บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 เทศกาลซีซีกับหมูตอน

วันรุ่งขึ้นจึงได้รู้ว่าพี่สาวหนีออกจากบ้าน!

ทุกคนเป็นห่วงกันมาก ท่านพ่อสั่งให้บ่าวในบ้านช่วยกันตามหาทั้งวันก็ยังไม่พบ เหล่าน้องชายน้องสาวต่างช่วยกันออกไปตามหาในที่ที่พี่หลันเหมยมักจะไป แต่ก็ไม่มีใครพบเช่นกัน

หลันเหมยหายไปทั้งวันทั้งคืน วันต่อมาท่านพ่อแทบจะต้องแบกหน้าไปขอให้ลุงเซียงโถวผู้นำหมู่บ้านให้ช่วยส่งคนออกไปตามหา แต่สุดท้ายหลังจากเลยยามเฉิน [1] พี่หลันเหมยก็กลับถึงบ้าน นางไม่ยอมพูดอะไร ถูกท่านพ่อทั้งดุทั้งตี แต่กลับไม่ร้องสักคำ ยังคงปิดปากเงียบ

คืนนั้นเสี่ยวเหอแอบไปขอร้องท่านพ่อท่านแม่ให้พี่สาวได้เป็นคนแต่งงาน แต่ท่านทั้งสองต่างทำหน้าตาลำบากใจ ก่อนบอกว่าฝ่ายเจ้าบ่าวเจาะจงเลือกมาว่าต้องเป็นเสี่ยวเหอ

เสี่ยวเหอได้แต่ร้องไห้จนนอนไม่หลับทั้งคืน

สามวันต่อมาเสี่ยวเหอยังไม่ทันทำใจเรื่องพี่สาว ก็ต้องถูกจับแต่งตัวตั้งแต่เช้า ได้ใส่เสื้อผ้าที่งดงามที่สุดในชีวิต และนั่งรถเทียมวัวเข้าไปในตัวอำเภอพร้อมสาวใช้ชื่อ จื่อรั่ว กับแม่สื่อ เพื่อไปเดินเล่นในเทศกาลซีซีกับว่าที่เจ้าบ่าว

ระหว่างทาง เสี่ยวเหอได้ยินเสียงม้าวิ่ง จึงชะโงกหน้าออกไปดู เห็นชิงถิงในชุดทหารกำลังควบม้าวิ่งสวนทางมา นางดีใจยิ่งนักที่ได้พบเขาระหว่างทาง หลังจากที่ไม่ได้พบชิงถิงมาสักพักแล้ว นางพบเขาครั้งล่าสุดคือเมื่อปลายเดือนที่แล้วยามเขาได้กลับมาเยี่ยมบ้านตอนสิ้นเดือน

เสี่ยวเหอจึงเผลอตะโกนเรียกออกไปอย่างลืมตัว

“ต้าจื่อ! ต้าจื่อ”

ชิงถิงได้ยินเสียงเรียกของคนคุ้นเคยจึงหยุดม้า

“เจ้าจะรีบไปที่ใดหรือ?” หญิงสาวถาม

สีหน้าของชิงถิงคล้ายว่าจะโกรธใครสักคนมาก แต่เหมือนพยายามข่มเอาไว้ เขาลงจากหลังม้าและกำเชือกไว้แน่น ก่อนจะเค้นเสียงต่ำๆ ถามกลับไป

“แล้วเจ้าจะไปที่ใด?”

เสี่ยวเหอรู้สึกละอายและเสียใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าเหตุใดตัวเองจึงไม่กล้าบอกชิงถิงเรื่องที่จะแต่งงาน นางอึกอักอยู่สักพัก สาวใช้จื่อรั่วจึงเป็นฝ่ายพูดเสียเอง

“พวกข้ากำลังจะพาคุณหนูรองเข้าไปในตัวเมือง เพื่อไปเดินเล่นกับคู่หมั้นในเทศกาลซีซีเจ้าค่ะ”

เสี่ยวเหอเห็นว่าชิงถิงหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม ในแววตาเจือไปด้วยประกายเคืองโกรธ ในใจนางอยากจะถามว่าเป็นอะไรมากหรือไม่ แต่แม่สื่อกลับเร่งให้รีบเดินทางเสียก่อน

“ต้องรีบออกเดินทาง กำลังจะไปพบคู่หมั้นอย่ามัวแต่โอ้เอ้พูดคุยกับชายอื่นระหว่างทาง เรื่องเช่นนี้ ไม่ค่อยดีงามนัก”

หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก ได้แต่หลบตาชิงถิงด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย แล้วรถเทียมวัวก็เริ่มออกเดินทาง ทิ้งชายหนุ่มหน้าบูดบึ้งไว้ข้างหลัง เขานิ่งไปสักพัก ก่อนจะวิ่งตามรถเทียมวัวมาขวางทางเอาไว้

“เจ้าจะแต่งงานแน่ใช่หรือไม่ เจ้าอยากแต่งด้วยจริงๆ หรือ?” เขาถามออกไปเสียงขุ่นมัวไม่พอใจ

“...” เสี่ยวเหอยังคงเอ่ยตอบไม่ได้

“ตอนนี้ คุณหนูรองของข้าเหลือเพียงแค่ทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ฝ่ายชายเอาสินสอดมาให้แล้ว แม่สื่อก็มาแล้ว ชะตาก็ตรวจแล้วเช่นกันเจ้าค่ะ” จื่อรั่วจึงต้องเป็นฝ่ายพูดอีกครั้ง

ชิงถิงเงียบอยู่นานราวกับจะรอฟังคำตอบจากเสี่ยวเหอเท่านั้น แต่หญิงสาวกลับเอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตา จนแม่สื่อต้องเร่งอีกครั้ง ชิงถิงจึงไม่ตื๊อถามอีก เขาเดินกลับไปขึ้นม้าและจากไปทันที

เสี่ยวเหอเดินทางไปเช่าโรงเตี๊ยมนอนด้วยความรู้สึกหนักหน่วง คล้ายกับมีใครกำลังทุบอกข้างซ้าย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร นางรับรู้ได้เพียงแรงทุบนั้นทำให้นางหายใจไม่สะดวก

รอกระทั่งเย็น สาวใช้และแม่สื่อก็มารับเสี่ยวเหอออกไปพบคู่หมั้น นางต้องออกไปเดินเล่นในเทศกาลซีซีกับผู้ชายอายุคราวลุง แถมทั้งอ้วน ทั้งหัวล้านทั้งลงพุง

ตอนพบหน้ากันครั้งแรก เสี่ยวเหอเห็นว่าอีกฝ่ายพอใจในตัวนางมาก แต่หญิงสาวกลับรู้สึกคลื่นไส้จะอาเจียนกับสายตาของเขาที่มองมาอย่างโลมเลียไม่ปิดบัง นางจึงเอาแต่ก้มหน้า จื่อรั่วจับมือให้เดินไปทางใดก็เดินไปทางนั้น จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเดินไปที่ใดบ้าง

เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง พวกคนรับใช้ แม่สื่อและจื่อรั่วที่ติดตามมา จำเป็นต้องเดินตามหลังห่างๆ เพื่อให้คู่หมั้นได้คุยกันอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นการเดินเล่นของคู่ชายหญิงที่ใกล้แต่งงาน

เสี่ยวเหอเอาแต่เดินก้มหน้า ไม่สนใจจะคุยกับคู่หมั้น แม้อีกฝ่ายจะพยายามชวนคุยแล้ว แต่สุดท้ายก็เริ่มรู้สึกเบื่อที่ฝ่ายหญิงไม่พูดคุยโต้ตอบ ไม่นานก็ต่างคนต่างเงียบ

ผ่านไปราวสองเค่อ [2] เสี่ยวเหอก็พบว่าตัวเองหลงทางเสียแล้ว ว่าที่เจ้าบ่าวของนางก็ไม่อยู่ ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมามากมายจนลายตา นางพยายามมองหาคนรู้จัก แต่ก็ไม่คุ้นหน้าใครเลย สุดท้ายจึงหยุดเดินและตั้งใจจะกลับโรงเตี๊ยม

‘กลับไปรอที่โรงเตี๊ยมน่าจะดีกว่าตามหาคนกระมัง ถึงอย่างไรคนมากเช่นนี้คงตามหากันไม่พบ พรุ่งนี้ค่อยขอโทษฝ่ายชายก็แล้วกัน’ เสี่ยวเหอคิด

นางจึงเดินกลับทางเดิมที่ผ่านมา แต่เพราะผู้คนเยอะมากและไม่แน่ใจว่าตอนนี้ตนอยู่ที่ใดกันแน่ อย่างไรเสี่ยวเหอก็เป็นคุณหนูบ้านนอกที่ไม่ค่อยได้เข้าตัวอำเภอ ไม่ต้องคิดว่าตอนนี้ยังเป็นยามกลางคืนที่มีคนพลุกพล่านอีกด้วย

หญิงสาวเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินตลอดทางจึงหาทางกลับลำบากมาก เดินไปมา ถูกชนหลายครั้ง สุดท้ายเสี่ยวเหอก็รู้ตัวว่าคงหลงทางอีกแล้ว เพราะร้านค้าก็เริ่มน้อยลง แสงไฟก็สว่างน้อยลง

ทันใดนั้นก็มีมือบุรุษลากเสี่ยวเหอเดินเข้าซอยมืด!!

เสี่ยวเหอตกใจมากจนร้องไม่ออก มืออีกข้างพยายามทั้งตีทั้งแกะมือแข็งแรงที่ลากตัวเองอยู่ แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจหลุดจากการเกาะกุมของชายปริศนา จนถูกลากเข้าสู่ถนนที่แทบไม่มีแสงไฟ

นางเกือบจะร้องไห้แล้วแต่เมื่อเงยหน้ามอง กลับจำได้ว่าคนตรงหน้าคือชิงถิง แม้เขาจะใส่ชุดดำมีผ้าปิดหน้าเอาไว้ครึ่งหนึ่ง แต่นางยังคงจำเขาได้ เสี่ยวเหอจึงหยุดเดิน

ชิงถิงต้องหันมามอง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเสี่ยวเหอจึงไม่เดินต่อ

“เจ้าอยากกลับไปเดินเล่นกับเจ้าหมูตอนนั่นหรือ?” ชิงถิงถามด้วยเสียงไม่พอใจ

เสี่ยวเหอส่ายหน้า น้ำตาใกล้จะไหลออกมาอยู่แล้ว แต่ชิงถิงไม่สนใจยังคงลากให้นางเดินต่อไป

[1] ยามเฉิน คือ เวลา 07.00 – 08.59 นาฬิกา

[2] หนึ่งเค่อ เท่ากับ 15 นาที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel