3 กฎของความรู้สึก[2]
“เอ่อ...ก็ดีค่ะ”คำถามของราฟาเอลทำให้คนที่กำลังตื่นตูมกับการกระทำเมื่อครู่ถึงกับตอบเสียงสั่นเครือ
“นวดให้หน่อยสิ...”พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ นัยน์ตาสีเขียวมรกตดูเหนื่อยหน่าย ในมือของเขายังคงกุมข้อมือเล็กเอาไว้เหมือนกำลังสื่อให้เธอรับรู้ทางสายตาว่าเขาต้องการให้เธอนวดให้จริงๆ
“นวด! นะ...นวดเหรอคะ?”
“อืม! ทำไมนวดไม่เป็นหรือไง!?”เพราะรู้ว่าคำว่านวดของเขาสื่อไปทำให้เจ้าหล่อนคิดไปต่างๆ นาๆ เขาจึงเอ่ยถามออกไป ยิ่งดวงตากลมโตสั่นไหวระริกด้วยความขลาดกลัวก็ยิ่ง...น่ารักเข้าไปใหญ่~
“อีกแล้วเหรอคะ!? แต่ริด้ายังระบมไปทั้งตัวอยู่เลยนะคะ”เอริดาควบคุมน้ำเสียงพร้อมกับบอกเขา เธอไม่กระจ่างแจ้งกับคำว่านวดของเขาเล่า นวดกับนาบสิไม่ว่าจะมีอะไรอีกเล่าเขาน่ะหื่นจะตาย
“เด็กบ้าอะไรพูดจาลามก...เธอคิดว่าฉันสวาทในตัวเธอมากหรือยังไง”อยู่กับเธอคืนเดียวไม่รู้เรี่ยวแรงที่มีมหาศาลมลายหายไปไหนหมด วันนี้ทั้งวันก็กระวนกระวายเลยนั่งจิบไวน์ จนกระทั่งเดวิดเดินมารายงานว่าเอริดากลับเข้าห้องแล้ว หลังจากนั้นเขาก็เดินดุ่มๆ มาด้วยความว่องไว ก็เห็นเธอหลับปุ๋ยจนไม่อยากปลุกขึ้นมาทะเลาะเพราะส่า...
...สงสาร~
“ริด้าไม่รู้นี่คะ...สรุปจะให้นวดตรงไหนคะ?”เป็นครั้งแรกที่เห็นใบหน้ากระเง้ากระงอดของเธอ จนราฟาเอลต้องขบกรามแน่นข่มความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ เขาอยากจะฟัดเจ้าหล่อนอีกแล้ว คนอะไรน่ารักเป็นบ้า
“นวดขมับให้หน่อย ไมเกรนขึ้น!”ความเป็นจริงแล้วราฟาเอลไม่ได้มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือเป็นไมเกรนแต่อย่างใด เขาเพียงอยากให้เอริดานวดคลึงขมับให้ก็เท่านั้น ฤทธิ์ของไวน์ทำให้รู้สึกมันมัวไม่ใช่น้อยจนเขาอยากจะหลับสักงีบ
“ได้ค่ะงั้นริด้านวดให้นะคะ”ไม่อยากจะขัดใจเพราะกลัวเขาจะหงุดหงิด
“หิวไหม วันนี้ฉันไม่ไปห้องอาหารนะ”
“ดะ...เดี๋ยวริด้าไปเองก็ได้ค่ะ”เธอตอบกลับอย่างไม่เกี่ยงงอน ถึงแม้นว่าจะมีความหวาดกลัวเล็กน้อยหากก้าวออกจากห้องนี้ไปโดยไร้ชายหนุ่มไปด้วย แต่ถึงยังไงเธอก็มิสามารถต้านทานความหิวไปได้ ท้องน้อยๆ คงร่ำร้องหาอาหารแสนอร่อยจนอดทนไม่ไหวแน่
