บท
ตั้งค่า

เริ่มดูแลตนเอง 1.1

เริ่มดูแลตนเอง

เย็นวันนั้น จางลู่ซือคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่หยุด แต่ไม่ว่าคิดอย่างไรก็ไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ เอาเป็นว่าเธอเริ่มต้นจากการตื่นขึ้นมาภายในร่างของคนที่ไม่รู้จัก แม้จะยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงเข้ามาอยู่ภายในร่างของเด็กสาวคนนี้

และไม่ว่าเรื่องอื่นอาจจะสำคัญแค่ไหน แต่เรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าคือการดูแลร่างกายของตนเองให้มีสุขภาพแข็งแรง สังเกตดูจากสีผิวและกล้ามเนื้อของร่างกาย คิดว่ายังคงต้องปรับปรุงและพัฒนาตัวเองอีกมาก

“ใช้ไม่ได้ ทั้งที่เป็นเด็กสาวแท้ ๆ แต่ร่างกายไม่ต่างกับคนแก่เลย แบบนี้ต้องรีบพัฒนาตัวเอง ไม่อย่างนั้นรับรองว่าดูไม่ได้แน่”

หญิงสาวหมุนตัวแล้วมองผ่านกระจก เธอถึงได้รู้ว่านอกจากความผอมของร่างกายแล้ว ผิวพรรณก็ยังไม่เปล่งปลั่งสมกับวัย ผิวหน้าดูหยาบกร้านกว่าวัยที่ควรจะเป็น

เธอยกมือขึ้นลูบใบหน้า พร้อมกับถอนหายใจแรง ๆ

“ไม่ไหวแล้วผิวหน้ายังสากขนาดนี้ แล้วดูสิหึ๊ย มีสิวด้วย ตายแน่ ๆ หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปผิวหน้าพังจนกู้คืนไม่ได้ เอายังไงดี สมัยนี้ก็ยังไม่มีวิวัฒนาการมากพอที่จะให้เราเอามาใช้ได้ เฮ้อ...แบบนี้ก็แย่น่ะสิทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้น่าสงสารเหลือเกินนะ”

เมื่อคิดถึงความยากลำบากในยุคสมัยนี้ ผู้หญิงส่วนมากหากไม่มีเงินก็มักจะไม่มีโอกาสแต่งตัวสวย ๆ หรือหาเครื่องสำอางดี ๆ มาใช้ประทินผิว

จางลู่ซือรู้สึกท้อแท้เหลือเกิน

ต่อให้ในยุคนั้นไม่มีเงิน แต่ก็ยังมีครีมที่ราคาจับต้องได้ส่วนประสิทธิภาพที่ได้ก็ถือว่าปานกลาง

จางลู่ซือนึกย้อนไปถึงตอนที่เธอยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ในสมัยนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีเงินติดตัวสักเท่าไรพราะยังไม่มีรายได้ มิหนำซ้ำยังต้องตั้งใจเรียนและพยายามทำเกรดให้ดีที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นในยุคสมัยของเธอก็ยังมีครีมบำรุงผิว และเครื่องใช้ไม้สอยหลาย ๆ อย่าง พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้หญิงในยุคนั้น เปรียบเทียบกับตอนนี้แล้วช่างแตกต่างกัน จนทำให้เธอรู้สึกสะท้อนใจ

ดังนั้นเธอจึงเริ่มต้นคิดหาวิธีที่สามารถนำความรู้ที่มีมาประยุกต์ใช้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์

“เอาล่ะ ในเมื่อร่างกายต้องซ่อมแซมกันขนานใหญ่ เพราะฉะนั้นก็คงต้องเริ่มจากโครงสร้างภายในเป็นหลัก ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มต้นด้วยพื้นฐานการออกกำลังกายก่อนแล้วกัน”

เท่าที่จำได้ยังมีการบริหารร่างกาย ซึ่งเป็นการฟื้นฟูสมรรถภาพภายในร่างกายได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด ดังนั้นจึงต้องเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายในทุกเช้า

เธอตื่นนอนมาในตอนเช้า พร้อมกับออกมาสลัดข้อมือและวอร์มร่างกาย ทำเหมือนว่าเป็นนักกีฬาสมัยตอนที่อยู่มหาวิทยาลัย

เสียงของหญิงสาวที่ออกกำลังกายในตอนเช้าทำให้เพื่อนบ้าน ซึ่งเดินผ่านไปมาเห็นเข้ารู้สึกประหลาดใจ

“นั่นใช่ลู่ซือหรือเปล่านะ” หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งหันมาเห็นเข้าจึงกวักมือให้ชาวบ้านคนอื่นมาดูด้วยกัน “พวกเรามาดูทางนี้เร็วเข้า ทำไมวันนี้แม่หนูลู่ซือถึงได้ออกมาทำท่าทางประหลาดแบบนั้นล่ะ”

“โธ่เอ้ย!! จะมีอะไร ก็คงจะเป็นเพราะว่าถูกอาสะใภ้ใช้งานหนักจนเพี้ยนไปมากกว่า เมื่อหลายวันก่อนเห็นว่าถูกใช้งานให้ไปผ่าฟืนกลางฝน หลังจากนั้นเป็นไข้ตัวร้อน แต่ก็ไม่มีใครพาเธอไปหาหมอนอนซมอยู่ในห้องตั้งหลายวัน ฉันเองก็หลงคิดว่าลู่ซือจะเป็นอะไรไปเสียแล้ว เพราะไม่เห็นออกมาจากบ้านเลย”

“แต่เมื่อวันก่อนฉันได้ยินเสียงของ เจินเหนียงเธอร้องออกมาอย่างกับถูกใครตี ตอนแรกฉันยังเข้าใจว่าเป็นเสียงของ

ลู่ซือถึงได้รีบวิ่งมาฟัง แต่ที่ไหนได้เป็นเสียงของอาสะใภ้เธอต่างหาก ตอนแรกก็แอบดีใจนิดหน่อย คิดว่าแม่หนูน้อยจะอดทนไม่ไหวแล้วถึงได้ลงไม้ลงมือสั่งสอนซะบ้าง”

คำนินทาของเพื่อนบ้านหลายคนพูดไปในทิศทางเดียวกัน เพราะไม่เคยมีใครชอบนิสัยของอาสะใภ้ จางลู่ซือยืนอยู่ตรงนั้นได้ยินทุกอย่างอย่างชัดเจน จึงรู้ว่าที่แท้เด็กสาวคนนี้คงจะเสียชีวิตไปในช่วงที่จับไข้ หลังจากที่ถูกสั่งให้ไปผ่าฟืนกลางสายฝน คิดไปแล้วจางลู่ซือก็รู้สึกสงสารและไม่พอใจระคนกัน

ในทุกยุคสมัยจะมีคนที่อ่อนแอถูกรังแกจากคนที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งกว่าอยู่เสมอ แต่ในกรณีของเด็กสาวคนนี้ออกจะเกินเหตุไปสักนิด

คำว่าอาสะใภ้ย่อมหมายถึงคนในครอบครัว แต่ดูจากท่าทางและสีหน้าของอีกฝ่ายเมื่อวานนี้เธอมั่นใจว่าอาสะใภ้คงไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก ว่าแต่ทำไมเด็กสาวคนนี้จึงไม่มีผู้ใหญ่คนอื่นดูแลเลยล่ะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel