6 เข้าใจผิด
"แม่หนูจะไปไหนล่ะน่ะ"
คำอ้ายขับรถกระบะตอนเดียวสีน้ำตาลคันเก่ามาทางที่จะไปฟาร์มแกะเมื่อเห็นมีผู้หญิงตัวเล็กเดินจูงจักรยานอยู่ตรงหน้าจึงรีบขับมาเทียบจอดถาม
"อ๋อ..คือหนึ่งจะเอาปิ่นโตไปส่งพ่อเลี้ยงที่ฟาร์มแกะน่ะค่ะคุณลุง"
วันหนึ่งหันมาตอบตอบคนที่ถามพร้อมยกมือปาดเหงื่อสองสามครั้งและส่งยิ้มร่าอย่างเป็นมิตรกับคนที่ถามด้วยรู้ว่าตอนนี้กำลังมีคนจะช่วยเหลือเธอแล้ว
"อ๋อ..หนูเองหรอที่เป็นแม่ครัวคนใหม่ลุงชื่อคำอ้ายเป็นผู้จัดการไร่..แล้วจักรยานเป็นอะไรถึงต้องจูง"
คำอ้ายมองสำรวจไปยังคนตัวเล็กผิวขาวสวมหมวกคาวบอยสีน้ำตาลเขาก็พอจะรู้แล้วว่าเธอเป็นแม่ครัวคนใหม่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มเพราะเธอสวยน่ารักเหมือนกับที่เอื้องฟ้าได้เปรยให้ฟังมิน่าลูกตนถึงได้มีท่าทีไม่ชอบใจเมื่อพูดถึงแม่ครัวคนนี้เท่าไรนัก
"หนึ่งปั่นไม่เป็นค่ะแต่พ่อเลี้ยงบอกให้เอาจักรยานไปพร้อมกับปิ่นโตหนึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมพ่อเลี้ยงไม่เอาจักรยานขึ้นรถกระบะไปตั้งแต่แรก"
"งั้นเดี๋ยวเอาขึ้นรถลุงไปลุงกำลังจะไปฟาร์มแกะพอดี"
สาวเจ้าบ่นน้ำเสียงอู้อี้ทำคำอ้ายยิ้มออกคิดว่ามีบางอย่างที่พ่อเลี้ยงหนุ่มสื่อสารกับแม่ครัวตัวเองพลาดแน่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาที่ทำตอนนี้ก็คือเปิดประตูลงจากรถแล้วช่วยวันหนึ่งเอาจักรยานขึ้นรถมาด้วยเท่านั้น
"ขอบคุณค่ะลุงคำอ้าย"
"ลุงคำอ้ายที่เป็นพ่อของเอื้องฟ้าใช่มั้ยคะ"
"ใช่เมื่อวานเห็นเมียลุงบอกว่าเอื้องฟ้ามันเห็นหนูอยู่..ถ้ามันทำกิริยาอะไรไม่ดีก็อย่าไปถือสามันนักเลยนะ"
คำอ้ายหันมาพูดกับวันหนึ่งขณะที่กำลังขับรถหลบหลุมบ่อและไม่ลืมที่จะเกริ่นกับหญิงสาวถึงเรื่องนิสัยของลูกตัวเอง
"ลุงคำอ้ายรู้ด้วยหรอคะ"
"นิสัยลูกลุงมันก็แบบนี้สอนยังไงก็ไม่หาย..ถึงแล้วหนูเอาข้าวไปให้พ่อเลี้ยงก่อนเถอะป่านนี้หิวแย่แล้วเดี๋ยวจักรยานลุงตามเอาลงไว้ข้างต้นไม้นี่ละกัน"
"ค่ะ"
วันหนึ่งรีบลงจากรถหิ้วปิ่นโตวิ่งไปหาพ่อเลี้ยงหนุ่มที่กำลังยืนกอดอกมองเธออยู่ตรงแคร่ไม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอกแกะมากนัก
"ทำไมมาเอาป่านนี้"
คนตัวโตยืนกอดอกดวงตาคมจ้องมองไปยังคนตัวเล็กที่ใส่หมวกของเขาโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตวิ่งถือปิ่นโตมาทางตัวเองด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักเพราะตอนนี้เขาหิวอยู่พอสมควร
"ขอโทษค่ะที่หนึ่งทำกับข้าวช้าไปหน่อยอีกอย่างอาจจะมาเร็วกว่านี้ครึ่งชั่วโมงถ้าไม่ต้องจูงจักรยานมาด้วยพ่อเลี้ยงจะใช้จักรยานทำไมไม่เอาขึ้นรถกระบะมาตั้งแต่แรกล่ะคะ"
สาวเจ้าทิ้งตัวนั่งบนแคร่ไม้มือน้อยรีบเปิดปิ่นโตทั้งบ่นอุกด้วยน้ำเสียงหอบเหนื่อย
"คุณจูงมา.."
คิ้วหนาขมวดรวมแทบจะผูกโบว์ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามคนที่กำลังจัดแจงอาหาร
"ค่ะ"
วันหนึ่งพยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ
"ผมไม่ได้จะใช้จักรยานแต่ให้คุณปั่นจักรยานมาส่งข้าว"
"อ้าว.. หนึ่งปั่นจักรยานไม่เป็นค่ะ..ก็นึกว่าพ่อเลี้ยงจะใช้ก็เลยจูงมาให้ดีที่เจอลุงคำอ้ายพอดีเค้าเลยช่วยเอาจักรยานขึ้นรถมาส่ง"
"ฮ่าๆๆ.."
คำอ้ายที่เดินเข้ามาหาทั้งสองหัวเราะร่ากับบทสนทนาของสองหนุ่มสาวเขาว่าแล้วสองคนนี้คงต้องสื่อสารอะไรผิดพลาดแน่นอน
"ผมว่าแล้ว..ต้องเข้าใจผิดกันแล้วคุณหมออยู่ที่ไหนล่ะครับพ่อเลี้ยง"
"อยู่ในโรงเรือนแกะครับเห็นว่ามีลูกแกะบางตัวไม่ค่อยแข็งแรงเลยต้องตรวจดูเป็นพิเศษ"
"งั้นเดี๋ยวผมไปช่วยคุณหมอก่อนนะครับ"
"ครับ"
น่านน้ำสนทนากับคำอ้ายจบเขาก็หันมาสนใจอาหารตรงหน้าต่อแต่แล้วคิ้วของเขาก็ต้องขมวดขึ้นอีกรอบ
"คุณทำอาหารเป็นแน่นะ"
"ค่ะ..แต่วันนี้หนึ่งรีบๆก็เลยออกมาผิดพลาดอย่างละนิดหน่อยแต่มันก็อร่อยนะคะพ่อเลี้ยงลองชิมดู"
วันหนึ่งตอบด้วยความมั่นใจเธอเชื่อว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มจะต้องประทับใจในฝีมือของเธอไม่มากก็น้อยเพราะเธอยังอดภูมิใจกับฝีมือตัวเองไม่ได้เลย
"นิดหน่อย..ปลาไหม้ไปทั้งแถบ..ส่วนข้าวต้มข้าวก็ยังไม่สุกเลยข้าวสวยนี่ก็แฉะเกินไป..กะหล่ำปลีนี่ก็ไม่สุก"
เขามองปราดเดียวก็รู้ว่าอาหารที่หญิงสาวทำมาจะอร่อยหรือไม่อร่อยไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเขาตอนนี้ไปเอาความมั่นใจในฝีมือตัวเองมาจากไหน
"เอ่อ..หนึ่งขอโทษค่ะพ่อเลี้ยงครั้งหน้าหนึ่งจะตั้งใจทำให้ดีขึ้นกว่านี้ค่ะ..ปลาอีกด้านไม่ไหม้ทานด้านนี้นะคะเดี๋ยวหนึ่งแกะให้ค่ะ..ส่วนกะหล่ำปลีที่พ่อเลี้ยงบอกว่ามันไม่สุกหนึ่งตั้งใจให้เป็นแบบนี้ค่ะเพราะผักนี้ทานกรอบๆมันอร่อยดีนะคะ..แหะๆ"
"กลับไปที่บ้านกับผมแล้วไปทำกับข้าวใหม่"
สาวเจ้าที่ยิ้มแห้งอยู่คราแรกหุบยิ้มแทบไม่ทันที่จู่ๆพ่อเลี้ยงหนุ่มก็รีบเก็บปิ่นโตให้มันอยู่ในเถาดังเดิมและลุกเดินหนีเธอไปที่รถกระบะหน้าตาเฉย
"ห้ะ..มันทานได้อร่อยด้วยนะคะพ่อเลี้ยง"
วันหนึ่งบุ้ยปากบ่นอู้อี้เธออุตส่าห์ตั้งใจทำอาหารตั้งนานไม่คิดว่าน่านน้ำจะไม่ยอมแตะสักคำเช่นนี้
"ตามมาเร็วๆ"
คนที่กำลังยกจักรยานขึ้นท้ายกระบะรีบเรียกสาวเจ้าที่ยังนั่งจมอยู่ที่แคร่ไม้ให้รีบตามเขามาจะได้รีบกลับไปที่บ้าน
“หนึ่งขอไปดูลูกแกะก่อนได้มั้ยคะ”
“กลับไปทำกับข้าวให้ผมใหม่ก่อน..ขึ้นรถ”
วันหนึ่งหน้ามุ่ยมองตามหลังคนยื่นคำขาดที่กำลังเปิดประตูรถตาละห้อยและแล้วเธอก็ต้องยอมกลับไปแต่โดยดีโดยที่ก็ยังไม่รู้ว่าหากทำกับข้าวให้เขาใหม่แล้วสภาพมันจะเหมือนเดิมหรือเปล่า
“หืม..”
น่านน้ำเข้าบ้านมาได้เขาก็ต้องรีบวิ่งเข้าไปในครัวเพราะกลิ่นแก๊สเตะจมูกตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในบ้านไม่กี่ก้าว
“ไปไหนคะ”
คนตัวเล็กถอดหมวกเก็บที่เดิมได้ก็รีบวิ่งกรูตามพ่อเลี้ยงหนุ่มไปติดๆ
“คุณลืมปิดแก๊สได้ยังไง”
“เอ่อ..”
วันหนึ่งมองคนที่กำลังปิดวาร์วถังแก๊สด้วยสีหน้าแห้งเหือดและแล้วก็เป็นอีกเรื่องที่เธอทำพลาด
น่านน้ำรีบเปิดหน้าต่างประตูแทบทุกบานให้แก๊สที่ลอยอยู่ในอากาศระบายออกไปให้เร็วที่สุดแล้วจึงเดินดุ่มออกมานั่งหน้าบ้านด้วยสีหน้าค่อนข้างไม่สบอารมณ์
“ดีที่เรารีบกลับกันมาก่อนไม่อยากจะคิดว่าถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น..ผมว่าผมคงต้องพิจารณาคุณใหม่แล้วล่ะ”
คนตัวโตนั่งแหมะที่เก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ก่อนจะบ่นอุกให้คนที่กำลังเดินตามมาได้ฟังดีที่เขากลับมาที่นี่เร็วไม่อยากจะคิดว่าถ้านั่งอยู่ที่ฟาร์มแกะนานกว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น
“คือ..อย่าไล่หนึ่งออกเลยนะคะ”
คนตัวเล็กรู้ดีว่าที่น่านน้ำพูดคืออะไรเธอหน้าเสียนั่งฟุบลงตรงหน้าพ่อเลี้ยงหนุ่มกอดเกาะขาเขาเอาไว้แน่น
“ทำอะไรของคุณลุกขึ้นมา”
“หึ”
น่านน้ำพยายามปรามคนตัวเล็กให้หยุดการกระทำแต่สาวเจ้าก็ยังคงส่งสายตาละห้อยส่ายหัวหงึกหงักไม่ยอมลุกง่ายๆเพราะไม่อยากออกจากที่นี่ไปตอนนี้