“ไม่ต้องไป เดี๋ยวให้แม่บ้านมาเสิร์ฟในห้อง”ราฟาเอลเลือกที่จะให้แม่บ้านนำอาหารมาให้เอริดาและเขาในห้องพักมากกว่าให้เด็กสาวไปทานอาหารด้วยตัวคนเดียวไร้ซึ่งเขาอยู่ด้วย เพราะเกรงว่าอาจจะมีสายตาของผู้ชายทั้งหลายจ้องมองมาที่ของเล่นชิ้นใหม่ที่เขาเองรู้สึกโปรดปรานมากเป็นพิเศษ
“ก็ได้ค่ะ ขอเป็นสลัดทูน่า มันบด มันฝรั่งอบทอดแล้วก็อาหารอิตาเลี่ยนได้ไหมคะ”เอริดากระพริบตาปริบๆ อย่างออดอ้อน เธออยากไปห้องอาหารและสั่งอาหารเองเสียมากกว่า แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจราฟาเอลเช่นกันเพราะมิเช่นนั้นเธอได้นอนหยอดข้าวต้มบนเตียงเป็นเดือนแน่ๆ
“อืม...”เธอกินจุแต่ก็ไม่แปลกเห็นตัวเล็กๆ แบบนี้กินเขาจนสุดลำรักได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ให้ตายเถอะ! เมื่ออยู่กับเอริดาก็อดคิดเรื่องใต้สะดือไม่ได้จริงๆ ทั้งที่เขาก็ไม่เคยมานั่งคิดทบทวนเรื่องเซ็กส์กับผู้หญิงคนไหนหลังจากผ่านการปลดปล่อยเพื่อผ่อนคลายและสนุกไปกับพวกหล่อนเท่านั้น
“ถ้าริด้าทำอะไรผิดพลาดขอโทษด้วยนะคะ อุ้ย~”ชุดเดรสถูกตวัดขึ้นในขณะที่นิ้วกลางทั้งสองข้างของเอริดากำลังนวดคลึงเบาๆ บริเวณขมับแกร่ง ทว่ามือหนากลับตะปบลูบคลำสะโพกงอนก่อนจะปลดแพนดี้ลายลูกไม้สีดำลง
“ขอสำรวจหน่อยว่าตรงนี้บาดเจ็บสาหัสขนาดไหน”นวดได้ไม่นานเขาก็พร้อมจะนาบเธอแล้ว ทราบเหตุผลหลักแล้วว่าทำไมเอริดาถึงอ่อนปวกเปียกจนต้องไปห้องพยาบาล สาเหตุก็เพราะเขา...แต่ไม่สิเพราะเธอต่างหากที่ทำตัวน่าฟัดตลอดเวลาชะมัด!
“อุ้ย! เจ็บค่ะ”
“แบบนี้ล่ะยังเจ็บอยู่ไหม?”เขาจงใจสอดนิ้วกลางเข้าไปในโพรงสวาทที่ยังร้าวระบม ต้องขอบคุณที่มันยังคงแน่นกระชับถึงแม้นว่าพรหมจรรย์จะถูกเขาทำลายมันจากโลกนี้ไปแล้ว
“ซี๊ด!! เจ็บอยู่ค่ะ...”ไม่ตอบเปล่ายังสูดปากครางซี๊ดเบ้หน้าจนราฟาเอลลอบถอนหายใจ คืนนี้เขาน่าจะอดแหงๆ ต้องพยายามแค่ไหนกันนะหากต้องนอนกับเอริดาคืนนี้โดยไม่ทำอะไรกับร่างน่าฟัดของเจ้าหล่อนเลย
ครานี้เอริดาถูกผลักให้นอนลงแทนที่เขา จนเธอต้องนอนแน่นิ่งไม่กล้าไหวติ่งใดๆ ในขณะเดียวกันก็รับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ คละเคล้าไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ กระทบพวงแก้มใสจนเธอทำอะไรไม่ถูก
“วันหลังห้ามใส่กระโปรงอีกนะ”
“ตะ...แต่ริด้าไม่มีชุดใส่แล้วนะคะ ขาสั้นลายพี่หมีก็ไม่ให้ใส่ ชุดเดรสก็ไม่ให้ใส่ จะให้ริด้าเดินแก้ผ้าหรือไงคะ?”เสียงหวานถามกลับแต่ทว่าช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความไม่เข้าใจ เธอไม่สามารถรับรู้ได้หรอกว่าเขาจะพอใจที่เธอแต่งตัวแบบไหน เพราะตั้งแต่แตกเนื้อสาวจะสวมใส่เสื้อผ้าชุดไหนก็มีแต่คนบอกว่าน่ารักน่าเอ็นดูไปซะหมด
“ก็ลองดูสิ!”พ่อจะฟาดก้นสวยๆ ขาวๆ ให้ลายเป็นริ้วสีแดงเลยคอยดูสิ แต่ถ้าแก้ในห้องโดยมีเขาอยู่ด้วยก็ตามสบายเลยแม่คุณจะโลมเลียด้วยสายตาและปลายลิ้นจนเดินออกจากห้องไม่ไหวเลย
“อุ้ย! คุณราฟริด้าเพิ่งแต่งตัวเสร็จจะถอดออกทำไมคะ”อยากจะยื้อการกระทำของเขา แต่มีเหรอจะขัดใจคนอย่างราฟาเอลได้ โอ้ว~ แต่ตอนนี้บราเซียลายลูกไม้กำลังถูกเขาปลดให้พ้นกายแล้ว
“นิ่งๆ เถอะถ้าไม่อยากให้แผลเดิมมันสาหัสไปมากกว่านี้”ทันทีที่ร่างบางเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้า คนที่มีอาการสะลึมสะลือเพราะฤทธิ์ จากไวน์ก็ทำการใช้สายตาสำรวจความเสียหายของกายงาม ก่อนที่ต่อมาเขาจะเคลื่อนกายลงต่ำ จับหัวเข่ามนทั้งสองข้างให้แยกออกจากกันเพื่อส่องสำรวจกายสาวที่ยังแดงก่ำเพราะเกิดการอักเสบ
โธ่วเอ๊ย! เขาโหดร้ายกับเจ้าหล่อนชะมัด
“กินยาหรือยัง?”ถามด้วยเสียงหวนแต่ทว่าภายในใจกลับรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยคนตัวเล็กโดยไม่อยากแสดงปฏิกิริยาเช่นนั้นออกไปให้เจ้าหล่อนได้ใจ จึงใช้ความเย็นชากลบเกลื่อนความรู้สึกดังกล่าว
“ยังเลยค่ะ พอกลับมาถึงห้องริด้าก็เผลอหลับนานหน่อยค่ะ”ถึงแม้จะกระดากอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี้ เอริดาก็ทำได้เพียงนอนแน่นิ่งโดยลอบสังเกตสายตาคมที่จ้องมองกายสาวของเธออยู่เช่นนั้น ราวกับเป็นนักสำรวจมือหนึ่งของโลกก็ไม่ปาน
“อืม...งั้นหลังทานอาหารก็ทานยาซะ ฉันไม่อยากให้นางบำเรอมาตายที่เตียงของฉัน”ถ้อยคำของราฟาเอลช่างเสียดแทงเข้าไปในหัวใจดวงน้อยแทบแหลกสลายเป็นจุล คราแรกเธอคิดว่าเขาเป็นห่วงเธอเสียอีก เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอล้วนมาจากการกระทำอันแสนป่าเถื่อนของจอมเย็นชาผู้ไร้หัวใจทั้งนั้น
“ค่ะ~”เอริดาขานรับคำสั่งของเขาโดยใช้โทนเสียงที่ปกติ เธอไม่กล้าแสดงท่าทีกระเง้ากระงอดใส่เขาเพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่มีสิทธิ์
ก๊อกๆ
