บท
ตั้งค่า

ตอนที่สอง คานทองฝังเพชร 3

“เอ่อ มีน พราวขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ คุยกันไปก่อนนะคะพี่พีร์” พราวพิลาศลุกขึ้นและขอตัว หนึ่งมีนาเลิกคิ้ว ไม่ทันได้ทักท้วงหรือเอะอะอะไร พราวพิลาศก็ลุกไปก่อนเสียแล้ว ปล่อยให้หนึ่งมีนากับพีร์นั่งด้วยกันสองคน... ดาราสาวเข้าใจว่าเพื่อนคงอึดอัดเพราะรู้ตัวว่าพีร์มองอยู่หลายครั้ง จนต้องขอตัวชิ่งไปเอาดื้อๆ

“อาหารที่โรงแรมของผมอร่อยมากใช่ไหมครับ” เสียงทุ้มชวนฟังเอ่ยถาม สายตาเขาเป็นของหล่อนทันทีที่พราวพิลาศลุกไป หญิงสาวคิดว่าพีร์จำใจต้องมาพูดกับหล่อนจนได้

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะคะ” หญิงสาวไม่ตอบ แต่ถาม ไม่ยอมรับว่าสเต๊กเนื้อลูกวัวนี้อร่อยถูกปากง่ายๆ เพราะเขาถามราวกับว่ากำลังเหลิง หล่อนไม่อยากให้เขาได้ใจ...

“ผมเห็นคุณทานเอาทานเอาไม่พูดอะไร ไวน์แดงก็คงหวานลิ้นจนคุณจิบถี่มาก ถึงได้ไม่สนใจพวกเราเลย”

จะสนได้ไงยะ เห็นจีบกันเป็นบ้าหลังอยู่อย่างนั้น ใครจะกล้าขัดคอได้ลง

“ฉันพูดไม่ค่อยเก่งนักหรอกค่ะ ชอบฟังมากกว่า ฟังคุณกับพราวคุยกัน เพลินดี คุณดูสนิทกับเพื่อนฉันมากเลยนะคะ” หนึ่งมีนาพยายามจับสังเกต เห็นพีร์ยิ้มยามเมื่อหล่อนถามแล้วก็เริ่มแน่ใจในสิ่งที่ตัวเองคิด..

“ก็สนิทครับ ผมเป็นเพื่อนสนิทของพี่น้องพราว แล้วก็ยิ่งช่วงหลังๆ มานี่ ผมมีเรื่องหลายเรื่องต้องคุยและติดต่อกับพราว เลยกลับมาพูดกันมากขึ้น” หมอนี่พูดขึ้นมาอีกก็ยิ้มอีก หนึ่งมีนาคงไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว...

“คุณชอบเพื่อนฉันเหรอคะ” หนึ่งมีนาถามตรงๆ พีร์ชะงัก จ้องหน้าหล่อนเหมือนจะอึ้งไปพักหนึ่ง...

“เอ่อ ฉันขอโทษค่ะ พอดีว่าฉันชอบพูดตรงๆ อาจจะเป็นคำถามที่ดูไม่มีมารยาท ฉันขอโทษจริงๆ ค่ะ ลืมได้ไหมคะว่าฉันถามคำถามนั้น” หล่อนรีบแก้ตัวลิ้นระรัว จนเขาหลุดยิ้มออกมา...

“ไม่เลยครับ ผมเเค่แปลกใจที่คุณมองลึกไปถึงความรู้สึกผม ทั้งที่คุณดูไม่ได้สนใจอะไร”

“ฉันสังเกตเห็นคุณจ้องหน้ายัยพราวบ่อยๆ” หนึ่งมีนาบอกไปตรงๆ

“ผมคงทำได้แค่ที่คุณเห็น เวลาที่ผมชอบใคร ผมปากแข็งเอาเรื่อง”

“ก็บอกไปสิคะ”หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงนางเอกสุดๆ แต่ใครจะรู้ว่าที่ดวงตาของหล่อนร้อนไม่ต่างจากมีไฟแห่งความอิจฉาแผดเผาอยู่ โธ่ถัง พราวพิลาศที่ไม่ได้สนใจโลกภายนอกเลยยังเป็นที่สนใจมากกว่าหล่อนเพราะว่าพราวพิลาศไม่เคยมีข่าวฉาวสุดกู่เหมือนหล่อน ช่างน่าอิจฉาเสียจริง

“ไม่ได้หรอกครับ การบอกรักใครมันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายสำหรับผม” หนึ่งมีนากลอกตา หน้าตาของเขาดูไม่เหมือนเป็นคนไม่มีความมั่นใจสักนิด... “คุณช่วยผมได้ไหมครับ”

“ช่วยเรื่องอะไร เรื่องพราวน่ะเหรอคะ”

“ครับ ผมคงต้องปรึกษาคุณอีกหลายเรื่อง แต่ไม่อยากให้พราวรู้”

“เอ่อ... ฉันไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ฉันพร้อมจะช่วยคุณ” หนึ่งมีนากำลังคิดว่า รู้สึกเหตุการณ์มันค่อนข้างจะเข้าอีหรอบเดิม เหมือนหล่อนเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้มาสดๆ ร้อนๆ แต่ก็ยังรู้สึกดีที่ครั้งนี้หล่อนเต็มใจช่วยเพราะพราวพิลาศคือเพื่อนของหล่อน หนึ่งมีนาจึงไม่อิดออดเมื่อพีร์ขอเบอร์โทรศัพท์ของหล่อนไป และแล้วหล่อนก็เริ่มรู้สึกว่าผู้ชายเห็นหล่อนเป็นทางผ่านไปอีกคน

มันจะมีสักคนไหมนะ ที่เกิดมาเพื่อหล่อนและเป็นของหล่อนจริงๆตั้งคำถามกับตัวเองแล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อนึกถึงคำตอบที่เห็นๆ กันอยู่ว่า มันไม่มี...

หลังมื้อค่ำจบลงพีร์มาส่งสองสาวที่ลานจอดรถของโรงแรม เขามาส่งหนึ่งมีนาแล้วค่อยเอ่ยลานางร้ายสาวแล้วพาพราวพิลาศเดินไปที่รถซึ่งจอดไม่ไกลกันมากนัก หนึ่งมีนายังไม่ได้ออกไปในทันทีเพราะทำกุญแจหลุดมือต้องก้มหาในรถอยู่พักหนึ่งเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าพราวพิลาศกับพีร์ยืนคุยกันที่ข้างรถของนักเขียนสาว มือของพีร์ลูบที่หัวของพราวพิลาศและหญิงสาวก็แย้มยิ้มอย่างมีความสุข...

หนึ่งมีนายอมรับว่าหล่อนไม่ได้อิจฉาความสุขของเพื่อน แต่หล่อนแค่คิดว่าทำไมหล่อนไม่มีวันแบบนั้นบ้าง... พระเจ้าไม่เข้าข้างหล่อน เอ หรือว่าหล่อนอิจฉาเพื่อนกันแน่ คงไม่หรอก เพราะหล่อนเพียงยินดีที่เพื่อนมีความสุขและอยากมีบ้างก็เท่านั้น หล่อนไม่ได้ริษยา เพียงแค่อยากมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขแบบนั้นบ้างก็เท่านั้น...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel