บท
ตั้งค่า

บทที่1 คุณนายดวงประกาย (3)

“เดี๋ยวพี่จัดการของพวกนี้เอง หยกไปจัดการของที่เหลือในห้องต่อเถอะ” บอกด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ วศินจึงอุ้มลังกระดาษใบโตเดินลงไปกองรวมที่ชั้นล่าง ปล่อยให้มยุรายืนอมยิ้มทำตาปริบ ๆ ขณะมองตามแผ่นหลังกว้างอยู่คนเดียว

เพราะวศินน่ารักและอบอุ่นอย่างนี้ไงเล่า เธอจึงปลื้มเขานักหนา ถึงขนาดตั้งปณิธานไว้แรงกล้าว่าหลังจากเรียนหนังสือจบ เธอจะเป็นเจ้าสาวของเขา แต่สุดท้ายความสวยไม่เข้าตากรรมการ ความหวานไม่โดนใจวศิน เธอเลยซดน้ำแห้วอกหักไปตามระเบียบ เมื่อเขาบอกกับเธออย่างเต็มปากเต็มคำว่า คิดกับเธอแค่น้องสาวเท่านั้น...

เฮ้อ นี่คงเป็นประโยคคลาสสิกที่ผู้ชายมักใช้ปฏิเสธผู้หญิงสินะ แต่ก็ดีกว่าเหตุผลที่ว่า เธอดีเกินไป นิดหนึ่งล่ะนะ

มยุราโยนเรื่องเก่า ๆ ออกจากหัวสมองแล้วสวมบทบาทมดงานด้วยการ ‘ขน’ ทุกสิ่งในห้องที่พออาศัยแรงของตนเองได้ พอจัดการถอดเตียงนอนแบบเจ้าหญิงออกหมดจนเหลือห้องโล่ง ๆ เธอจึงลงมารวมตัวอยู่ชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์ อดไม่ได้ที่จะแหงนหน้ามองตึกหลังเก่าที่สร้างรายได้ให้ครอบครัวเป็นกอบเป็นกำมานานหลายสิบปี

คงได้เวลากล่าวคำอำลาอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ และต้อนรับบ้านพักบังกะโลหลังใหม่ที่คุณนายดวงประกายไปขอเช่าจากลูกหนี้เงินกู้ที่อยู่ใกล้หาดขึ้นชื่อของภูเก็ตแล้วสินะ

พอถอนสายตาจากตึกหลังเก่าได้มยุราจึงกวาดสายตาไปรอบ ๆ บริเวณอีกครั้ง คนงานหลายคนเริ่มนั่งพักตามร่มไม้ แต่หลายคนยังคงวุ่นวายกับข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะคุณนายดวงประกาย มยุราไม่สนใจอะไรมาก นอกจากข้ามไปฝั่งตรงข้ามหาข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้อมากินรองท้อง

พอตักข้าวใส่ปากเคี้ยวตุ้ย ๆ อยู่บนโต๊ะหินอ่อนใต้ร่มไม้ใหญ่อย่างเอร็ดอร่อยเท่านั้น คุณนายดวงประกายที่ถือพัดหางนกยูงโบกไปมาและเท้าสะเอวคอยบัญชาการคนงานราวนางพญามดจึงหันขวับมาหาเธอทันที

“ฉันนึกว่าแกไปสมัครงานที่โรงแรมดาวแต้มเดือนแล้วซะอีก”

“หนูยังไม่ตอบตกลงกับม๊าเลยว่าจะเข้าทำงานที่นั่น” มยุราบอกเสียงเรียบ เขี่ยพริกแดงออกจากข้าวแล้วตักใส่ปากอีกคำ

“ก็เห็นว่าให้ขนของไปไว้ที่บ้านพักบังกะโลไม่ใช่หรือไง”

มยุราไหวไหล่กับความเข้าใจของมารดา รีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ม๊ากินข้าวหรือยัง?”

“กินแล้ว เสร็จเรื่องนี้ยังไงแกต้องไปยื่นเอกสารไว้ก่อนนะ ฝากกับนายหัวจรัสชัยเอาไว้แล้ว ฉันไม่อยากให้เสียเครดิตคุณภูภัทร” ลองคุณนายดวงประกายเรียกชื่อคุณพ่อสุดที่รักของเธอเต็มยศแบบนี้ งานนี้คงยากที่จะเล่นตุกติก มยุรายกคิ้วขึ้นสูงเมื่อรู้รายละเอียดเพิ่มเติม

“นี่ม๊าเล่นเส้นสายไม่มีปรึกษาลูกเต้าก่อนเลยเหรอคะ เกิดหนูไม่โอเคเปลี่ยนใจกลับกรุงเทพฯ ดื้อ ๆ ล่ะ?”

คราวนี้มือหนาใหญ่ของใครบางคนจับศีรษะเธอโยกเบา ๆ อย่างรักและเอ็นดู

“หยกไม่ไป คราวนี้ป๊าก็เข้าหน้ากับนายหัวจรัสชัยไม่ติดสิลูก” ภูภัทรแทรกขึ้น พลางทิ้งตัวนั่งข้างบุตรสาวเพื่อพักเหนื่อย มยุราจึงส่งขวดน้ำเย็นของเธอให้ดื่ม

“ขอบใจ”

“งานนี้ป๊าก็บ้าจี้ตามม๊าด้วยเหรอคะ?”

คนดื่มน้ำลดขวดน้ำในมือลง

“ไม่เห็นมีอะไรเสียหายเลยนี่นา งานนี้ลูกสาวสุดที่รักของป๊ามีแต่ได้กับได้” สายตาของภูภัทรมองเธอเหมือนมีเลศนัย มยุราจึงไหวไหล่ ในเมื่อประมุขใหญ่ของบ้านเอ่ยปากเช่นนี้ เธอก็จนถ้อยคำจะโต้แย้งเช่นกัน

“ตกลงตามนั้นก็ได้ค่ะ ยังไงก็อย่าลืมค่าจ้างที่ตกลงกันไว้ด้วยนะ” เธอแบมือกระดิกนิ้วส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปยังมารดาที่ถือพัดหางนกยูงโบกไปมาระหว่างดูคนงานลำเลียงเฟอร์นิเจอร์ขึ้นท้ายรถ

“รอให้งานสำเร็จก่อนแล้วค่อยมาเอา ฉันล่ะไม่ไว้ใจแกจริงจริ๊ง ไม่รู้ว่าน้ำหน้าอย่างแกจะไปได้กี่น้ำ” คุณนายดวงประกายไม่วายหันมาค้อนควับให้กับลูกสาวคนเล็กที่นางมองว่า ไม่เอาไหน แต่คนถูกสบประมาทกลับไม่สะทกสะท้าน

“ม๊าก็ดูหน้าสวย ๆ ของหยกให้ดีก็แล้วกันว่าจะไปได้กี่น้ำ ไม่รู้ล่ะผ่านเดือนครึ่งมาได้ ขอเบิกล่วงหน้าก่อนห้าหมื่น ครบสามเดือนเมื่อไหร่ค่อยจ่ายส่วนที่เหลือ” มยุราลอยหน้าลอยตา คุณนายดวงประกายจึงหันมาเท้าสะเอวทำหน้ายุ่งใส่

“งกจริง ๆ เลย ไม่รู้ว่างกเหมือนใคร”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel