ตอนที่ 7
“โหย... แบบนี้เลือกไม่ถูกเลยนะคะแม่” ระพีพรรณทำสีหน้าคิดไม่ตกก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะผู้ชายแต่ละคนที่เธอกับแม่หมายตาไว้ให้ลูกสาวนั้นดูดีและมีคุณสมบัติที่ครบถ้วนกันทุกคน ติดที่ว่าขณะนั้นเธอกับแม่กำลังลุ้นลูกสาวให้ลงเอยกับทวิช แต่เมื่อเวลานี้ทวิชไม่อยู่แล้ว เธอก็หวังจะให้สิ่งที่คิดไว้นั้นเป็นจริง
“คุณธานีก็ดีนะคะแม่ ธนิษฐา ธานี หลานๆ จะได้มีชื่อเป็น ธ อีกไงคะ”
“งั้นแม่ตามใจพรรณ แม่พรรณคิดว่าคนไหนดี เดี๋ยวเราไปหาช่องทางให้หนูดาวได้เจอกับเขากัน คราวนี้แหละหนูดาวจะได้แต่งงานจริงๆ สักที เราก็จะได้มีหลานตัวน้อยๆ มาวิ่งเล่นกัน แม่น่ะอยากให้หนูดาวแต่งซะวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย อยากมีเจ้าตัวน้อยๆ ใจจะขาดอยู่แล้ว”
“พรรณก็เหมือนกันค่ะแม่ อยากให้หนูดาวแต่งซะพรุ่งนี้ไปเลย”
ธนิษฐามองแม่กับยายที่ต่างพูดถึงความดีความชอบของผู้ชายแต่ละคนที่หมายตาไว้ว่าอยากให้เธอจับคู่ด้วย ความสุขทางน้ำเสียง สีหน้าและแววตาของแม่และยายมันบาดหัวใจเธอจนลึก และบาดแผลที่เพิ่งถูกกรีดไว้เป็นรอยแผลสดก็เหมือนกับถูกแหวะออกก่อนจะซุกซ่อนก้อนเกลือไว้ด้านในให้เธอทั้งเจ็บ ทั้งแสบจนอยากจะกรีดร้อง และมันก็ไม่เป็นเพียงความคิด
“ไม่! หนูไม่แต่ง! ไม่แต่งกับใครทั้งนั้น! หนูจะไม่แต่งงานกับใครอีกแล้ว”
“นี่แกเป็นบ้าอะไรอีกยัยดาว อารมณ์ฉันเพิ่งจะดี แกก็มาป่วนอีกแล้ว” ระพีพรรณมองลูกสาวแกมตำหนิที่จู่ธนิษฐาก็กรีดร้องไม่ต่างจากเด็กเอาแต่ใจ ทั้งที่ปีนี้ก็ 25 เข้าไปแล้ว
“หนูไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น”
“ทำไมล่ะลูก” รุจีเอ่ยถามเมื่อคลายความตกใจจากเสียงกรีดร้องของธนิษฐาจนถึงกับทาบฝ่ามือไว้ที่หน้าอก
“หนูไม่อยากให้ใครต้องมาตายเพราะหนูอีก มัน... มันบาป...”
น้ำเสียงขมขื่นกลั้วไปด้วยแรงสะอื้นทำให้ระพีพรรณอ้าปากอ้าง ส่วนรุจีนั้นได้แต่ตบหน้าอกตัวเองไปมาราวกับว่ามันจะทำให้ความตื่นเต้นที่เกิดอยู่นี้ผ่อนคลายลง
“บาปเบิบที่ไหนกันยัยดาว คนพวกนั้นมันถึงฆาตเอง ไม่ได้เกี่ยวกับแกสักนิด แกเชื่อแม่สิว่าแม่จะทำทุกทางให้แกมีความสุข แกจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี ดีเหมือน... เหมือนพ่อยังไงลูก” ระพีพรรณกล้ำกลืนก้อนสะอื้น น้ำเสียงอ่อนโยนลงยามหวนคิดถึงผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิต ที่จากไปนานนับ 10 ปี
“แม่คะ หนูขอโทษที่ทำให้แม่ต้องคิดถึงพ่ออีก แต่หนูจะไม่แต่งงานกับใครแล้วนะคะ หนูจะอยู่คนเดียว หนูจะอยู่ดูแลแม่กับยายเอง หนูจะไม่มีสามี จะไม่มีใครทั้งนั้น” แววเศร้าของแม่ทำให้เธอได้สติ เมื่อเธอยังรู้สึกเจ็บปวดกับแผลสดนี้ เธอก็ไม่ควรจะไปสะกิดบาดแผลของแม่ให้เจ็บปวดขึ้นมาอีก
“แต่แม่อยากให้แกแต่งงานกับผู้ชายที่ดี ที่แม่กับยายเลือกให้ แม่รับรองว่าคราวนี้แกจะมีความสุข”
“หนูไม่แต่งค่ะแม่”
“เอ๊ะ! ยัยดาว แกไม่เคยเถียงแม่อย่างนี้นะ” ระพีพรรณถลึงตาโต เมื่อครั้งนี้ธนิษฐาค้านหัวชนฝา ครั้งที่แล้วๆ มาเมื่อบอกให้แต่งงาน ลูกสาวก็เพียงแต่บ่ายเบี่ยงให้รอไปก่อน แต่ไม่เคยถึงกับดื้อแพ่งอย่างนี้
“แต่แม่สัญญาแล้วนะคะ”
“สัญญา...” หัวคิ้วเรียวสวยจากการแต่งแต้มขมวดเข้าหากันครุ่นคิดพลางหันมองแม่ของตนหวังจะให้ทบทวนสัญญาตามที่ลูกสาวบอก เพราะเธอจำไม่ได้จริงๆ ว่าสัญญาอะไรไว้กับธนิษฐา
“ค่ะ แม่สัญญาแล้ว ว่าจะให้หนูแต่งงานกับพี่วิชเป็นคนสุดท้าย แล้วแม่จะไม่บังคับให้หนูต้องแต่งงานกับใครอีก แม่จำไม่ได้เหรอคะ และหนูก็ไม่อยากแต่งงานกับใครอีกแล้วด้วย”
“แต่นี่แม่ก็ไม่ได้บังคับนะ แค่อยากจะแนะนำให้รู้จักกันไว้ ถ้าใครไม่ดีตรงไหนแกก็บอกแม่ แม่จะได้กันเขาออกไปจากแกไงละ เลือกคนที่แกชอบเขาจริงๆ แม่ไม่ได้บังคับ” ระพีพรรณพยายามข่มใจพูดให้อ่อนหวานเข้าไว้ ทั้งที่ใจจริงนั้นอยากจะปรี๊ดแตกเสียให้ได้ที่ธนิษฐากล้าเถียง
“หนูไม่อยากรู้จักค่ะ ไม่อยากรู้จักใครทั้งนั้น ถ้าหนูจะแต่งงานอีกครั้งหนูจะเป็นคนเลือกผู้ชายคนนั้นเอง หนูจะไม่จัดงานแต่งงานขึ้นมาเพื่อประจานตัวหนูอีก”
“หนูดาว... ใจเย็นๆ นะลูก ไม่แต่งก็ยังไม่แต่ง หนูดาวแค่ไปทำความรู้จักพี่ๆ เขาไว้เท่านั้นเอง ไม่รักไม่ชอบก็คบกันเป็นพี่เป็นน้องก็ได้นี่ลูก ใจเย็นๆ นะ ยายกับแม่ไม่ได้บังคับ แค่อยากให้หนูดาวมีความสุขเท่านั้นเอง”
ธนิษฐามองผู้เป็นยายที่ถ่ายทอดความห่วงใยออกมาจากสายตา รวมทั้งแม่ที่แม้จะหงุดหงิดที่เธอขัดใจแต่สายตาของแม่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยความรักให้กับเธอเสมอมา และเพราะความหวังดีความห่วงใยนี่แหละที่ทำให้เธอต้องผูกชีวิตไว้กับผู้ชาย 3 คนที่ลับโลกนี้ไปแล้ว และเธอจะไม่มีวันยอมให้ความหวังดีความห่วงใยของแม่กับยาย มาทำให้เธอต้อง ‘ฆ่า’ ใครโดยไม่เจตนาอีก
“ไม่ค่ะ หากหนูจะแต่งงานกับใครอีกครั้ง นั่นจะต้องเกิดจากความรัก และหนูจะหาผู้ชายคนนั้นด้วยตัวหนูเอง”
ธนิษฐาไม่อาจอยู่ฟังคำตอบเพราะคงไม่มีใครยอมในสิ่งที่เธอตัดสินใจไปแล้ว ร่างงามระหงจึงลุกขึ้นและเดินออกจากห้องรับแขกให้เร็วที่สุด แต่แค่พ้นสายตาของแม่กับยาย ร่างกายก็เหมือนจะอ่อนเปลี้ยเมื่อแว่วเสียงกราดเกรี้ยวของแม่ดังตามมา
