บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

สายตาที่แสดงความไม่พอใจของผู้เป็นแม่ที่จ้องมองมาในทันทีที่เธอเหยียบย่างเข้าสู่คฤหาสน์หลังงามที่ปลูกสร้างบนพื้นที่เกือบ 10 ไร่ในย่านชานเมือง ทำให้ธนิษฐาต้องพยายามข่มใจไม่ให้เผลอแสดงอารมณ์ ‘เหนื่อยใจ’ ซึ่งก็คืออารมณ์ที่แท้จริงในขณะนี้ออกไป

ร่างงามระหงพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ พ่นออกจากปากเบาๆ ราวกับอยากให้ความหนักใจทั้งหลายนั้นมลายหายไปพร้อมกับลมหายใจออก เพราะยิ่งนานวัน ความอึดอัดที่เธอแบกรับมาตลอดเกือบ 5 ปี มันก็ยิ่งเติมเต็มจนแทบจะทะลักออกมาจากหัวใจของเธออยู่แล้ว

เธออยากให้ความอึดอัดนี้มันจบลงเสียที อย่างน้อยที่สุดก็ให้จบไปพร้อมๆ กับ ‘ตราบาป’ ครั้งล่าสุดที่เพิ่งประทับไว้บนหน้าผากของเธอ เพราะต่อแต่นี้ไปไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ใกล้หรือไกล ขอเพียงมีคนรู้จักและจดจำเธอได้ ฉายา ‘หญิงกินผัว’ ‘ม่ายผัว 3’ หรือว่า ‘หญิง 3 ผัว’ คงจะอยู่คู่กับเธอไปจนวันตาย เพราะเรื่องแบบนี้แหละที่คนชอบพูดกันนัก ดีไม่ดีเธออาจกลายเป็นตำนานที่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็ได้

“ถอนหายใจทำไมยัยดาว อย่ามามองแม่แบบนี้นะ แม่บอกเราแล้วว่าไม่ให้ไป เราก็ไม่เชื่อแม่ แล้วยังไงล่ะ เจอเขาด่าหรือว่าไล่ตะเพิดมาอีกล่ะ ถึงได้มามองแม่ด้วยสายตาแบบเนี้ย”

ระพีพรรณอดไม่ได้ที่จะเปิดฉากก่อน ใจจริงอยากจะต่อว่าให้มากกว่านี้ที่ธนิษฐาขัดคำสั่งแอบไปงานศพของทวิชหลายครั้ง และทุกครั้งก็ไม่วายจะถูกญาติทางฝ่ายโน้นแสดงท่าทีรังเกียจหรือไม่ก็ถูกด่าว่าให้เสียหาย แต่พอเห็นสายตาของลูกสาวที่มองมายังเธอแบบเหนื่อยอกเหนื่อยใจมันก็ทำให้เธอต้องยั้งคำพูดไว้ แต่ไม่วายจะเหน็บเจ็บๆ ให้ธนิษฐารู้ว่า ผลของการที่เธอไม่เชื่อฟังคำพูดของแม่ สุดท้ายแล้วมันเป็นยังไง

ธนิษฐาไม่ได้ตอบว่าอะไรแต่ก็แสดงความหนักใจออกมาแทน อกอวบอิ่มที่อยู่ในเชิ้ตผ้าซาตินสีดำสะท้อนขึ้นลงตามแรงที่ต้องการสะกดกลั้น ริมฝีปากสีชมพูบอบบางเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะตัดสินใจเลี้ยวเดินไปอีกทาง การหลีกเลี่ยงที่จะกระทบกระทั่งคงจะดีที่สุดในเวลานี้ เพราะเธอคงไม่มีเรี่ยวแรงจะคิดอ่านอะไรมาแย้งแม่ได้

“นี่ยัยดาวจะไปไหน แม่ยังพูดกับเราไม่รู้เรื่องเลยนะ ยัยดาว!”

