ประสบอุบัติเหตุ 1.2

หญิงสาวใช้เวลาอยู่ในบ้านของคุณนายเหอไม่นานก็ขอตัวกลับ เพราะในตอนนี้เธอได้ข้อมูลรอบใหม่มาแล้ว เพื่อที่จะนำกลับไปใช้ในห้องแล็บและเอาข้อมูลพวกนี้ไปทำตัวครีมชนิดใหม่ออกมา

นั่นเพราะผลของความขยัน และการไม่หยุดที่จะพัฒนาคือช่องทางของความสำเร็จของเธอนี่เอง

จางลู่ซือกำลังคิดค้นครีมตัวใหม่ เพื่อจะพลิกโฉมหน้าของวงการศัลยกรรมและวงการคลินิกเสริมความงาม นั่นก็คือตัวครีมที่สามารถทาลงไปแล้วเป็นได้ทั้งครีมบำรุงและครีมกันแดดแบบที่เห็นผลอย่างรวดเร็ว เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนไป คนที่ต้องการจะให้เห็นผลทางการรักษาเร็วขึ้นก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน

เพราะฉะนั้น เธอจึงทำทุกอย่างแข่งกับเวลา และความต้องการของตลาด

เมื่อกลับมาถึงรถ เธอได้นำทุกอย่างวางไว้ที่เบาะด้านหลังเหมือนเดิม ก่อนจะถอนลมหายใจออกมาแรง ๆ แล้วเปิดประตูรถฝั่งคนขับขึ้นไปนั่งบนเบาะ

“เอาล่ะนะ คราวนี้คงจะไม่มีอุปสรรคอะไรที่ทำให้ฉันจะต้องเลิกล้มการดูซีรีส์ที่ชอบกลางคันได้อีกแล้ว จะขอดูให้จุใจไปเลย”

เธอเอื้อมมือไปกดจอมอนิเตอร์ด้านหน้าพร้อมกับเลื่อนหา

ซีรีส์ดังที่เธอกำลังติดพันอยู่ เครื่องปรับอากาศภายในรถถูกเปิดขึ้นจนกระทั่งได้อุณหภูมิที่พอเหมาะ หญิงสาวค่อย ๆ เลือกอาหารที่อยู่ในปิ่นโตซึ่งกินค้างไว้ก่อนหน้านี้ออกมา ยื่นใส่ปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

“คิดเอาไว้แล้วเชียวว่าบรอกโคลีนึ่งต้องกินคู่กับกุ้งลวก แบบนี้มันถึงจะเข้ากัน แต่เดี๋ยวเก็บไข่ต้มเอาไว้กินเป็นรายการสุดท้ายจะดีกว่า นั่นของชอบของฉันเลย ไข่นี่แหละแหล่งที่อุดมไปด้วยโปรตีนราคาถูกโดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินซื้ออาหารเสริมราคาแพง”

เธอเชี่ยวชาญและรู้ดีว่าอาหารชนิดไหนสามารถส่งเสริมให้ร่างกายดูไม่แก่ชราก่อนวัยอันควร จึงสามารถเลือกกินได้อย่างเหมาะสมเสมอ

เมื่อรถยนต์คันหรูค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปจากทางด้านหน้าตลาดสด บนจอมอนิเตอร์ก็ได้ปรากฏภาพของซีรีส์เรื่องดังที่เธอให้ความสนใจอย่างมาก มันเป็นดราม่า คอมเมดี้ซีรีส์ที่เธอติดอย่างเอาเป็นเอาตาย และเธอก็ยังรู้สึกเสียดายที่วันนี้ไม่มีโอกาสดูให้มันให้จบ เพราะจะต้องมาร่วมงานที่ไร้สาระอย่างนี้

ในขณะที่รถยนต์ของเธอกำลังติดสัญญาณไฟแดง หญิงสาวใช้มือเลื่อนจอ เพื่อที่จะเร่งดูฉากที่ย้อนกลับไปก่อนหน้าเพราะดูค้างเอาไว้

“มาเสียทีสิ ฉันไม่อยากจะพลาดหรอกนะ ครั้งที่แล้วก็รีบร้อนดูเกินไปหน่อย เลยจำไม่ได้เลยว่านางเอกกำลังถูกแกล้งยังไง”

แต่เมื่อสัญญาณไฟดีดขึ้นเป็นสีเขียว รถทางด้านหลังบีบแตรไล่ทำให้จางลู่ซือจึงต้องรีบเหยียบคันเร่งออกไปทันที

แต่เพราะอารมณ์โมโหรถคันด้านหลังมาก จึงได้เหยียบคันเร่งเพื่อที่จะส่งความเร็วพารถขับหนีออกไปให้ไกล

จนกระทั่งพอถึงทางโค้งบนจอมอนิเตอร์ปรากฏฉากที่เธอกำลังต้องการดูพอดี

“นี่ไงล่ะ แม่สามีจอมแสบ ถ้าเป็นฉันเป็นเธอนะฉันจะจัดการแม่สามีให้หลาบจำไปเลย ลำเอียงดีเหลือเกิน ผู้ใหญ่อะไรไม่มีความยุติธรรมสักนิด”

จางลู่ซือเหมือนจะอินกับซีรีย์ที่ดู ทำให้เธอพูดอย่างเมามัน ในขณะที่เคี้ยวอาหารไปด้วย

ในบรรยากาศที่กำลังมืดครึ้ม ฝนฟ้าเริ่มเทลงมา ในที่สุดรถยนต์คันนี้ก็ขับเคลื่อนมาถึงช่วงหัวเลี้ยวทางโค้ง ซึ่งกำลังจะเข้าใกล้เขตชุมชนเมือง เธอจำเป็นต้องผ่อนความเร็วลง

แต่เป็นเพราะเห็นรถยนต์คันด้านหลัง ซึ่งยังตามติดมา

จึงรู้สึกหงุดหงิดอย่างห้ามไม่อยู่

“จะตามมาทำไมกันนะ เมื่อกี้ก็อุตส่าห์หลบไปให้แล้วยังจะขับจี้กันอีก แบบนี้ไม่น่ารักเลยจริง ๆ”

เธอบ่นพึมพำ ในขณะที่กำลังคว้าไข่ต้มขึ้นมาจากกล่องปิ่นโต เพราะนี่เป็นอาหารชิ้นสุดท้ายที่เลือกเก็บไว้กิน และในขณะที่เธอกำลังหย่อนมันเข้าปาก ฉากดุเดือดระหว่างแม่สามีและนางเอกที่กำลังถูกคนในบ้านรุมทำร้ายก็ทำให้เธอรู้สึกโมโห

ยิ่งรถยนต์คันที่อยู่ทางด้านหลังเร่งความเร็วขึ้นมาประกบเพราะต้องการจะแซง ทำให้เธอตกใจเบรกกะทันหัน

บังเอิญว่าไข่ต้มที่เธอเอามันเข้าปากมาแล้วนั้นยังเคี้ยวไม่หมด จึงทำให้จุกเข้ามาในหลอดลมของตนด้วยอาการตกใจ เพราะถูกรถคันด้านหลังเร่งเครื่องยนต์ขึ้นมา ทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก อีกทั้งยังต้องประคองพวงมาลัยให้อยู่ในเลนของตัวเอง

เสียงลมหายใจดังเหมือนกับหลอดพลาสติกที่ถูกบีบตัวดังขึ้น และเธอยังคงพยายามประคองสติด้วยความรู้สึกตื่นกลัว

ไม่น่าเลยจริง ๆ เรา!

สุดท้ายแล้วรถยนต์คันที่ลู่จางซือขับมาก็เสียหลักพุ่งเข้าชนต้นไม้ข้างทางทันที จากนั้นโลกทั้งโลกของเธอก็ดับมืดลง