7 ออดอ้อน
“หนึ่งอยากทำงานที่นี่จริงๆตอนนี้หนึ่งไม่มีที่ไปหนึ่งพาย่ามาขออาศัยบ้านป้าอุไรแถมย่าหนึ่งก็ป่วยหลงๆลืมๆทานอะไรก็ไม่ค่อยจะได้หนึ่งต้องทำงานเก็บเงินเอาไว้รักษาย่าค่ะแล้วอีกอย่างนึงหนึ่งก็อยากมีอาชีพเผื่อวันหน้าจะได้มีบ้านอยู่ของตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งญาติพี่น้อง”
วันหนึ่งใช้ลูกอ้อนอย่างเต็มที่ดวงตากลมโตจ้องพ่อเลี้ยงหนุ่มเรียกร้องความสงสารไม่ขาดระยะจนน่านน้ำต้องหลบสายตาของเธออยู่หลายจังหวะด้วยรู้กำลังรู้สึกใจอ่อนไปกับคำพูดที่เรียกร้องความสงสาร
“เฮ้อ..!”
เป็นอีกครั้งที่น่านน้ำต้องถอนหายใจให้กับแม่ครัวที่ชื่อวันหนึ่งคนนี้
“สงสารหนึ่งเถอะนะคะ..หนึ่งจะไม่ให้มันเกิดความผิดพลาดอะไรอีก..นะคะพ่อเลี้ยง..นะค้า..”
มือน้อยเกาะเขย่าขาคนที่เอาแต่หันหน้าหนีเธอพยายามออดอ้อนเช่นดั่งที่เคยออดอ้อนคนในครอบครัววิธีนี้เธอใช้ได้ผลทุกครั้งและภาวนาว่าจะใช้ได้ผลกับพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วย
“อืม”
เสียงตอบกลับสั้นๆห้วนๆของน่านน้ำทำวันหนึ่งหายความกังวลใจไปปลิดทิ้งใช่แล้ววิธีการขอความเห็นใจเช่นนี้เธอใช้มันได้ผล
“แต่..ห้ามพลาดอะไรอีกเข้าใจหรือเปล่าทำอะไรต้องมีสติรอบคอบใส่ใจกับสิ่งที่ทำเสมอ”
“หนึ่งจะจำไว้ค่ะพ่อเลี้ยง..พ่อเลี้ยงนี่ทั้งหล่อทั้งใจดี๊ใจดีนะคะ”
น่านน้ำส่ายหัวมองคนที่พึ่งยอมลุกขึ้นยืนยิ้มร่าพฤติกรรมของเธอเมื่อครู่กับตอนนี้ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงที่เขายอมให้เธอทำงานต่อไม่ใช่เพราะหลงในการออดอ้อนแต่เห็นใจกับความขัดสนในครอบครัวของเธอมากกว่า
“ฮัดชิ่ว..ฮัดชิ่ว”
นฤดีนั่งทานผลไม้อยู่หน้าบ้านกับอุไรเธอก็เกิดจามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอุไรที่เห็นเช่นนั้นก็รีบดึงทิชชู่ส่งให้หญิงชรา
“ทิชชู่ค่ะคุณท่าน”
“ขอบใจนะแม่อุไร..ไม่รู้ใครมานินทาคนแก่ตอนนี้นะ..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า”
นฤดีเปรยพร้อมเสียงหัวเราะร้อยวันพันปีเธอจะจามสักครั้งแล้วก็อดคิดถึงความเชื่อในคนรุ่นราวอย่างเธอไม่ได้ที่จามแล้วต้องมีคนนินทาเพราะคนแข็งแรงอย่างเธอคงไม่ได้จามเพราะจะป่วยแน่นอน
“นั่นพ่อเลี้ยงพาใครมาด้วยวะน่ะ”
คนงานหนุ่มๆในไร่ที่พึ่งเข้ามาในโรงครัวในเวลาใกล้เที่ยงต่างก็มองกันเป็นตาเดียวไปที่ผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวอมชมพูที่ยืนอยู่ข้างพ่อเลี้ยงหนุ่ม
“โห..ขาวนึกว่าหยวกกล้วย”
“หรือพ่อเลี้ยงเราจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้ววะ”
เสียงสนทนาของเหล่าหนุ่มๆทำเอื้องฟ้าที่กำลังจัดขนมจีนใส่จานให้คนงานก็เกิดอาการไม่พอใจขึ้น
“ใช่ที่ไหน..นังนั่นชื่อหนึ่งเป็นแม่ครัวคนใหม่พ่อเลี้ยงหลานป้าอุไร”
“ป้าอุไรแกมีลูกสาวสวยแล้วยังมีหลานน่ารักอีกโชคดีจริงๆ”
เอื้องฟ้าไม่พอใจตั้งแต่เห็นวันหนึ่งตัวติดกับพ่อเลี้ยงมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อครู่แล้วเพียงเธอยังต้องมีหน้าที่ดูแลคนงานอยู่ที่หน้าโรงครัวไม่อย่างนั้นคงได้กะแนะกะแหนวันหนึ่งไปบ้างแล้ว
“น่ารักตรงไหนตัวซีดอย่างกับศพ”
เหล่าหนุ่มๆต่างมองเอื้องฟ้าด้วยสายตาเอือมระอาด้วยรู้ว่านิสัยของหญิงสาวหน้าสวยคนนี้ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับใครสักเท่าไรแต่ก็ไม่ได้จะถือสาหรือสาวความตีฝีปากกันต่อเพราะเห็นแก่ดอกสร้อยและคำอ้ายและถึงต่อปากต่อคำด้วยก็ไม่ชนะผู้หญิงคนนี้อยู่ดี
“กับข้าวป้าเตรียมใส่ปิ่นโตแล้วนะคะพ่อเลี้ยงเอาไปเผื่อมื้อเย็นด้วยเลยค่ะ”
ดอกสร้อยที่รู้ว่าบ้านของพ่อเลี้ยงหนุ่มยังทำอาหารไม่ได้เพราะแม่ครัวคนใหม่ดันเปิดแก๊สทิ้งไว้นานสองนานเธอจึงเตรียมกับข้าวและข้าวสวยใส่ปิ่นโตให้กับพ่อเลี้ยงเผื่อถึงเย็นนี้ก่อนจะมองไปยังสาวน้อยที่นั่งทานขนมจีนแกงเขียวหวานตุ้ยๆอยู่ข้างๆอย่างเอ็นดู
“ป้าสร้อยขา..หนึ่งขอแกงเขียวหวานเพิ่มอีกถุงได้มั้ยคะแกงเขียวหวานนี่อร๊อยอร่อยจนทานไม่รู้จักอิ่มเลยค่ะ”
วันหนึ่งรีบเคี้ยวชิ้นไก่คำโตลงคอก่อนจะหันมาบอกดอกสร้อยว่าให้ตักแกงเขียวหวานให้เธอเพิ่มเพราะอาหารอร่อยขนาดนี้เพียงแค่ถุงเดียวที่ผูกติดกับปิ่นโตไม่พอเธอทานแน่ด้วยไหนจะต้องแบ่งกับพ่อเลี้ยงหนุ่มอีก
“ปากหวานจริงๆแม่คุณเดี๋ยวป้าตักให้เพิ่มนะลูก”
“ค้า..”