“เอะอะอะไรกันแม่พรรณ เสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน อ้าว... หนูดาวกลับมาแล้วเหรอลูก เป็นยังไงล่ะคนทางนั้นเขาว่ายังไงบ้าง ไหนๆ มาคุยให้ยายฟังสิ”

หญิงชราร่างท้วมกวักมือเรียกหลานสาวก่อนจะเดินตรงไปยังลูกสาวที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ที่ชุดโซฟาสุดหรูที่หลานเขยคนที่สองสั่งนำเข้ามาให้จากฝรั่งเศส

“ว่าไงล่ะแม่พรรณ เอะอะอะไรลูก หนูดาวเป็นยังไงบ้างลูก ทางนั้นเขาว่ายังไงบ้าง”

รุจีหันไปถามลูกสาวในน้ำเสียงปรามไม่ให้ใช้อารมณ์ ก่อนจะหันไปถามหลานสาวย้ำอีกครั้งเพราะอยากรู้ว่าญาติๆ ของทวิชจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เพราะในเมื่อทั้งแม่และยายห้ามแล้วว่าไม่ให้ไป แต่ธนิษฐาก็ยังรั้นที่จะไปให้ได้

“จะยังไงล่ะคะแม่ แค่สวดคืนแรกก็โดนทางนั้นไล่ออกมาจากงานยังกับยัยดาวน่ะเป็นหมูเป็นหมา วันเผาก็ถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปในงานอีก และเช้านี้จะเหลืออะไร อยากจะไปช่วยเขาเก็บกระดูก สีหน้าแบบนี้ก็คงจะได้เข้าไปหรอกนะ”

“แม่พรรณ แม่ถามหนูดาว ไม่ได้ถามเรานะ หนูดาว... ว่ายังไงล่ะลูก”

ธนิษฐาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับผู้เป็นยาย ย้ายมานั่งอยู่แทบพื้น ดวงตาสวยหวานทว่าแดงก่ำเพราะต้องการสะกดเก็บทุกความรู้สึกเอาไว้กับตัวเอง แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงปรานีของผู้เป็นยาย ทั้งดวงตาผ่านพ้นวันเวลาที่อ่อนโยนนั้นคล้ายกับจะปลุกปลอบใจ ความเข้มแข็งที่เธอพยายามยึดไว้ก็พังทลายลง

“ยายคะ ฮือ...”

ท่อนแขนเรียวเสลาโอบกอดรอบเอวของผู้เป็นยายก่อนจะซบใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตาลงที่หน้าตัก ทุกความเจ็บช้ำถูกระบายให้ผู้เป็นยายฟัง ทั้งคำพูดด่าว่าจากญาติพี่น้องของทวิช ทั้งคำนินทาในทุกที่ที่เธอเหยียบย่าง เธอไม่มีสิทธิแม้แต่จะได้บอกลาทวิชเป็นครั้งสุดท้าย แม้จะไม่ได้รักมากมายแต่เมื่อเธอเลือกเขาเป็นคู่ชีวิตแล้ว เธอก็พร้อมจะมอบกายและใจให้กับเขา แต่สิ่งที่เธอทำได้คือเพียงยืนมองควันไฟลอยคลุ้งออกจากปล่องเมรุเท่านั้น

และสำหรับเช้าวันนี้ที่เธอหวังว่าอาจจะได้บอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย แต่เมื่อเห็นบรรดาญาติและแม่ของเขาที่ร้องไห้คร่ำครวญยามที่สัปเหร่อพาเขาออกมาจากประตูทางออก เธอก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะเดินเข้าไปบอกลา ไม่ใช่กลัวจะถูกด่าว่า แต่เพราะไม่อาจทนเห็นทวิชที่เป็นเพียงเถ้ากระดูกสีขาวได้ เพราะนั่นมันยิ่งสะท้อนถึงคำประณามหยามเหยียดให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“หนูมันเป็นผู้หญิงกินผัว หนูฆ่าพวกเขา หนูฆ่าคุณอาวุฒิ ฆ่าพี่อุเทน และหนูก็ฆ่าพี่วิชอีกคน ยาย... หนูจะทำยังไงดี ฮือ... มีแต่คนรังเกียจหนู หนูไม่ไหวแล้ว หนู...” ความอัดอั้นถูกระบายออกทั้งคำพูดและหยาดน้ำตา เพราะเธอรับสภาพแบบนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel