บทที่ 2
“คุณภีมขอตัวไปไหนไม่รู้”
“อ้าว! เป็นงั้นไป” แม้น้ำเสียงและท่าทางของรจนาจะแสดงออกว่าเห็นใจทว่าลึกๆ ก็สะใจอยู่ไม่น้อย
“ผู้ชายอะไรเย็นชาชะมัด”
“แบบนั้นสิถึงจะสนุก ท้าทายดีไม่ใช่เหรอ” รจนาไม่ห้ามแต่กลับยุส่งเพราะอยากเห็นคนมั่นหน้าอย่างอุษาหน้าแตกกลับมา ต่อให้จะได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนแต่ก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปเสียทุกเรื่อง ยิ่งเรื่องผู้ชายที่อุษามักจะมั่นอกมั่นใจว่าหากต้องการใครคนนั้นต้องอยู่ในกำมือด้วยแล้วก็ยิ่งหมั่นไส้ อยากให้ภีมเป็นคนแรกที่เมินใส่จริงๆ
อันที่จริงอุษาใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่ แต่พอรู้ว่าพี่สาวประสบอุบัติเหตุก็กลับมาเฝ้าและเข้าไปช่วยงานที่บริษัท แต่แค่ไม่กี่วันกลับบอกเธอเจอผู้ชายที่ตรงสเปคเข้าและคนๆ นั้นคือภีม
“ก็จริง”
“ที่เขาไม่ใยดีเพราะเธอดีไม่พอหรือเปล่า”
“เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง” น้ำเสียงของอุษาห้วนขึ้นบ่งบอกอารมณ์ที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ใจเย็นๆ แล้วฟังก่อน คุณภีมออกจะเพอร์เฟค หล่อรวยเป็นนักธุรกิจชื่อดังจับอะไรก็ประสบความสำเร็จไปเสียทุกอย่าง ผู้หญิงที่จะทำให้เขาหันมองหรือสนใจได้จริงๆ ก็ต้องเก่งพอตัวสิ”
“ฉันก็เก่ง”
“ยอมรับ แต่ที่ผ่านมาเธอเอาแต่อยู่ข้างหลังพี่สาว ไม่เคยขึ้นมาเป็นผู้นำ ทำไมไม่ลองใช้จังหวะนี้โชว์ศักยภาพของตัวเองดูล่ะจ๊ะ”
“โชว์ศักยภาพตัวเองอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ อาการพี่สาวเธอก็ห้าสิบห้าสิบจะกลับมาเป็นปกติไหมหมอยังไม่กล้าคอนเฟิร์มส่วนหลานสาวก็ยังเรียนไม่จบ ฉันว่าจังหวะนี้แหละที่เธอควรขึ้นนั่งแท่นผู้บริหารเต็มตัว ถ้าเธอขึ้นใครจะกล้าขัดหรือถ้ากล้าจริงๆ ก็ขู่ไปสิว่าจะไล่ออก”
“แต่ว่าฉัน…” สีหน้าและแววตาของอุษาลังเลเล็กน้อย
“ถ้าลังเลก็นึกถึงคุณภีมสิ เธออยากได้เขาไม่ใช่เหรอ” ประโยคที่ได้ยินทำให้แววตาของอุษาเปลี่ยนไปเวลานี้มันเต็มไปด้วยความแน่วแน่ นั่นเพราะเธอไม่เคยต้องการใครเท่าภีมมาก่อนจริงๆ ยิ่งเขาเข้าถึงยากก็ยิ่งสนุก
“ใช่ฉันอยากได้เขา”
“ถ้าอยากได้ก็ลงมือสิจ๊ะเพื่อนรัก ขืนชักช้ามีใครคว้าไปก่อน ไม่รู้ด้วยนะ” คำพูดของรจนาให้อุษาเริ่มหวั่นใจ ก่อนจะฮึดสู้ดูสักตั้ง
“เรื่องอะไรจะปล่อยให้คนอื่นคว้าไป”
“ใช่ไหมล่ะ ผู้ชายเพอร์เฟคแบบคุณภีมหายากจะตายไป เอาเป็นว่าฉันอวยพรขอให้เธอสมหวัง” รจนายกแก้วขึ้นดื่มเพื่อฉลองให้อุษาล่วงหน้า ยิ่งมีคนสนับสนุนแบบนี้อีกฝ่ายก็ยิ่งได้ใจและหมายมั่นปั้นมือที่จะคว้าตัวรวมถึงหัวใจของภีมมาไว้แต่เพียงผู้เดียว
พอสนใจจึงให้รจนาตามสืบเรื่องส่วนตัวของภีม จึงรู้ว่าเขาจบจากเมืองนอกแถมยังเก่งกาจเรื่องบริหารธุรกิจ ถึงขนาดผลักดันให้โรงแรมที่กำลังขาดทุนมีชื่อเสียงและกำไรมหาศาล เรียกได้ว่าแค่เอ่ยชื่อใครต่อใครก็รู้จัก
นอกจากโรงแรมที่ภูเก็ตแล้วยังมีที่กระบี่และระนองรวมถึงภาคเหนืออีกหลายแห่งเห็นว่ากำลังขยายไปต่างประเทศอีกด้วย แม้ธุรกิจโรงแรมไปได้สวยแต่ชายหนุ่มกลับไม่หยุดนิ่งเพราะเขาเปิดร้านอาหารกึ่งบาร์ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจนติดลมบนก็หลายแห่งอีกด้วย
ประสบการณ์ความรักที่ผ่านๆ มาของอุษาเองก็ไม่เคยปล่อยหัวใจให้ว่างเปล่าเช่นกัน แต่ช่วงที่เธอพบภีมบังเอิญว่าตัวเองโสดเพราะพึ่งเลิกรากับคนเก่าไปไม่นาน ยิ่งเจอผู้ชายที่ตรงสเปคเธอก็ยิ่งคาดหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่ใจคิด
อุษากำลังมีความสุขและวางแผนเรื่องจะเข้าไปบริหารงานที่บริษัทของพี่สาวเต็มตัวโดยในสมองไม่มีพื้นที่ให้คิดถึงอาการเจ็บป่วยของพี่สาวเลยแม้น้อยรวมถึงรวีที่เวลานี้ยังนอนไม่หลับ เพราะข่มตาลงทีไรภาพที่เห็นก็มักจะเป็นหน้าห้องไอซียูเสมอ
“แม่ขา อย่าเป็นอะไรไปนะคะ” รวีเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ สุดท้ายก็ทนต่อความเหนื่อยล้าจากการเดินทางข้ามทวีปแท้ๆ ไม่ไหวผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะมาสะดุ้งตื่นช่วงสายของอีกวัน
ทันทีที่รู้สึกตัวรวีก็รีบจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งรอให้น้าสาวมารับเพื่อไปโรงพยาบาลอย่างร้อนอกร้อนใจ แต่ทว่าผ่านไปหลายชั่วโมงอุษากลับยังมาไม่ถึงรวีจึงตัดสินใจโทรหา
“น้าอุษาใกล้จะถึงหรือยังคะ”
“อุ๊ย! ตายจริงรวี วันนี้น้าเข้ามาที่บริษัทแล้วยุ่งๆ เลยไม่ได้โทรบอกว่าน้าไปรับไม่ได้ รวีจ้างรถแถวนั้นไปโรงพยาบาลได้ไหม” อุษาตั้งใจลืมเรื่องที่ต้องเข้าไปรับรวีที่บ้าน เพราะเห็นงานสำคัญกว่าการรับส่งหลานสาว
“เอ่อ…ค่ะ” รวีเอ่ยรับ
“วันนี้งานที่บริษัทยุ่งมากน้าคงไม่ได้เข้าไปโรงพยาบาล ยังไงฝากรวีดูแลแม่แทนน้าด้วยนะ ถ้ามีอะไรด่วนก็โทรหาน้าน่ะ”
“ได้ค่ะ” รวีเอ่ยรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ พอวางสายจากน้าสาวคิ้วสวยได้รูปก็ขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิดที่จะหาวิธีไปโรงพยาบาล กระทั่งตัดสินใจจะเดินไปจ้างรถรับจ้างของคนแถวๆ บ้านดู เผื่อมีใครว่างพอจะไปส่งเธอได้ ซึ่งจังหวะที่กำลังเดินไปหน้าบ้านเสียงของแม่บ้านก็เอ่ยทักขึ้น
“คุณรวีจะไปโรงพยาบาลเหรอคะ”
“ใช่ค่ะป้า”
“แล้วจะเดินไปไหนคะไม่รอคุณอุษามารับ”
“วันนี้น้าอุษาไม่ว่างค่ะ รวีเลยจะออกไปจ้างรถแถวๆ นี้ให้ไปส่งที่โรงพยาบาล” คำตอบของรวีทำให้แม่บ้านอย่างสายฝนตกใจปนเป็นห่วง
“ไม่ได้เด็ดขาดค่ะ คุณรวีเป็นผู้หญิงจะไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้าได้ยังไง”
“แต่ถ้าไม่จ้างรถรับจ้างรวีก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะไปหาแม่ที่โรงพยาบาลด้วยวิธีไหน” สีหน้าของรวีนั้นเศร้าสร้อยเพราะใจจดจ่อแต่กับการไปโรงพยาบาล
“จริงสิ คุณรวีรอป้าตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวป้ามาค่ะ” ป้าสายฝนนึกอะไรออกก่อนจะหายไปครู่หนึ่งแล้วเดินกลับมาหารวีอีกครั้งพร้อมของบางอย่างในมือแล้วส่งให้คนที่รออยู่
“นี่ค่ะ”
“กุญแจรถเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ กุญแจรถ” ป้าสายฝนเอ่ยบอก ที่หายไปเมื่อครู่เพราะเดินขึ้นไปบนห้องนอนของอาภาเพื่อหยิบกุญแจรถ ซึ่งเธอรู้ว่าเจ้านายเก็บไว้ตรงไหน “รถที่คุณอาภาซื้อมาเซอร์ไพรส์วันเกิดปีนี้ของคุณรวีค่ะ ทางศูนย์พึ่งเอารถมาส่งที่บ้านเมื่อไม่กี่วันก่อนที่คุณอาภาจะเกิดอุบัติเหตุ”
ทุกๆ คำๆ ทุกๆ ประโยคที่ได้ยินทำให้รวีน้ำตารื้นเพราะคิดถึงคนเป็นแม่ ยิ่งรู้ว่าท่านเตรียมของขวัญวันเกิดที่เธออยากได้ไว้รอแบบนี้ก็ยิ่งเศร้าจนน้ำตาไหลอาบแก้ม
รวีกุมกุญแจรถไว้ในมือแล้วเดินไปยังโรงจอดรถที่อยู่ด้านขวาของตัวบ้าน กระทั่งสายตามองเห็นรถที่จอดอยู่แม้จะมีผ้าคลุมไว้แต่ลักษณะของมันก็บ่งบอกว่าภายใต้ผ้าคลุมขนาดใหญ่คืออะไร รวีดึงผ้าคลุมรถออกและสิ่งที่เธอเห็นคือรถยุโรปคันเล็กขนาดกระทัดรัดสีเหลือง ทั้งยี่ห้อทั้งรุ่นและสีรถล้วนแต่เป็นสิ่งที่เธอชอบทั้งสิ้น
มือเล็กๆ ยกขึ้นปาดน้ำตาที่ยังคงไหลอาบแก้ม ของขวัญวันเกิดปีนี้ช่างถูกใจเธอนักแต่ถ้าเลือกได้เธออยากได้ปาฏิหาริย์เพื่อขอให้แม่ฟื้นกลับมาและหายเป็นปกติอีกข้อ รวีสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ปาดน้ำตาให้แห้งจากแก้มอีกครั้งแล้วขับรถคันนั้นตรงไปยังโรงพยาบาล