น่านน้ำอมยิ้มอ่อนกับท่าทางนอบน้อมออดอ้อนผู้ใหญ่ของวันหนึ่งคิดว่าที่เธออ้อนเขาก่อนจะมาว่าเยอะแล้วแต่ไม่คิดว่าเธอจะปากหวานปะเหลาะผู้ใหญ่ได้เก่งเช่นนี้
หลังจากกลับมาบ้านกันได้ในช่วงบ่ายน่านน้ำก็ขึ้นไปขลุกอยู่ในห้องทำงานเพราะเขามีงานหลายอย่างที่จะต้องเร่งดูพวกเอกสารด้วยไม่ใช่งานไนไร่อย่างเดียวที่เขาต้องมีหน้าที่รับผิดชอบ ส่วนวันหนึ่งก็ง่วนอยู่กับการอ่านแชทของไออุ่นที่กำลังพิมสอนวิธีใช้เรื่องซักผ้าของบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มส่งมาให้
"แค่ซักผ้าแค่นี้ง่ายจะตาย"
หลังจากรู้วิธีใช้งานเครื่องซักผ้าถังเดี่ยวสีขาวสาวเจ้ายัดผ้าทั้งตระกร้าเข้าไปในถังปั่นและเดินหน้าระรื่นไปหยิบไม้กวาดและที่ตักขยะขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปทำความสะอาดพื้นบ้านต่อ
"วันนี้ผมจะนั่งทำงานที่นี่พรุ่งนี้คุณค่อยเข้ามาทำความสะอาดก็ได้"
น่านน้ำที่กำลังง่วนอยู่กับการหาเอกสารที่พึ่งปริ้นออกมาเมื่อวันก่อนเมื่อเห็นวันหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมไม้กวาดและที่ตักขยะจึงเอ่ยให้เธอออกไปทำงานที่อื่นก่อนเพราะจะให้เธอมายุ่มย่ามอยู่ในสายตาตอนนี้เขาน่าจะไม่มีสมาธิทำงาน
"ค่ะ..พ่อเลี้ยงกำลังหาอะไรอยู่หรอคะ"
"ใบสั่งซื้อจากต่างประเทศคุณได้เข้ามาในนี้บ้างหรือเปล่าพอจะเห็นเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษล้วนบ้างมั้ย"
"อืม..”
วันหนึ่งยืนเกาหัวแกรๆคิดอยู่ครู่หนึ่งและพอจะนึกออกว่าของที่พ่อเลี้ยงหนุ่มหาอยู่ที่ไหน
“เมื่อวานเหมือนจะเห็นอยู่นะคะ..ใช่ใบสั่งซื้อลิ้นจี่3ตันจากบริษัทxxxหรือเปล่าคะ"
"ใช่"
"อยู่นี่ค่ะ..เมื่อวานหนึ่งหยิบมาอ่านตอนพี่อุ่นพาเดินดูห้องที่ต้องทำความสะอาดค่ะ"
ว่าแล้วก็เดินไปหยิบแฟ้มเอกสารบนตู้ใหญ่หลังโต๊ะทำงานของน่านน้ำและดึงเอกสารยื่นให้พ่อเลี้ยงหนุ่ม
"ทีหลังก็อย่าซนของที่ผมวางไว้ตรงไหนให้อยู่ตรงนั้นเข้าใจหรือเปล่า"
"ค่ะ..เดี๋ยวหนึ่งขอตัวก่อนนะคะ"
คนถูกดุบุ้ยปากเล็กน้อย
"เดี๋ยว"
พ่อเลี้ยงหนุ่มได้เห็นเอกสารก็รีบเรียกคนที่กำลังจะเดินหันหลังออกไปเพราะแปลกใจว่าวันหนึ่งเข้าใจได้อย่างไรว่านี่คือสิ่งที่เขาต้องการเพราะข้อความทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ
"คะ?"
"คุณอ่านได้หมดเลยหรอ"
"ค่ะ..ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่คะ"
สาวเจ้าส่ายหัวหงึกหงักมองจ้องพ่อเลี้ยงหนุ่มพร้อมขมวดคิ้วเธอจะอ่านไม่ออกได้อย่างไรในเมื่อภาษาในการใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศก็เป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น
"กลับมานั่งตรงนี้.."
น่านน้ำเปรยสายตาให้หญิงสาวมานั่งตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา
"ผมลืมถามว่าคุณจบอะไรมา..แล้ว..เคยทำอะไรมาก่อน"
สาวเจ้านั่งลงได้น่านน้ำก็เกริ่นถามถึงประวัติของวันหนึ่งจนตัวเธอรู้ตัวเองว่าเมื่อครู่ได้ทำอะไรพลาดอย่างลืมตัวไปแล้ว
