บทที่2 รักแรกพบ (2)
ไม่รู้ว่าโชคชะตากำหนด หรือกามเทพแผลงศรรักใส่ ในเมื่อได้เจอคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรง รู้สึกหวั่นไหวเมื่อเข้าใกล้ มยุราจึงรีบเก็บรายละเอียดของเทพบุตรหนุ่มรูปงามตรงหน้าเอาไว้ทันที ไม่รู้ล่ะ คืนนี้เธอจะเก็บเอาเขาไปฝันต่อ ฝันอะไรดีนะ ให้เขามาคุกเข่าขอเธอแต่งงานซะเลยเป็นไง มยุรายิ้มอย่างมีความสุข เพราะนั่นจะเป็นความฝันวิเศษสุด ๆ ที่เธอฝันมาตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่นเลยเชียวล่ะ
“แน่ใจนะครับ แต่ตอนนี้คุณมอมแมมมาก ผมควรจะรับผิดชอบคุณนะ”
“ด้วยการแต่งงานใช่ไหมคะ? อุ๊ย!” มยุรารีบเอามือปิดปากตัวเองทันทีที่เผลอพูดความคิดของตนเองออกมาให้อีกฝ่ายได้ยิน แต่เขากลับยิ้มเก๋ให้เธอหัวใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เล่นอีกสิน่า
“คุณนี่อารมณ์ดีจัง เชิญขึ้นรถก่อนดีกว่าครับ” พิรุณผายมือเชิญ พร้อมเก็บแฟ้มเอกสารที่หญิงสาวปล่อยทิ้งลงพื้นมาส่งให้ อดหัวเราะในลำคอไม่ได้ที่เห็นเธอปล่อยมุขตลกได้น่ารักขนาดนี้
“ขอบ... ขอบคุณค่ะ” มยุรายิ้มเขินรับแฟ้มมากอดไว้ จากนั้นก็เดินตามหลังหนุ่มรูปงามที่เธอถูกชะตาแต่แรกเห็นไปขึ้นรถเก๋งแคมรี่สีขาวป้ายเขียวซึ่งจอดอยู่ มัวแต่ปลื้มคนหล่อกับความมีน้ำใจของเขานี่ล่ะ เธอจึงก้าวพลาดบนพื้นต่างระดับ และนั่นก็ทำให้เธอจับกบบนถนนในทันที
“ว้าย!... โอ๊ย” มยุราอุทานด้วยความตกใจ ก่อนตามมาด้วยเสียงคราง
“ทำไมถึงซุ่มซ่ามอย่างนี้นะมยุรา!” ตำหนิตนเองพร้อมกับพยายามทรงตัวลุกขึ้น แต่เหมือนเธอจะประสบปัญหาเรื่องข้อเท้าแพลงเข้าแล้วล่ะ มยุราทำตาละห้อยมองตามแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มรูปงามที่กำลังจากไปกับละอองฝนบาง ๆ
ไม่นะ... ได้โปรดเถอะกามเทพ หากส่งเขามาเป็นเนื้อคู่ของเธอ ก็อย่าให้เขาจากเธอไปทั้งอย่างนี้เลย
สิ้นคำคร่ำครวญในใจ ผู้ที่เดินไปยังรถเก๋งซึ่งจอดทิ้งไว้ก็หันหลังกลับมา พอพบว่าหญิงสาวยังนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนถนน ทำหน้าจ๋อยเหมือนจะร้องไห้ เขาก็รีบวิ่งกลับมาด้วยสีหน้าตกใจพร้อมช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นทันที
เพียงวางมือบางลงบนมือใหญ่อันอบอุ่นเท่านั้น กระแสบางอย่างวิ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย ในเสี้ยววินาทีนี้มยุราไม่เพียงแต่ค้นพบว่ารักแรกพบมีอยู่จริง เธอยังขี้ตู่ให้หนุ่มรูปงามที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อตรงหน้า เป็นเนื้อคู่ที่ฟ้าประทานให้มาในวันฝนตกด้วย
ใช่แล้ว... เขาคือเทพบุตรสายฝนของเธอ
“ไหวไหมครับ?” ไม่ถามอย่างเดียว พิรุณยังช่วยเก็บรองเท้าส้นสูงให้ด้วย ทว่าหญิงสาวกลับทรุดฮวบไปกองกับพื้นถนนอีก ดูเหมือนว่าเธอกำลังมีปัญหากับข้อเท้า
“เจ็บ... เจ็บจังเลยค่ะ” เธอบอกเสียงแผ่วด้วยสีหน้าไม่สู้ดี มยุราครางออกมาน้อย ๆ ขณะพยายามใช้ขาพยุงตัว
พิรุณรีบตรวจดูบาดแผลให้ ก็พบว่านอกจากบาดแผลมีเลือดซิบที่หัวเข่าแล้ว บริเวณข้อเท้าขาวนวลนั่นยังมีรอยแดงจากที่ล้มลงไปบนพื้นถนนอีกด้วย
“โอ๊ย” มยุราร้องลั่นเมื่อมือหนาสัมผัสข้อเท้า แล้วอดมองใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ได้ สีหน้ามุ่งมั่นของชายหนุ่มยิ่งทำให้เธอหวั่นไหวมากกว่าเดิม
เขาจะรู้ไหมนะว่าหัวใจดวงน้อยของเธอเต้นผิดจังหวะจนแทบทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว เพราะเขาทำให้สาวช่างฝันอย่างเธอไปถึงหนุ่มรูปงามที่มาคุกเข่าขอเธอแต่งงาน
และนี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีชายหนุ่มรูปงามตัวเป็น ๆ มาคุกเข่าอยู่ตรงหน้า แม้เขาจะไม่ได้เอ่ยปากขอเธอแต่งงานในสถานที่สุดโรแมนติกในฝันก็ตาม!
“ข้อเท้าน่าจะแพลง ขออนุญาตพาคุณไปที่รถนะครับ”
มยุราทำตาปริบ ๆ แล้วอีกฝ่ายก็อุ้มช้อนเธอตัวลอยจากพื้น แน่นอนว่าการกระทำนั้นสร้างความตกใจให้เธอเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่มยุราทำได้คือวางแขนบนบ่าแข็งแล้วปล่อยให้เขาอุ้มไปวางไว้ในรถ
มีรอยยิ้มทรงเสน่ห์เปื้อนใบหน้าหล่อเหลา จากนั้นเขาก็ยื่นแฟ้มเอกสารที่เธอปล่อยทิ้งมาให้ แล้วเขาก็เดินอ้อมรถไปด้านคนขับ มยุราอดหยิกเนื้อของตัวเองไม่ได้เพื่อเรียกความมั่นใจว่าเธอไม่ได้ฝันไป
“คุณพักอยู่แถวนี้เหรอ?” พอสตาร์ทรถพิรุณหันมาถามสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มที่ดูน่าจะอ่อนกว่าเขา
“เปล่าค่ะ ฉันมาสมัครงานที่โรงแรมนี้”
“สมัครงาน?” สีหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความแปลกใจเพราะบุคลิกของหญิงสาวไม่น่าทำงานทางด้านนี้ แต่เขาไม่ได้ซักไซ้อะไร นอกจากพารถเลี้ยวเข้ามาใต้ถุนโรงแรมซึ่งเป็นลานจอดรถ
“บังเอิญจังเลยนะครับ ผมก็ทำงานที่นี่”
มยุรากำลังจะถาม แต่เขาดับเครื่องยนต์ลงซะก่อน
“เดี๋ยวเชิญคุณ... เอ่อ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
“หยกค่ะ” มยุรายิ้มหวานให้ ทำเอาอีกฝ่ายชะงัก
