บท
ตั้งค่า

ตอนที่สอง คานทองฝังเพชร 2

“เราจำไม่ได้หรอก”

“เราก็ลืมไปว่ามีนไม่ค่อยได้เข้ากิจกรรม ไม่ค่อยได้มีเวลาสนิทกับใครช่วงนั้นเพื่อนในคณะ มีนก็จำเกือบไม่หมด... มีนไม่ต้องกลัวเป็นข่าวหรอก ไหนๆ ก็เป็นแล้วก็เป็นมันให้สนุกไปเลย นักข่าวเยอะด้วยนี่วันนี้ เราเลือกที่นี่เพราะมาทานแล้วได้ส่วนลดเยอะ แต่มีนอาจจะได้หนุ่มในข่าวมาเป็นหนุ่มตัวจริงของหัวใจเลยไง เห็นบ่นดีนักว่าข่าวของมีนมีคนเขียนมั่ว คราวนี้ก็ทำให้มันเป็นจริงเลยเป็นไง”

“บ้าน่ายัยพราว หยุดคิดเพ้อเจ้อเลยนะ เรายิ่งเครียดอยู่”

“เครียดเรื่องอะไร รีบพูดมา เดี๋ยวพี่พีร์มาจะพูดไม่ออก เพราะมัวเขิน”

“ยัง ยังไม่เลิกล้ออีก...” หนึ่งมีนาเอ็ด “เราเครียดเรื่องงานน่ะสิ กระแสเราค่อนข้างแผ่ว มีงานให้ทำเพราะคอนเนคชั่นยังดี แต่ดาราน้องใหม่เด็กๆ หน้าใสในวงการก็แสนเยอะ บางเรื่องที่เลือกน้องหน้าใหม่ พวกนางร้ายหรือเพื่อนนางเอกก็เด็กตามลงไปด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่วัยเราแล้ว... เรากลัวมากว่าจะได้รับบทแม่ ตอนนี้พี่ปอนให้เราสร้างกระแสให้เด่นๆ อยู่วงหน้าตลอด ผู้จัดงานอีเวนต์จะได้รุมจองและก็งานละครจะได้มากขึ้นด้วย”

“เราก็คิดเหมือนพี่ปอน ชีวิตมีนเรียบง่ายเกินไป ทั้งที่มีนเป็นนางร้ายเบอร์ต้นๆ ของช่อง...”

“แล้วจะทำให้มันมีสีสันยังไงล่ะ”

“อย่างน้อยวันนี้ก็มีแล้ว พี่พีร์ยังไงล่ะ ถ้ายังไม่หนำใจจะให้ยืมนักธุรกิจหนุ่มหล่อแต่ปากคมกว่ากรรไกรอย่างพี่ชายเราไปสร้างกระแส”

“โห เราคงต้องหยุดเรื่องผู้ชายไว้นิด พูดตรงๆ ว่าอยากมีกระแสที่ดีบ้าง อย่างน้อยจะได้มีผู้ชายที่ดีจริงๆ เข้ามาจีบโดยไม่คิดว่าจะมาจีบเราเพราะว่าเราง่ายไปกับผู้ชายได้ทุกคน... อีกอย่างเราอยากดังในแบบที่ว่ามีประโยชน์และก็เป็นอะไรที่เราทำจริง ให้ลือกระฉ่อนกันไปสักพัก”

“เขียนหนังสือไหม ยุคหนึ่งดาราไทยเคยเขียนหนังสือสร้างกระแสแฉแหลกกันจ้าละหวั่น ถึงตอนนี้มันจะซาๆ แต่ว่ามุกนี้ก็ยังใช้ได้ มีนเลือกเขียนในช่วงที่ไม่มีคนเขียน รับรองขายดี มีคนสนใจมาก”

“เขียนอะไรล่ะ... ชีวิตของมีนก็เรียบง่ายไม่แปลกจากชาวบ้านอย่างนั้น มันคงยาก”

“ก็เรื่องที่ทุกคนสนใจ ก็คงไม่เว้นเรื่องความรัก มีนถนัดงานเขียนอยู่แล้วนี่ หรือไม่ก็เขียนพวกฮาวทู ชีวิตในวงการอะไรงี้ แต่ว่าเราว่าถ้าเขียนฮาวทูก็ต้องเอาเรื่องที่ทุกคนสนใจ อย่างพวกเรื่องลดน้ำหนัก การแต่งตัวอะไรอย่างนี้ไหม”

“เรื่องแบบนั้นน่าสน แต่ว่ามันมีคนเขียนเยอะแล้วเอาตรงๆ เราไม่มีเคล็ดลับดีๆ ลดน้ำหนัก หรือว่าเคล็ดลับความสวยงามอะไรเลย” หนึ่งมีนาพูดเครียดๆ มันคือความเครียดบนความโชคดีของชีวิต หล่อนเกิดมาสวย รูปร่างดี เข้าวงการโดยไม่ต้องเติมแต่งอะไรเพิ่ม ด้วยความที่หน้าขึ้นกล้อง และเป็นคนที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน หล่อนแค่เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์พักผ่อนให้เพียงพอหากมีเวลาและก็ออกกำลังกายบ้างนิดหน่อย แต่ไม่หักโหมไม่เคร่งครัดเหมือนดาราคนอื่นมันดูเหมือนว่าหล่อนสุขสบายกับชีวิต แต่ตอนที่จะมาเขียนฮาวทูมันก็ทำให้หล่อนเครียดที่ชีวิตเรียบง่ายเกินไป...

“งั้นก็เขียนเคล็ดลับ การหว่านเสน่ห์ แบบนั้นสิ ขายดีเป็นพลุแตกแน่นอน พราวจะซื้อคนแรก เพราะพราวก็อยากเป็นคนมีเสน่ห์”

“จ้ะ... คงจะเขียนได้อยู่หรอก ถึงจะเรียนจบอักษรมาเหมือนพราวแต่ก็ไม่ได้ช่างจินตนาการเป็นเจ้าแม่นิยายเงินล้านเหมือนพราวนี่นะ” หนึ่งมีนาค่อนขอดเพื่อนพราวพิลาศเป็นคนไอเดียดีและช่างฝัน เรื่องเรื่องเดียวหล่อนสามารถมองออกมาได้หลายแง่ นอกเหนือจากงานทำหนังสือพิมพ์คอลัมน์เพื่อการศึกษาแล้วพราวพิลาศยังใช้เวลาว่างมาเขียนนิยายรักโรแมนติกส่งสำนักพิมพ์จนมีรายได้มากกว่างานประจำทบเท่าตัว

แม้งานนิยายของพราวพิลาศจะรุ่งและได้รายได้เป็นกอบเป็นกำแต่หล่อนก็ไม่ยอมลาออกจากงานมานั่งเขียนนิยายอย่างเดียวเพราะเหตุผลที่ว่า... ที่เจ้าตัวเขียนนิยายได้ทุกวันก็เพราะว่ามีแรงบันดาลใจจากลูกเจ้าของหนังสือพิมพ์ที่ทำงานอยู่ หากลาออกไม่ได้เห็นหน้าเจ้าตัวแล้วคงต้องเลิกอาชีพเขียนนิยาย เพราะจินตนาการถึงพระเอกแสนดีอย่างนี้ไม่ออกอีกแล้ว...

“แต่ก็อย่างว่า เราก็อยากเขียนอะไรที่เร้าใจอย่างที่พราวพูดเหมือนกัน แต่พราวก็รู้ เราไม่เคยมีแฟน” หนึ่งมีนาพูดเปรยๆ ไป

พราวพิลาศได้ยิน แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบสายตาของพราวพิลาศก็เลื่อนไปจับที่หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวสะอาดขับดวงหน้าอ่อนเยาว์ที่แต่งมาเสียจัดจนโดดเด่นกว่าใครในพื้นที่นี้ทั้งหมด หญิงสาวที่หล่อนกำลังมองอย่างตั้งใจอยู่กำลังควงคู่มากับ ศิลา อรรถพลรฐกร ทายาทเจ้าของบริษัทผลิตหนังสือพิมพ์รายใหญ่ของไทยที่หล่อนทำงานอยู่ ที่หล่อนจ้องผู้หญิงคนนั้นเพราะอยากรู้ว่าเพราะเหตุใดเทพบุตรสุดเสน่หาของหล่อนถึงได้ชอบจนยอมควงคู่มาทานอาหารด้วยทั้งที่เสี่ยงจะตกเป็นข่าว...

“จริงที่ว่าหนังสือเร้าใจแบบนั้นก็ต้องเริ่มจากการมีแฟนก่อน อย่าว่าแต่มีนเลยพราวว่านะชาตินี้เราสองคนคงไม่มีวันได้เขียน โสดแบบเราคงต้องนั่งจินตนาการไปวันๆ” พราวพิลาศพูดเพ้อๆ มองลูกชายเจ้านายเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่งแล้วก็รู้สึกว่าหัวใจสลาย... วันนี้ฉากพระเอกกำลังเข้าใจผิดนางเอกและต้องมีบทเศร้าหล่อนคงเขียนได้ดีมากแน่ๆ

“ก็ต้องจินตนาการเอาสิ ฉันจะเขียนฮาวทู กลเม็ดที่ทำให้แฟนไม่นอกใจ... บางทีมันอาจจะสร้างกระแสให้นักข่าวหรือคนอื่น ตามมาสนใจก็ได้นะว่าแฟนฉันคนนั้นคือใคร” หนึ่งมีนาพูดทีเล่นทีจริง...

