บท
ตั้งค่า

3 กฎของความรู้สึก[1]

ไอแพดในมือหนาปรากฏรายได้ในมาตรานี้สูงลิบของการขนส่งยาเสพติดตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจสำหรับราฟาเอลนัก ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวที่ราฟาเอลจะพักผ่อน ไร้ซึ่งเอริดาอยู่ด้วยเนื่องจากว่าเขาให้หมอประจำเรือสำราญมาตรวจอาการของเธอ ตามร่างกายบอบช้ำไปหมดทั้งตัวจนเขาเกรงว่าภายในเจ้าหล่อนอาจจะร้าวระบมไปมากกว่านี้ มาเฟียหนุ่มเป็นห่วงว่าเธอออาจจะได้รับความเจ็บปวดเกินกว่าจะรับไหวจากการกระทำอันดิบห่ามของตน

ห่วง? เขาใช้คำว่าห่วงกับเอริดางั้นเหรอ?

“จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว”สบถกับตัวเองก่อนจะดึงแว่นกันแดดสีดำวางไว้ข้างกาย ไวน์สีแดงถูกกระดกกลืนลงคอรวดเดียวจนหมดแก้วเขาจะต้องมานั่งคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนกันนะ...

...อ้อ! ตอนเจอแม่ตัวปัญหานามว่าเอริดาไงล่ะ!

ทั้งที่คราแรกเขาน่าจะปลิดชีวิตเธอซะตอนที่เจอกันในห้องเก็บของซะ ตอนนี้เธอกำลังก่อกวนความรู้สึกและหัวใจของเขา มิหนำซ้ำใบหน้าหวานที่เงยแหงนครวญครางบนร่างกายที่กระหน่ำสวนแทงเจ้าหล่อนจนสะบัดเอวน้อยร่อนสู้จนแทบขาดใจยังผุดเข้ามาในหัวเป็นฉากเป็นตอน ให้ตายสิวะ! ภาพร่วมรักอันแสนเผ็ดจนเข็ดฟันของแม่กวางน้อยยังฉายวนอยู่ในหัวสมองไม่เลือนลางและจางหายไปไหน

“เธอต้องรับผิดชอบที่ทำให้จิตใจฉันวุ่นวายเอริดา!!”หมายหัวคนตัวเล็กทั้งที่เจ้าหล่อนไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่น้อย ทว่าราฟาเอลก็โยนความผิดให้เธอเพราะสาเหตุเกิดก็มาจากเธอทั้งนั้น

เอริดานอนนิ่งๆ บนเตียงผู้ป่วยเพื่อตรวจเช็คร่างกาย ยอมรับจากใจเลยว่าเธอหวั่นไหวไม่น้อยเมื่อเจอคุณหมอสุดหล่อ แถมยังพูดจานุ่มนวลและอากัปกิริยาทุกอย่างช่างดูอ่อนโยน จนบางครั้งที่ฝ่ามือของเขาแตะสัมผัสกับผิวหนังก็ทำให้ใจดวงน้อยไหวยวบลงไปกองที่ตาตุ่ม

“นอกจากรอยฟกช้ำ อาการโดยรวมไม่น่าเป็นห่วงนะครับ แต่หมอจะให้ยาแก้อักเสบไปทานก็แล้วกันนะ”ไม่ต้องซักถามอาการว่าไปเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหล่อนกันแน่ รอยแดงจ้ำไปทั่วกายคงเป็นรอยที่เจ้าข้าวเจ้าของของสาวน้อยคนนี้ตีตราเอาไว้

“ค่ะคุณหมอ~”เอริดาเปรยยิ้มหวานไปให้แทนคำขอบคุณทว่าทำให้คุณหมอถึงกับหัวใจสั่นไหวระรัว จนต้องกระแอมกระไอแก้เก้อ เขาพยายามชี้แนะการรักษารอยฟกช้ำแก่เธอ แต่มิวายจะวกกลับมาถามคำถามที่สามารถรู้จักเธอให้มากขึ้นกว่าเดิม

“มีอาการเวียนศีรษะบ้างไหมครับ อยากจะอาเจียนหรือเปล่า?”

