การเดินทางข้ามเวลาของเสี่ยวเหอ

83.0K · จบแล้ว
有缘千里 โหย่วหยวนเชียนหลี่
49
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เสี่ยวเหอเห็นคนรักตายต่อหน้าต่อตา นางแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่นางโชคดีที่มีโอกาสข้ามเวลา หรือข้ามภพ นางเองก็ไม่แน่ใจ ทำให้นางได้มาพบคนที่นางรักอีกครั้ง แต่...เหตุใดผู้อื่นเขาข้ามเวลาย้อนภพกันคนละครั้งสองครั้ง แต่พอเป็นนางกลับต้องข้ามเวลากันทุกครั้งที่นางนอนหลับ ทุกเช้านางจะต้องมานั่งลุ้นว่าตัวเองจะอายุเท่าไร เดินทางไปที่ใด ภพนี้ที่นางอยู่ ยังเป็นภพชาติเดิมหรือไม่ ชิงชิงของนางนั้น ตอนเด็กๆ ยังน่ารักน่าชัง เหตุใดพอโตแล้วถึงได้ขี้โมโหอารมณ์ร้อน เป็นเพราะนางต้องข้ามเวลาทุกวันจึงทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายเข้าใจผิดกันมากมาย บางวันก็เดินทางไปในช่วงที่ชิงชิงอายุสองสามขวบ น่ารักน่าหยิก แต่บางวันเดินทางไปตอนที่เขาอายุสี่สิบกว่า แก่คราวลุง เสี่ยวเหอยังเข้าใจผิดว่าชิงชิงของนางเป็นท่านตา! ยังมีอยู่วันหนึ่งที่นางข้ามเวลาไปตอนเขาอายุสิบเก้าปี เขาทั้งโมโหทั้งโกรธเคืองนาง จับนางกลืนกินทั้งๆ ที่นางไม่ยินยอม เหตุใดชิงชิงของนางจากเด็กน้อยน่ารัก ทักเมื่อใดก็หน้าแดง วันนี้จึงกลายเป็นเจ้าคนบ้าคลั่งราวกับหมาบ้าเช่นนี้ไปได้เล่า เสี่ยวเหอไม่เข้าใจจริงๆ บางส่วนจากในเนื้อเรื่อง “ข้า..อื้อ..ข้าไม่ได้ทำเช่นนั้นกับคุณชายตระกูลหยวน..เจ้า..เจ้าใจเย็นก่อน ได้หรือไม่” เสี่ยวเหอกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดจึงพยายามอธิบาย แต่การพูดถึงผู้ชายคนอื่นในเวลาเช่นนี้ สำหรับชิงถิงก็ไม่ต่างจากการเทน้ำมันบนกองไฟ เขาโมโหมาก “แล้วเจ้าไปกับมันทำไม ข้าชวนเจ้า เจ้ากลับบอกว่ามันไม่งาม แต่ไปเที่ยวกับเจ้านั่นได้ เช่นนี้หรือที่บอกว่าตัวเองไม่ได้ทำ” พูดมาถึงตรงนี้ ชิงถิงคล้ายจะนึกถึงความเป็นไปได้บางสิ่ง ทั้งรู้สึกหวาดกลัวและโมโหท่วมท้น เขาถามเสียงดุอย่างไม่พอใจที่สุด “คืนนั้น เจ้าได้ ทำ กับมันหรือไม่!!” เสี่ยวเหอไม่เข้าใจคำที่เขาเน้นถาม เขาหมายถึงสิ่งใดกัน ฟังดูจากการที่เขาพยายามเน้นคำนั้น คงจะเป็นเรื่องที่หญิงกับชายทำกันสองคน ตอนอยู่สองต่อสอง แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องใด ถ้าหากเป็นจุมพิต คล้ายว่านางจะจูบกับเขาตอนที่ยังไม่แต่งงานเพียงสองครั้งไม่ใช่หรือ แล้วชิงถิงหมายถึงสิ่งใดที่นางให้เขา ทำ มาแล้วหนึ่งครั้ง หญิงสาวได้แต่พยายามทบทวนว่าตัวเองทำสิ่งใดไปบ้าง ชิงถิงเห็นว่าเสี่ยวเหอเอาแต่นิ่งเงียบ จึงคิดว่านางคงให้คุณชายตระกูลหยวน ทำ ไปแล้วจริงๆ ครานี้ความโมโหจนแทบระเบิดกลายเป็นเยียบเย็น เขาหน้าแดงตัวสั่นเทา ชิงถิงก้มลงไปกัดไหล่เสี่ยวเหออย่างแรงเพื่อทำโทษ “โอ๊ย..ชิงชิง เจ็บ” หญิงสาวรู้สึกว่าเนื้อตรงไหล่ที่ถูกเขากัดคล้ายถูกฉีกเป็นชิ้น

นิยายจีนโบราณทหารนิยายย้อนยุคข้ามมิติเกิดใหม่หนีแต่งงานจีนโบราณรักหวานๆ25+18+

ตอนที่ 1 สู่ขอเสี่ยวเหอ

(ช่วงแรกๆ เสี่ยวเหอ นางเอกของเรื่องจะเป็นผู้หญิงน่ารำคาญมากค่ะ คุณนักอ่านช่วยเข้าใจด้วยว่าน้องไม่รู้ และคนไม่รู้ก็มักจะดูโง่เง่าน่ารำคาญ ทำอะไรก็ดูขัดข้องไร้หนทางไปหมด แต่ช่วยอย่าเพิ่งรีบเทกันนะคะ)

เสี่ยวเหอและชิงถิงเป็นเพื่อนบ้านกัน บ้านของพวกเขาอยู่ใกล้กัน อายุเท่ากัน เกิดปีเดียวกัน ชิงถิงเกิดกลางปี เสี่ยวเหอเกิดท้ายปี รู้จักกันตั้งแต่เด็ก สองบ้านแม้จะต่างฐานะ แต่ก็สนิทสนมกันมาก

บ้านของชิงถิงยากจนมาก ไม่ค่อยได้กินเนื้อและขนมหวาน ในขณะที่บ้านของเสี่ยวเหอจะได้กินบ่อยๆ ตอนเด็กเสี่ยวเหอจึงชอบเอาขนมและเนื้อย่างไปแบ่งให้เขากิน ทำให้เด็กน้อยชิงถิงรู้สึกชอบเสี่ยวเหอมาตั้งแต่เล็ก เขาชอบเด็กหญิงมานานมาก ชอบมากๆ จนพัฒนาเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว

ปีนั้นชิงถิงอายุได้สิบห้า น้องสาวคนกลางก็แต่งงาน น้องของเขาอายุเพียงสิบสี่เท่านั้น เพิ่งเลยวัยปักปิ่นไม่ถึงปี ยามนั้นชิงถิงยังเป็นเพียงเด็กหนุ่ม ถึงจะเข้าป่าล่าสัตว์ได้ทุกวันแต่ก็ยังยากจน ไม่มีสินเดิมมอบให้น้องสาวในวันแต่งงาน

ต่อมาไม่นาน ชิงถิงได้รู้ว่าเพราะความยากจน ฝั่งสามีจึงดูถูกน้องสาวเสมอ น้องสาวของเขามักจะแอบกลับมาร้องไห้ที่บ้านบ่อยๆ เมื่อชิงถิงอายุครบสิบเจ็ดปี เขาตัดสินใจรีบเข้ากองทัพตามท่านปู่ เพื่อจะได้มีเงินเก็บไว้เป็นสินเดิมให้น้องสาวอีกสองคนที่กำลังจะแต่งงาน

เด็กหนุ่มตั้งใจว่าจะรอจนน้องๆ แต่งงานออกไปก่อน ทำงานเก็บเงินอีกสักหนึ่งปี รอถึงอายุสิบเก้าหรือยี่สิบปี มีตำแหน่งเล็กๆ ในกองทัพ แล้วเขาค่อยไปสู่ขอเสี่ยวเหอ ตอนนี้แม้ตัวเขาจะชอบเสี่ยวเหอมาก แต่ก็ไม่กล้ามาสู่ขอนาง เนื่องจากบ้านของเขาฐานะยากจนมาก เมื่อเทียบกับบ้านของหญิงสาว

ทางด้านของเสี่ยวเหอ นางเป็นสตรีหน้าตางดงาม แต่ไม่มีผู้ใดกล้ามาสู่ขอเพราะข่าวลือเรื่องมารดาแท้ๆ เสียชีวิตหลังคลอดนางไม่กี่ชั่วยาม หากบ้านใดแต่งเสี่ยวเหอหรือพี่สาวเข้าบ้าน บ้านนั้นจะต้องมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น

เพราะข่าวลือนั้น แม้จะมีบุรุษในหมู่บ้านหลายคนชื่นชอบเสี่ยวเหอ แต่ชิงถิงยังคงมั่นใจว่าจะไม่มีใครมาขอเสี่ยวเหอแต่งงานก่อนเขาจะเตรียมตัวพร้อม เขาจึงวางใจเรื่องนี้มาก

ตัวเสี่ยวเหอเองไม่เคยรู้เลยว่าชิงถิงชื่นชอบในตัวนาง ถึงแม้จะสนิทสนมกันมาก แต่เสี่ยวเหอกลับคิดว่าทั้งคู่เป็นเพียงเพื่อนบ้านกัน และชิงถิงก็เป็นคนดีมาก

นางจะสัมผัสได้ถึงสายตาของชิงถิงที่มองมาอย่างแรงกล้าตลอดเวลา เด็กสาวก็คิดเพียงว่าเพราะเขาเป็นคนมีสายตาเช่นนั้นอยู่แล้ว แม้ว่าลึกๆ ในใจของนางก็รู้สึกว่าเด็กหนุ่มข้างบ้านพิเศษกว่าคนอื่น เพียงแต่นางไม่รู้ตัว เนื่องจากความสนิทสนมกันเกินไป

เช้าวันนั้น เป็นวันเกิดปีที่สิบเก้าของเสี่ยวเหอพอดี จู่ๆ แม่เลี้ยงก็เรียกนางไปพบ

“วันนี้มีคนมาสู่ขอเจ้าแล้ว เขาเป็นพ่อค้าวาณิช ไม่ได้ค้าขายอะไรเป็นสำคัญ เน้นเดินทางแลกเปลี่ยนสินค้าจากแคว้นหนึ่งไปทำกำไรอีกแคว้นหนึ่ง สินค้าใดทำเงินได้ก็เอามาหากำไรทั้งสิ้น จึงมีเงินทองมากมาย

เขาอายุเกือบสามสิบห้าปีแล้ว มีลูกชายสามคน เคยแต่งงานแล้ว แต่ภรรยาตายไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ถึงจะอายุมากไปสำหรับเจ้า แต่มีสง่าราศีและฐานะมั่นคง พ่อของเจ้าและข้าจึงเห็นว่าสมควรให้เจ้าแต่งกับเขา

เจ้าควรเตรียมตัวให้ดี ข้ากับพ่อของเจ้าได้รับสินสอดมาแล้วและให้แม่สื่อตรวจสอบดวงชะตาแล้วเช่นกัน ถือว่าเป็นคู่ครองที่ดี” แม่เลี้ยงเอ่ยถึงเรื่องสำคัญทันที ไม่เสียเวลาพูดมาก

“..เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” หญิงสาวตกใจเหมือนถูกฟ้าผ่า แต่ยังคงตอบรับ

ถึงแม้เสี่ยวเหอจะรู้สึกไม่ยินดี ในใจไม่อยากแต่งกับคนรุ่นลุง แต่เมื่อบุพการีเห็นดีด้วยแล้ว อย่างไรก็ต้องแต่ง อีกฝ่ายส่งแม่สื่อมาแล้ว ไหนจะอายุของนางที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และตัวนางเองก็เลือกที่จะทำตามที่ท่านพ่อท่านแม่สั่ง รักษาสามคุณธรรมสี่คล้อยตามอย่างเคร่งครัด

เพียงแต่มีสิ่งหนึ่งที่เสี่ยวเหอเป็นห่วงที่สุด..

“แล้ว..พี่หลันเหมยเล่าเจ้าคะ” เสี่ยวเหอถาม

เหตุใดจึงเป็นนางที่ได้เป็นผู้แต่งงานก่อน ในเมื่อพี่สาวก็ยังไม่ได้แต่ง และนางก็อายุมากกว่า หากเสี่ยวเหอแต่งงานแล้วพี่สาวจะเป็นเช่นไร ทุกวันนี้คนในหมู่บ้านไม่ว่าผู้ใดก็มองสองพี่น้องแปลกๆ ทำให้เสี่ยวเหอรู้สึกไม่สบายใจ หญิงสาวเป็นห่วงความรู้สึกของพี่หลันเหมย

“ผู้ใหญ่ตัดสินใจแล้ว เจ้าอย่าถามมากความเลย” แม่เลี้ยงเลี่ยงตอบ

“อีกไม่ถึงเดือนก็จะเป็นเทศกาลซีซี ฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าวอยากจะพบเจ้าสักครั้ง ข้าเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะ เจ้าเตรียมตัวเพื่อไปเดินเล่นกับว่าที่เจ้าบ่าวในเทศกาลซีซีเสียก่อน จากนั้นค่อยจัดงานแต่ง ดีหรือไม่” นางถามบุตรี

“...เจ้าค่ะ” เสี่ยวเหอได้แต่ตอบตกลง ไม่อาจปฏิเสธได้

เย็นวันนั้น ตอนกินข้าวเย็นด้วยกัน ท่านพ่อก็บอกให้ทุกคนรู้เรื่องงานแต่งครั้งนี้ เสี่ยวเหอรู้สึกว่าพี่สาวหน้าตาบูดบึ้ง ไม่ยอมมองหน้าใคร หลายวันจากนั้นก็ไม่ยอมพูดคุยกับน้องๆ พยายามหลบหน้าเสี่ยวเหอ

เสี่ยวเหอรู้ดีถึงความกังวลของพี่หลันเหมย แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพี่สาวจึงเอาความโกรธมาลงที่นางได้ เพราะเรื่องนี้นางไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจ ท่านพ่อท่านแม่ต่างหากที่เป็นผู้ตัดสินใจ

ตั้งแต่โตขึ้นเสี่ยวเหอก็ไม่ได้สนิทกับพี่สาวเท่าเมื่อก่อน แต่นางยังคงเป็นห่วงพี่สาวเสมอ การที่ต้องผิดใจกับพี่สาวเพราะเรื่องแต่งงานทำให้เสี่ยวเหอไม่สบายใจมาก

คืนนี้นางจึงทำใจกล้าเข้าไปคุยกับพี่สาว

“พี่หลันเหมย ข้าเข้าไปได้หรือไม่?” หญิงสาวยืนเรียกอยู่นอกประตูห้องของพี่สาว

“เข้ามาสิ” หลันเหมยตอบ

เสี่ยวเหอเข้าไปนั่งในห้องที่ปลายเตียงของพี่สาว อึกอักอยู่นานกว่าจะรวบรวมความกล้าพูดขึ้น

“ข้าไม่ได้อยากแต่งงาน หากว่าพี่หลันเหมยอยากแต่ง เดี๋ยวข้าจะไปบอกท่านแม่ให้ หากยังไม่ได้..ข้า..ข้าก็จะไปขอร้องท่านพ่ออีกคน” เสี่ยวเหอกลัวท่านพ่อมาก เพราะท่านพ่อมักจะดุด่านางเสมอ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ

“...” ไม่มีเสียงตอบจากพี่สาว เสี่ยวเหอจึงหันไปมอง แสงตะเกียงในห้องส่องสว่างให้เห็นว่าพี่หลันเหมยทำหน้าตาโกรธเคืองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางโกรธจนตัวสั่น

“เจ้า! เจ้าโง่ไปแล้วหรือ เจ้าทำไม..เหตุใดจึงโง่เช่นนี้!” นางตวาดใส่น้องสาว

“ออกไปจากห้องของข้าเดี๋ยวนี้!!” พี่หลันเหมยไล่เสี่ยวเหอ ไม่สนใจความรู้สึกของน้องสาว สองมือกำหมัดจนแน่น ริมฝีปากสั่นระริกด้วยโทสะ

เสี่ยวเหอตกใจมาก ได้แต่ร้องไห้วิ่งหนีไปนอนกับน้องสาวต่างแม่ ไม่กล้านอนคนเดียว ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่สาวจะพูดจารุนแรงเช่นนี้ แม้น้องสาวจะถามแล้วถามอีก แต่เสี่ยวเหอก็เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมปริปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น

วันรุ่งขึ้นจึงได้รู้ว่าพี่สาวหนีออกจากบ้าน!