2 อยากได้ ต้องได้[1]
ทันทีที่ท้องอิ่มเอริดาก็กลับมายังห้องที่ลูกน้องของราฟาเอลนำ กระเป๋าเดินทางมาไว้ให้ภายในห้อง และนั่นก็คือห้องนอนของเขานั่นเอง และเจ้าของบริเวณพื้นที่ส่วนตัวก็เดินตามเธอมาติดๆ จนประตูห้องปิดลง
ปัง!
เสียงดังสนั่นเมื่อครู่เพราะราฟาเอลใช้เท้าหนักปิดประตูลงจนร่างบางสะดุ้งเฮือก เอริดาค่อยๆ นั่งลงบนเตียงนุ่มราวกับว่าวันนี้เธอจะได้เอนหลังลงนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่โดยที่หญิงสาวไม่กล้ามองคนตัวโตเดินออกไปสูบบุหรี่หน้าระเบียงจนทำให้ได้กลิ่นไอทะเลเข้ามาภายในห้อง
“คุณราฟขา~”ครืด!! เอริดาเรียกขานชื่อเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทว่าไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ประตูเลื่อนกระจกก็ถูกปิดลงด้วยการกระทำของเขา
“...”ราฟาเอลได้ยินที่เธอเรียกเขา แต่ทว่ากลัวว่ากลิ่นบุหรี่ที่ตนกำลังจุดสูบนั้นจะเข้าไปรบกวนออกซิเจนการหายใจของเธอจึงเลือกปิดประตูห้องเอาไว้
ร่างสูงสง่ายืนมองออกไปมองผืนมหาสมุทรอันแสนกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา หัวใจของเขามันเริ่มเต้นแรงขึ้นตั้งแต่ตอนไหนกันนะ ปกติแล้วจอมเย็นชาอย่างเขาไม่เคยรู้สึกกระชุ่มกระชวยมีชีวิตชีวาเช่นนี้มาก่อน เขาใช้ชีวิตไร้ซึ่งความรู้สึกมานานแค่ไหนกันแล้วนะ
ควันสีขาวลอยล่องไปตามสายลมทะเลที่เกรี้ยวกราดเป็นคลื่น แต่ทว่าเรือสำราญลำใหญ่สุดหรูก็ไม่หวั่น เพราะการออกแบบให้สามารถเผชิญกับทุกปัญหาบนพื้นมหาสมุทร ก่อนที่ราฟาเอลจะทิ้งก้นบุหรี่ลงถังขยะและเดินเข้ามาในห้องนอนของตนที่มีสาวน้อยนั่งอยู่บนเตียงนุ่ม
“สรุปวันนี้จะนอนกับฉัน?”เลิกคิ้วถามคนตัวเล็กหลังจากเดินมายืนตรงหน้าของเธอ
“ระ...ริด้านอนตรงโซฟาก็ได้นะคะ”เพราะเยี่ยงห่างจากเตียงไม่ไกลมีโซฟาขนาดกลางอยู่ เอริดาค่อยๆ ลุกขึ้นเพื่อไปบริเวณดังกล่าวที่เจ้าหล่อนโพล่งบอกเขาเมื่อครู่
“อุ๊ย! มะ...มีอะไรหรือเปล่าคะ?”เอริดากำลังจะเดินผ่านร่างสูงไป ทว่ามือหนากลับคว้าต้นแขนทางด้านซ้ายของเธอเอาไว้เสียก่อน ใบหน้างดงามบิดเบ้ด้วยความเจ็บปวดแต่ยังคงไม่แสดงอาการให้เขาได้เห็น
“ฉันบอกเหรอว่าจะให้นอนด้วย”ราฟาเอลถามด้วยเสียงหวน ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเจ้าหล่อนจะเจ็บปวดกับน้ำหนักมือของตนมากเพียงใด
“ได้โปรดเถอะค่ะ~ อย่าไล่ริด้าเลยนะคะ ริด้าหมดหนทางแล้วจริงๆ”น้ำเสียงหวานพยายามออดอ้อนขอร้องให้เขาเห็นใจ
“หากฉันช่วยเธอ แล้วฉันจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน...”
“ทุกอย่างที่คุณราฟต้องการค่ะ~”ถ้อยคำดังกล่าวของเอริดาเธอไม่ได้คิดไตร่ตรองแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังเอียงคอเล็กน้อยเพื่อมองหน้าคมคายที่ไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา
“ใช้สมองคิดหรือยังที่พูดออกมาแบบนั้น”นิ้วแกร่งเสยคางมนให้แหงนเงยสบนัยน์ตาคมเขารับรู้ถึงความขลาดกลัวที่มีของคนตัวเล็ก ชายหนุ่มจงใจโน้มหน้าลงต่ำให้ลมหายใจอุ่นๆ ที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์เจือจางกระทบปากบางกระจับน่าจุมพิตนั่น
“ระ...ริด้าไม่มีของติดตัวมาเลยค่ะ ตะ...แต่สัญญา...”
“จูบฉันสิเด็กน้อย!”ม่านตาสวยถึงกับเบิกกว้างด้วยความสับสนระคนงุนงง ถึงแม้เสียงของชายหนุ่มจะราบเรียบแต่ทว่าเธอกลับรับรู้ได้ว่าเขาต้องการให้เธอทำอย่างที่เขากล่าวออกมาเมื่อครู่นี้จริงๆ
หัวใจดวงน้อยเริ่มสั่นไหวขาเรียวเสลาแทบยืนทรงตัวไม่อยู่ หากเธอและเขาจูบกันเหตุการณ์เหมือนเมื่อตอนหัวค่ำจะเกิดขึ้นอีกไหมนะ เพราะมิเช่นนั้นคงยากแก่การต่อต้านเรือนร่างอันทรงพลังของเขาได้ เอริดาหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อเอวบางถูกตวัดเข้าหาเขามากขึ้น
“ก็แล้วแต่เธอก็แล้วกัน งั้นก็ออกจากห้องนี้ได้เลย~”ต้อนกวางน้อยให้จนมุมและเพื่อให้เธอยอมจำนน ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่อาจสิทธิ์ปฏิเสธเขาได้แน่นอน ในท่าทีสุขุมและไม่รีบร้อนของราฟาเอลทำให้ปากบางเบ้คว่ำราวกับจะร้องไห้ ยิ่งไปกว่านั้นคือร่างสูงก็ตระเตรียมจะผละห่าง
“ดะ...เดี๋ยวค่ะ อื้อ...”รั้งต้นคอหนาเอาไว้ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อจุมพิตบนกลีบปากหยักด้วยความไม่ประสีประสาของเธอ ทว่าราฟาเอลก็ยังรู้สึกประทับใจ งั้นเหรอ~ หึ!!! เจ้าหล่อนไม่รับรู้เรื่องเซ็กส์อันเร่าร้อนที่จะทำให้เขาพอใจเสียด้วยซ้ำ แค่แปลกที่เขาดันมีความพอใจไม่น้อยที่เธอมอบจุมพิตอันไม่ประสีประสามาให้เพื่อให้เขาเป็นคนชักนำและเป็นผู้สอนสั่ง
ริมฝีปากของคนทั้งคู่ประกบแนบชิดโดยไม่มีฝ่ายใดลุกล้ำปลายลิ้นเข้าไปชิมความหวานด้วยปลายลิ้น ก่อนที่ต่อมาเอริดาจะค่อยๆ ผละออกจากเขาอย่างช้าๆ
“ริด้าจูบคุณราฟแล้ว คราวนี้ริด้าอยู่ที่นี่ได้แล้วใช่ไหมคะ?”