“ไม่ค่ะแต่รู้สึกอ่อนเพลียนิดหน่อย แล้วก็ปวดเมื่อยตามร่างกายค่ะ”ตอบไปตามความจริงเพราะตอนนี้เธอรู้สึกอ่อนเพลีย แต่ไม่มีอาการวิงเวียนศีรษะหรืออยากจะอาเจียนใดๆ ทั้งสิ้น

“งั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะครับ พักผ่อนเยอะๆ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ ร่างกายจะดีขึ้นเองครับ”

“ขอบคุณคุณหมอมากๆ นะคะ”ใช้เวลาในห้องพยาบาลเกือบหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่เอริดาจะเดินออกมาจากห้องนั้นและตรงกลับไปยังห้องนอนในทันที เพราะรู้สึกไร้เรี่ยวแรงจนต้องทิ้งกายลงนอนปิดเปลือกตาลงเพื่อหลับให้เต็มอิ่ม

ครื้น~

พายุร้ายโหมกระหน่ำจนคนตัวเล็กกรี๊ดลั่นไปทั่วห้องนอนขนาดกลาง เพราะคลื่นที่ซัดขึ้นมาบนเรือสำราญจนประตูกระจกบริเวณ ตรงระเบียงแตกละเอียด เธอพยายามหลีกหนีจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่กำลังโอบอุ้มร่างของเธอให้จมดิ่งสู่ก้นมหาสมุทร

กรี๊ด!!!

เสียงกรีดร้องของเอริดาดังสะนั่นหลังจากนั้นร่างบางก็สะดุ้งตื่นด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต ถึงแม้อากาศจะเย็นสบายแต่ทว่าฝันร้ายก็ทำให้เหงื่อกาฬผุดซึมไปตามรูขุมขนตามร่างกาย

“ฝันบ้าอะไรเนี่ยน่ากลัวจัง”เสียงหวานบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะปาดหยาดเหงื่อที่ผุดซึมบริเวณหน้าผากเกลี้ยงเกลา สายตาหวานฉ่ำชำเลืองมองนาฬิกาตั้งโต๊ะ

“หกโมงแล้วเหรอเนี่ยเผลอหลับนานขนาดนั้นเชียว~”เพราะเห็นว่าดวงตะวันกำลังลาลับขอบฟ้าแล้ว เอริดาจึงลุกลี้ลุกลนดีดตัวขึ้นจากเตียงนอนอันแสนนุ่มนิ่ม และพาตัวเองไปชำระร่างกายด้วยน้ำอุ่นเพื่อเป็นการผ่อนคลาย

ใช้เวลาไม่นานเธอก็มาประทินโฉมอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ วันนี้ร่างบางสวมใส่ชุดเดรสที่มียาวเกือบคลุมหัวเข่า ก่อนจะรวบผมเป็นหางม้าเผยให้เห็นใบหน้าหวานมากยิ่งขึ้น มิหนำซ้ำยังทำให้เจ้าหล่อนเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่มีชีวิตอีกต่างห่าง

แอด~

เสียงประตูเปิดออกก่อนจะเห็นราฟาเอลจะเดินผ่านด้านหลังเธอไป โดยไม่มีท่าทีว่าจะเกรี้ยวกราดหรือตวาดเสียงใส่เธอแม้แต่น้อย ก่อนที่เอริดาจะหันมองร่างสูงที่ล้มตัวลงบนที่นอน

คนตัวเล็กค่อยๆ เข้าไปใกล้ๆ เขาก่อนจะหย่อนสะโพกข้างคนตัวโตกว่าและขยับเข้าไปใกล้เขาอีกนิด เพราะเกรงว่าจะเบียดคนที่เพิ่งปิดเปลือกตาลงจนทำให้เขาหงุดหงิดและลุกขึ้นมาตวาดเธอเอาได้

“ว๊าย!!”เสียงหวีดร้องของเอริดาดังขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ท่อนแขนล่ำก็ตวัดรัดเอวคอดกิ่วเสียจนเธอเสียหลักเกยทับร่างแข็งกร้าวของเขา ดวงตาสีเขียวมรกตปรือมองเธอนิ่งๆ จนไม่สามารถรับรู้ได่ว่าในขณะนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่

“หลับสบายไหม?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel