บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 แย่งชิงสามี

เสี่ยวเหอทั้งตกตะลึง ทั้งตกใจ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดพี่สาวจึงกลายเป็นคนใจร้ายเช่นนี้

“พี่หลันเหมย พี่กลายเป็นคนเช่นนี้ได้อย่างไร เมื่อก่อนพี่ใจดีมาก เมื่อก่อน...”

“เมื่อก่อน เมื่อก่อน ...เจ้าเคยเข้าใจสิ่งใดบ้างหรือไม่ เจ้ามันโง่งมนัก” หลันเหมยตะโกนใส่เสี่ยวเหอ นางโกรธจัดจนน้ำตาแทบจะไหล สองมือสั่นไปหมด ไม่รู้จะด่าน้องสาวไร้เดียงสาของตนอย่างไร

เสี่ยวเหอเองถึงจะตกใจกลัวเช่นกัน แต่ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้พี่สาวเป็นฝ่ายทำไม่ถูกต้อง ขวดยาพวกนั้นราคาแพงมาก

..แล้วทั้งสองพี่น้องก็ทะเลาะกันหนักมาก จนพวกน้องสาวและบ่าวชายต้องรีบมาช่วยกันห้าม

ตกเย็นท่านพ่อโกรธมาก สั่งขังพี่สาวไว้ในห้องเก็บฟืนสามวันสามคืน แม้เสี่ยวเหอจะเป็นห่วงพี่หลันเหมยมาก ไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านพ่อถึงได้ลงโทษรุนแรงเช่นนี้ แต่ก็ไม่กล้าพูดขอกับท่านพ่อที่กำลังโกรธจัด นางจึงได้แต่เสียใจที่ทะเลาะกับพี่สาวไป

ถึงแม้แม่เลี้ยงจะพยายามปิดบังว่าพี่น้องสองคนทะเลาะกัน แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดชาวบ้านข้างนอกถึงเริ่มนินทาเรื่องที่สองสาวทะเลาะกันแย่งสามี ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน

ท่านพ่อท่านแม่กลัวว่าฝ่ายพ่อค้าวาณิชจะยกเลิกแต่งงานครั้งนี้ จึงพยายามเร่งให้งานแต่งเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด พิธีอะไรก็ไม่ต้องมากมาย เพียงแค่กราบไหว้ฟ้าดินก็ใช้ได้

ช่วงเวลาที่หลันเหมยถูกขังอยู่ เสี่ยวเหอเป็นคนที่เอาอาหารไปให้พี่สาวบ่อยๆ ทั้งยังแอบเอาตำราที่พี่สาวชอบอ่านไปให้ด้วย เมื่อครบสามวันสามคืน หลันเหมยจึงแอบมาขอโทษเสี่ยวเหอในห้องของน้องสาว

“ข้าขอโทษที่เป็นคนขี้ขลาด ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ ทั้งยังทำให้ท่านพ่อโกรธเจ้าอีก” พี่สาวพูดด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ

“ไม่เป็นไร อีกอย่าง..พี่เป็นคนโดนทำโทษด้วย” แม้เสี่ยวเหอจะไม่แน่ใจว่าพี่สาวหมายถึงสิ่งใด เพราะคำพูดของนางแปลกประหลาดมาก แต่รู้สึกว่าพี่สาวรู้สึกผิดมากจริงๆ จึงไม่ใส่ใจอีก

“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ ข้าไม่โทษพี่ ข้าเองก็ต้องขอโทษพี่ด้วยเช่นกัน ข้าไม่ควรทะเลาะกับพี่เช่นนั้น”

“เจ้าไม่เข้าใจ..หรือที่จริงแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าไม่เข้าใจจะดีต่อเจ้ามากกว่า” หลันเหมยคล้ายจะพูดกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับน้องสาว

เสี่ยวเหอเห็นว่าหน้าตาของพี่สาวเคร่งเครียดมาก

“ที่จริงข้ารู้ว่าต้าจื่อรักเจ้ามาก รักมานานแล้ว” พี่สาวพูด

“พี่..พี่พูดอะไร” เสี่ยวเหอทำตาโต ไม่แน่ใจว่าพี่สาวรู้ได้เช่นไร แล้วรู้เรื่องที่นางกับเขาจูบกันไปแล้วด้วยหรือไม่

เสี่ยวเหออึกอักไม่รู้จะพูดตอบอย่างไร เวลานึกถึงจูบนั้นก็ยังใจเต้นตึกตัก หน้าแดงจนทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ยังรู้สึกผิดต่อท่านพ่อท่านแม่และคู่หมั้นของตัวเองไปพร้อมๆ กันด้วย

“ข้าอยากให้เจ้าหนีไปกับต้าจื่อ เดี๋ยวข้าจะปลอมตัวเป็นเจ้าสาวให้เอง เจ้าคิดให้ดีๆ รีบตัดสินใจก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้” พี่สาวพูดด้วยใบหน้าที่ตัดสินใจแล้วอย่างเด็ดเดี่ยว

เสี่ยวเหอพูดไม่ออก นิ่งไปสักพัก

ถึงเสี่ยวเหอจะรู้สึกทั้งแปลกใจ และตกใจกับวิธีการที่พี่สาวพูด ถึงจะรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ หากถูกพบเข้าท่านพ่อต้องโกรธมากแน่ เป็นการอกตัญญูต่อบุพการีเป็นอย่างมาก แต่อีกใจก็เอาแต่นึกถึงจูบของชิงถิง