“ก็บอกแล้วว่ามันต้องเริ่มจากการมีแฟน ไม่เห็นว่าจะต้องโกหก มีนลองคุยกับพี่พีร์ดูสิ... บางทีอาจจะไม่ต้องมานั่งจินตนาการเองก็ได้นะ” พราวพิลาศตัดใจไม่หันมองโต๊ะที่มองแล้วชวนช้ำใจ มานั่งพูดกับเพื่อนอย่างตั้งอกตั้งใจ...

“บ้าเหรอ เราไม่จีบเขาก่อนหรอกนะอีกอย่างเขาเป็นคนอื่นไม่ใช่เพื่อนเล่นเรา เราว่าอย่าเอาเขามาพูดเล่นเรื่อยเปื่อยเลยนะ”

“ก็ไม่ได้พูดเล่น แค่เสนอแนะให้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพี่พีร์ก็ได้นี่ถ้าอยากเขียนฮาวทูเรื่องมัดใจแฟนก็ต้องมีแฟนก่อน เรื่องนี้น่าสนใจนะ มีนลองคิดดีๆ มีนต้องสร้างกระแสจากเรื่องนี้ได้แน่นอน เราฟันธง”

“จะมีใครกล้ามาเป็นแฟนเราล่ะ... ขนาดพี่ชายพราวยังไม่สนเราเลย เราชอบมาตั้งกี่ปียังหนีไปเป็นเกย์เฉย แถมมีคนเขียนข่าวเราฉาวขนาดนั้น คงไม่มีใครกล้ามาเสี่ยงเมื่อมีผู้หญิงสวยๆ ดีๆ ให้เลือกอีกเยอะแยะ... สงสัยเราต้องหาทางไปสร้างกระแสด้วยวิธีอื่น หรือไม่ถ้าหมดหนทางจริงๆ คงต้องไปหัดเขียนนิยายเหมือนพราว จะได้ไม่ตกงานตอนแก่”

หนึ่งมีนาหยิบขนมปังกรอบที่ทางโรงแรมจัดมาให้เป็นเมนูเริ่มต้นเข้าปากเคี้ยวตามอารมณ์ หล่อนรู้สึกว่าเสียวต้นคอเลยหันหลังกลับไปมองเห็นพีร์ยืนอยู่ เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ เห็นเพียงแต่เขายืนนิ่งอยู่จะยิ้มก็ไม่ใช่จะหน้าบึ้งก็ไม่เชิง...

“ผมมาขัดจังหวะหรือเปล่าครับ”

หนึ่งมีนาตอบในใจได้ว่า มากเลยล่ะ แต่พราวพิลาศกลับเป็นฝ่ายบอกเขาเองว่า...

“ไม่เลยค่ะพี่พีร์ นั่งเถอะค่ะ พราวยังไม่ได้สั่งอาหารเลย บอกน้องบริกรก่อนแล้วว่ารอพี่พีร์มาก่อนค่อยมารับออร์เดอร์ จะได้สั่งพร้อมกัน...

จากหัวข้อสนทนาที่คุยกับพราวพิลาศทำให้หนึ่งมีนาค่อนข้างสังเกตพีร์มากกว่าปรกติ แน่นอนว่าผู้ชายที่หล่อนเริ่มสนใจ หัวลูกคิดรางแก้วของหล่อนจะเริ่มประเมินคะแนนของเขาก่อน รูปลักษณ์ชายหนุ่มได้เต็มสิบ ฐานะสิบแน่นอน ลักษณะนิสัยอยู่ระหว่างการประเมิน ความพอใจแรกพบหล่อนให้ลบสองคะแนนเพราะเขาดูเป็นมิตรกับผู้คนเกินไป นั่นถือว่าไม่ค่อยดีนักเพราะหล่อนไม่ชอบให้ผู้ชายที่หล่อนรักไปสนิทกับใครง่ายๆ

แต่ท่าทางการประเมินคะแนนครั้งนี้ของหล่อนจะเป็นการประเมินเพื่อเพื่อนรักเสียแล้ว เพราะดูยังไง สายตาของพีร์ก็จดจ้องไปทางเพื่อนรักของหล่อนมากกว่า เขาแทบไม่มองหล่อนด้วยซ้ำ ยกเว้นยามเมื่อมีบทสนทนากัน และแน่นอนว่าบนโต๊ะอาหารมื้อนี้บทสนทนาหลักๆจะถูกพราวพิลาศและพีร์จอง ส่วนหนึ่งมีนาเป็นแค่ผู้ฟังอย่างเดียวหล่อนจึงได้มีเวลานั่งมองว่าพีร์ไม่ได้มีสายตาไว้มองหล่อนสักเท่าไหร่...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel