บทที่ 2 แรกพบเจอ
แพตตี้กลับมาถึงร้านดอกไม้ก่อนวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง และล้มตัวลงบนเตียงหนานุ่ม ซบหน้าหวานกับหมอนใบใหญ่ ปล่อยน้ำตาไหลรินด้วยอารมณ์เศร้า
“ทำไมพี่ชนต้องทำแบบนี้กับแพตด้วย” มือเรียวกำผ้าปูเตียงอย่างโกรธเคือง
ผ่านไปสักพักแพตตี้ผล็อยหลับอย่างง่ายดายด้วยความเหนื่อยล้ากอปรกับความเสียใจ
นับจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์หญิงสาวยังคงรู้สึกเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมาก แต่อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็พยายามทำตัวเข้มแข็ง ไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็น ทว่าพออยู่คนเดียวมักจะเผลอร้องไห้ประจำ
“เก็บร้านได้เลย” เสียงหวานเอ่ยบอกกับลูกน้องในร้าน
“เอ่อ พี่แพตคะ นี่เพิ่งจะห้าโมงเย็นเองนะคะ” ปกติร้านจะปิดสองทุ่มจึงค่อนข้างงุนงงกับคำสั่งนั้น
“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้พี่อยากพักแล้ว” ส่งยิ้มอ่อนแก่คนตรงหน้า จากนั้นยกเท้าไปเก็บพวกกระถางดอกไม้ที่วางประดับหน้าร้านเข้ามาข้างใน
ท่าทางหมองเศร้าของหญิงสาว สร้างความแปลกใจแก่ลูกจ้างในร้าน ทว่ากลับไม่มีใครกล้าเอ่ยถามก่อนช่วยเก็บร้านจนเสร็จและต่างก็แยกย้ายกันกลับ
แพตตี้ล้มตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มในห้องนอน นัยน์ตาคู่หวานมองเพดานห้องสีขาวล้วนอย่างหดหู่
“เจ็บจัง เจ็บไปหมดแล้ว” มือเรียวยกขึ้นมาทาบอกข้างซ้าย หลายวันที่ผ่านมานี้อุตส่าห์คิดว่าจะลืมเขาได้แล้ว สุดท้ายยังคงนึกถึงเหมือนเดิม
แม้ตอนนี้จะไม่ได้ร้องไห้เหมือนวันแรก ๆ แต่ยังคงรู้สึกปวดหนึบตรงหัวใจไม่เปลี่ยน
“เฮ้อ...” มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลางเข้าแอพพลิเคชั่นหนึ่ง ทันใดนั้นมีโฆษณาเด้งขึ้นมา
“ไนต์คลับเหรอ” เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว จึงรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที
“นั่นสิ จะเสียใจทำไม เที่ยวดีกว่า” นี่เป็นครั้งแรกจะเที่ยวสถานที่บันเทิงในยามค่ำคืนเช่นนี้
แพตตี้กระโดดลงจากเตียงตรงไปยังตู้เสื้อผ้า เธอหยิบชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำยาวเหนือเข่าขึ้นมาสวมใส่ ก่อนแต่งหน้าจัดเต็มด้วยการทาลิปสติกสีแดงเลือดนก
“นี่เรางั้นเหรอ” เธอหมุนตัวหน้ากระจกบานใหญ่สองสามรอบ เมื่อมั่นใจมากพอก็ตรงไปยังไนต์คลับ
เท้าเล็กที่ก้าวสู่ด้านในของไนต์คลับถึงขั้นหยุดชะงัก เพราะบรรยากาศภายในคึกคักเต็มไปด้วยแสงไฟหลากหลายสี ผู้คนมากมายกำลังโยกย้ายไปมาตามจังหวะเพลงด้วยอารมณ์ครึกครื้น
“จะไหวไหมเนี่ย” พยายามเบียดตัวเข้าด้านในอย่างทุลักทุเล
ดวงตากลมโตมองรอบ ๆ กายตนเอง จากนั้นย่างเท้าเดินไปโซนเคาน์เตอร์บาร์และสั่งเครื่องดื่มเพราะรู้สึกวิงเวียนจนอยากอาเจียนเหลือเกิน
ตัดมายังมุมหนึ่งภายในไนต์คลับ ที่เป็นห้องทำงานของนิโคลัสตกแต่งด้วยสไตล์หรูหรา เน้นโทนขาวดำ ซึ่งเจ้าของใบหน้าหล่อกำลังกวาดสายตาอ่านตัวอักษรในแฟ้มเอกสาร
“นายครับ”
“มีอะไร” แหงนหน้ามองบอดี้การ์ดคนสนิท
“ผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่ครับ ตอนนี้อยู่โซนเคาน์เตอร์บาร์”
“เฮอะ! ไม่คิดเลยว่าจะมาที่นี่ แต่ก็ดีไม่ต้องเสียเวลาไปหาด้วยตัวเอง” นิโคลัสเผยยิ้มอย่างพึงพอใจ “ฉันจะไปหาผู้หญิงคนนั้นเดี๋ยวนี้เลย”
ชายหนุ่มไม่รอคำตอบจากบรูซ คนใจร้อนรีบมุ่งไปสถานที่ที่ลูกน้องแจ้งมา ทันทีมาถึงพบกับแพตตี้นั่งหันหลังให้เขา เธอแต่งกายด้วยเดรสดำ โชว์แผ่นหลังขาวเนียน
“มาคนเดียวเหรอครับ” นิโคลัสนั่งข้างหญิงสาวพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“นายเป็นใคร!” คนเริ่มเมามองข้างกายครู่หนึ่งแล้วหันมาสนใจดื่มเหล้าต่อ แถมไม่แยแสชายหนุ่มอีกต่างหาก
“ผมแค่อยากทำความรู้จักได้ไหมครับ” ว่าแล้ว มองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าก่อนมาหยุดยังกรอบหน้าสวย
“ฉันไม่อยากรู้จักใครทั้งนั้นแหละ” เธอตอบอย่างไม่สบอารมณ์ คว้าแก้วดื่มเหล้าต่อ
“ทำไมล่ะครับ ผมหล่อไม่ถูกใจคุณเหรอ”
“รำคาญชะมัด อย่ามายุ่งได้ไหม” คนเมาโวยวายใส่ จากนั้นพยุงกายลุกขึ้นยืนด้วยสภาพโซซัดโซเซ แพตตี้เดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็รู้สึกวูบ
“ระวังหน่อยสิครับ” นิโคลัสรับร่างคนเมาที่กำลังจะล้มคาพื้นได้ทัน
“ทำไมถึงทำกับแพตแบบนี้” อ้อมแขนแสนอบอุ่นของเขาทำเอาคนเมาบ่อน้ำตาแตก ซบหน้าลงบนอกล่ำสัน
“คุณครับ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“แพตยังดีไม่พอเหรอคะ ทำไมถึงใจร้ายกับแพตแบบนี้” ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาแหงนมองคนตัวโต
“อย่าร้องไห้เลยครับ” นิ้วยาวช่วยซับน้ำตาข้างแก้มนวลอย่างอ่อนโยน ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงไม่สามารถปล่อยวางกับน้ำตาบนใบหน้างดงามของเธอได้
“อยู่กับแพตก่อนนะคะ” หญิงสาวซบหน้ากับอกกว้างอีกครั้ง เพียงไม่นานก็ผล็อยหลับ
“คุณ คุณ” นิโคลัสเรียกคนในอ้อมกอดสองสามที เมื่อไม่มีการตอบกลับจึงต่อสายหาลูกน้องคนสนิท จากนั้นช้อนร่างเล็กไปบริเวณหน้าไนต์คลับที่บรูซจอดรถรออยู่
“ไปไหนครับ” เอ่ยถามผู้เป็นนายทันทีที่เข้ามานั่งในรถ
“เพนท์เฮ้าส์”
“ครับ” ตอบรับคำสั่งเสร็จ บรูซออกรถไปจุดหมายปลายทางทันใด
ระหว่างรถหรูเคลื่อนตัวตามท้องถนน มาเฟียหนุ่มก้มมองคนที่นอนซบหน้ากับอกแกร่งอย่างพิจารณา โดยไม่เปล่งประโยคใดนอกจากสังเกตอย่างเงียบ ๆ
“นายจะทำยังไงกับเธอคนนั้นดีครับ”
“ฉันจะทำแบบเดียวกับที่เธอเคยทำไง” สายตาคมกริบจ้องมองคนหลับไม่ได้สติด้วยแววตาเคียดแค้นปนชิงชัง
“ถึงแล้วครับ”
“ฉันจะพาผู้หญิงคนนี้เข้าไปข้างใน แกกลับไปดูงานที่ไนต์คลับต่อเถอะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นสามารถตัดสินใจเองได้เลย” เอ่ยจบ นิโคลัสอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวเข้าด้านในเพนท์เฮ้าส์
ร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงขนาดคิงไซซ์ ก่อนเจ้าของห้องจะนั่งลงข้างกายคนหลับไม่ได้สติ นัยน์ตาดำขลับกวาดมองดวงหน้าสวย แอบประหลาดใจเล็กน้อย คาดไม่ถึงเธอจะจัดจ้านขนาดนี้ เพราะในรูปที่เคยเห็นไม่ใช่แบบนี้ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“อย่าคิดนะว่าผมจะหลงกลผู้หญิงแบบคุณ”
“ฮึก พี่ชนคนใจร้าย” คนเมาละเมอถึงอดีตชายคนรัก สร้างความงุนงงไม่น้อยแก่นิโคลัส
“พี่ชน คือใครวะ” คิ้วดกดำเลิกขึ้นเชิงสงสัย “คงจะเป็นผู้ชายคนใหม่ของเธอสินะ” คิดได้ดังนั้นก็แสยะยิ้มมองคนหลับอย่างรังเกียจ
นิโคลัสทิ้งให้แพตตี้หลับอยู่ในสภาพนั้น แล้วตัวเองออกจากห้องไป โดยไม่สนใจว่าเธอจะเป็นอย่างไร
ตะวันทอแสงในยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง ปลุกคนหลับตื่นจากการหลับใหล เปลือกตาของแพตตี้ปรือตาขึ้นช้า ๆ เพื่อปรับสายตาให้คุ้นชินกับแสงแยงตา
เพดานห้องที่ไม่คุ้นตาสำหรับหญิงสาว ทำเธอรีบยันกายลุกขึ้นนั่งด้วยอาการปวดศีรษะ
“ที่นี่ที่ไหน” สะบัดหัวเล็กไปมาเบา ๆ
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
“นายเป็นใคร” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นบริเวณประตูห้อง แพตตี้หันขวับมองอย่างไว
“ผมเป็นคนที่พาคุณมาที่นี่ไงครับ”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้เธอก้มมองตัวเองเพื่อสำรวจร่างกาย ก่อนพบว่ายังอยู่ในสภาพเสื้อผ้าครบชิ้นทุกอย่าง จากนั้นถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างโล่งอก
“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณหรอกครับ” ท่าทางของอีกคน ทำให้นิโคลัสอดไม่ได้จะสวนกลับ
“ใครจะไปรู้ล่ะ” เธอไม่ไว้ใจผู้ชายคนไหนทั้งนั้น แม้กระทั่งคนคบมานานอย่างชนาธิปยังหักหลังกันได้
“เมื่อคืนผมเป็นคนช่วยคุณไว้นะครับ”
“เรื่องเมื่อคืนฉันขอบคุณค่ะ งั้นขอตัวกลับก่อน” เธอไม่อยากอยู่กับเพศตรงข้ามสองต่อสองไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะคนแปลกหน้า
“เดี๋ยวสิครับ” นิโคลัสเดินไปขวางทางคนกำลังจะวิ่งไปที่ประตู
“นี่นายจะเอายังไงกันแน่”
“คุณตอบแทนคนที่ช่วยคุณแบบนี้เหรอ”
“เอ่อ คือ...” เมื่อถูกโต้กลับมาเช่นนั้น แพตตี้ถึงกับไปไม่เป็น
“คุณไปอาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”
แพตตี้ไม่ทันตอบกลับเป็นจังหวะเดียวกันเสียงเคาะประตูดังขึ้น นิโคลัสเปิดประตูไปรับถุงกระดาษบรรจุเสื้อผ้าจากลูกน้องคนสนิทแล้วยื่นให้เธอ
“ถ้าเสร็จแล้วรีบตามมานะครับ”
หญิงสาวก้มหน้ามองดูถุงกระดาษในมือพลางปรายตามองแผ่นหลังกว้างของอีกคนอย่างไม่เข้าใจ
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย”