ด้วยความสับสน หาใครปรึกษาไม่ได้ คืนนั้นหลังจากที่บอกกับพี่สาวว่าขอคิดดูก่อน และหลันเหมยก็ยอมให้เสี่ยวเหอได้มีเวลาคิด แต่ก็ยังย้ำว่าให้รีบตัดสินใจ เพราะท่านพ่อท่านแม่เร่งให้งานแต่งเกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดเดิมแล้ว

เสี่ยวเหอไม่มีใครให้ปรึกษาเรื่องกลุ้มใจนี้ จึงแอบไปปรึกษากับจื่อรั่วในห้องของสาวใช้ เพราะอย่างน้อยจื่อรั่วก็เป็นคนที่ไปในอำเภอด้วยกัน คอยช่วยเสี่ยวเหอหลายๆ อย่างในพักหลังนี้

“ข้าว่าเรื่องนี้มีพิรุธมาก บางทีคุณหนูใหญ่อาจจะอยากแต่งงานเป็นเจ้าสาวเสียเองเจ้าค่ะ”

ถึงแม้เสี่ยวเหอจะไม่อยากเชื่อในคราแรก แต่เมื่อฟังจื่อรั่ววิเคราะห์และเล่าความแปลกประหลาดของพี่หลันเหมยในพักหลังนี้ก็คล้ายจะเป็นไปได้ ไม่มีเหตุผลอื่นเลยที่พี่สาวจะต้องโกรธเสี่ยวเหอมากเช่นนั้น นอกจากอยากจะแต่งงานเสียเอง

“คุณหนูใหญ่ปีนี้ก็อายุไม่น้อยแล้ว ปีหน้าก็จะกลายเป็นสาวใหญ่ให้ผู้คนพูดถึง หากยังไม่แต่งตอนนี้ ต่อไปผู้คนต้องเอาไปนินทา มันไม่ใช่เรื่องน่าอับอายหรือเจ้าคะ ท่านลองคิดดู คนเราถึงจะเคยเป็นคนดีเพียงใด แต่เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง บางครั้ง คนดีๆ ก็ยอมทำเรื่องโง่ๆ เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา แม้จะดูไร้ศีลธรรมไปบ้าง แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้เจ้าค่ะ” จื่อรั่วพูด

“ข้าไม่ใช่ว่าอยากใส่ร้ายคุณหนูใหญ่ แต่เรื่องนี้คุณหนูรองต้องคิดให้ดีๆ มันจะเป็นทางอื่นไปไม่ได้เจ้าค่ะ”

เสี่ยวเหอเอากลับมาคิดและเริ่มคล้อยตาม นางเห็นว่าถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง คิดไปคิดมาตัวเองก็ยินดีให้พี่สาวได้แต่งงาน อย่างน้อยเมื่อท่านพ่อท่านแม่รู้ก็คงโกรธและเสียใจมาก อย่างมากนางก็ถูกตัดออกจากสาแหรกตระกูล แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ยังดีกว่าให้พี่หลันเหมยต้องอับอาย

สุดท้าย เสี่ยวเหอก็ตอบตกลงกับพี่สาวว่า จะไปพบชิงถิงตามที่พี่สาวเสนอ และจะหนีไปด้วยกันในคืนวันแต่งงาน เสี่ยวเหอคิดว่าจะได้เห็นพี่หลันเหมยดีใจ แต่กลับเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มใจ และรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าพยายามฝืนปั้นอย่างเต็มที่ เสี่ยวเหอเริ่มไม่แน่ใจว่าพี่สาวรู้สึกเช่นไรกันแน่ ตกลงนางดีใจหรือเสียใจที่จะได้แต่งงาน

แต่คิดอีกที พี่สาวเป็นคนดีมาก นางอาจกำลังรู้สึกผิดกับตัวเองที่ใช้วิธีสกปรกเช่นนี้แย่งชิงว่าที่สามีของน้องสาวมา เสี่ยวเหอสรุปเอาเองและรู้สึกดีใจที่พี่สาวไม่ได้เป็นคนที่เลวร้ายเช่นที่จื่อรั่วคาดเดา อย่างน้อยพี่หลันเหมยก็ยังมีความรู้สึกเสียใจต่อน้องสาว

ก่อนวันแต่งงานหลันเหมยได้ไปที่วัดบนเขา ขอด้ายแดงผูกรักทุกชาติภพมาให้เสี่ยวเหอ ขอให้นางโชคดี ได้อยู่กับต้าจื่อตลอดไปทุกชาติภพ พี่สาวอวยพรเสียงสั่นน้ำตาคลอเบ้า

คืนวันแต่งงาน หลันเหมยใส่ชุดเจ้าสาวรอเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินอยู่ในห้องของเสี่ยวเหอ ส่วนเสี่ยวเหอหนีออกทางหลังบ้านตั้งแต่อาหารมื้อเย็นเพิ่งผ่านไป นางใส่ชุดของพี่สาวออกไปคนเดียว

เสี่ยวเหอแอบออกไปพบกับเสี่ยวเอ้อร้านน้ำชาที่ทางเข้าหมู่บ้าน เพราะหลันเหมยได้จ่ายเงินให้เสี่ยวเอ้อช่วยพาเสี่ยวเหอไปพบชิงถิงที่นอกหมู่บ้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel