพียงคนเดียว ไม่เคยด่าข้าว่าโง่เขลา ตั้งแต่แรกชายผู้นั้นก็เจาะจงจะแต่งกับข้า เพียงแต่ข้ารักพี่หลันเหมยมาก รู้สึกเห็นใจนางถึงได้เสียสละให้นาง
เห็นๆ อยู่ว่าพี่ข้าใช้กลอุบายเพื่อให้ตัวเองได้แต่งงาน ข้าแค่เพียงทำตามที่นางต้องการ แต่เจ้ากลับบอกว่าข้าโง่เขลา เจ้าเห็นว่านางเป็นคนดี เช่นนั้นเหตุใดไม่พานางหนี ปล่อยให้ข้าได้แต่งงานอย่างถูกต้องเล่า!” เสี่ยวเหอตะโกนกลับอย่างเสียใจที่สุด
ชิงถิงทำหน้าเหมือนภูเขาไท่ซานถล่มใส่หัวของเขา เขาโกรธจัด ทนไม่ไหวที่รับรู้ความจริงว่านางไม่ได้หนีมาด้วยกันเพราะรักตัวเขา ดังเช่นที่เขารักนางมากจนเจ็บหัวใจไปหมด รักจนทนไม่ไหวกับเรื่องที่นางพูด
เพียงเขาคิดว่าเสี่ยวเหอต้องแต่งงานกับคนอื่นเขาก็แทบคลั่ง
“เจ้าอยากแต่งกับมัน แต่ข้าไม่ให้ ต่อให้ต้องลงนรก ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้า!!” ชิงถิงขบฟันตอบกลับเสียงเย็น
เขาดึงนางมาจนใกล้ จับไหล่บังคับให้หันหน้ามามองตา พร้อมกับพูดดังๆ ใส่หน้าเสี่ยวเหอ
“ข้าก็รักเจ้า ต้องการเจ้าเพียงผู้เดียว เหตุใดหนีมากับข้า จึงเป็นเรื่องของการเสียสละ!! แต่แต่งกับเจ้าหมูนั่นกลับเป็นความถูกต้อง!!”
เสี่ยวเหอจากที่น้อยใจจนจะร้องไห้ก็เริ่มสับสน ตกลงเขารักใครกันแน่ เขาอยากหนีมากับใครกันแน่ นางได้แต่เงียบไม่ตอบอะไร เพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร และตกใจมากที่เขาดึงตัวเองไปจนใกล้ รู้สึกกระทั่งลมหายใจของกันและกัน ในหัวจึงว่างเปล่าหาคำตอบมาตอบสิ่งที่เขาถามไม่ทัน ไหนจะคำบอกรักที่เขาเพิ่งจะตะโกนใส่หน้านางอีก
ชิงถิงยิ่งโมโหที่หญิงสาวเอาแต่เงียบ รู้สึกคล้ายหัวใจกำลังจะแตกสลาย เขาดึงนางมากอดแรงๆ เพื่อให้แน่ใจว่านางจะหนีไม่ได้ จูบแรงๆ เพื่อทำโทษ เสี่ยวเหอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ผลักอกเขาอย่างทุลักทุเล
ชิงถิงจุมพิตไม่ยอมปล่อย ดูดดื่มริมฝีปากบางก่อนจะผลักหญิงสาวล้มลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยใบไม้ปกคลุม
“ข้าไม่ยอม เหตุใดเจ้ายอมแต่งกับมัน แต่ไม่ใช่ข้า เป็นข้าไม่ได้หรือ??” เขาถอนริมฝีปากออกมาและพูดประโยคหนึ่ง ตัดพ้อด้วยความเจ็บปวด เสียงสั่นราวกับเขาใกล้จะร้องไห้
“ไม่...ไม่...” เสี่ยวเหอทั้งตกใจทั้งรู้สึกว่าหายใจไม่ทัน อยากจะหายใจเข้าออกมากกว่านี้และตอบเขาว่าไม่ใช่ นางเพียงเข้าใจผิด เขาก็เข้าใจนางผิดไปทางอื่นเสียแล้ว
ชิงถิงจูบลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้จูบของเขาทั้งดุเดือดและรุนแรง มือหนึ่งบีบคางบังคับให้นางอ้าปาก แทบจะดูดกลืนลิ้นกับลมหายใจของนาง เสี่ยวเหอได้แต่พยายามผลักเขาออก
ชายหนุ่มที่โกรธจัด เต็มไปด้วยความน้อยใจ เขาไม่ยอมปล่อยเสี่ยวเหอ สองมือก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของนางและดึงทึ้งเสื้อของเขาเองทิ้ง!
ตัวของเสี่ยวเหอ เพียงจูบยังไม่รู้จะรับมืออย่างไร นับประสาอะไรกับมือปลาหมึกของเขาที่ยุ่มย่ามไปทั่วด้วยอารมณ์ดุเดือด ไม่รู้ว่าเขาโกรธเคืองเรื่องใดกันแน่ นางพยายามพูดให้เสียงดังก็ถูกเขาจูบปิดปาก สูบลมหายใจจนใกล้หมด เหลือไว้เพียงน้อยนิดให้นางยังไม่ขาดใจตาย
