บท
ตั้งค่า

4 ลูกชายเทวดา

หลังจากคิดว่าคนถูกฝากฝังจะมาในเร็ววันนี้ไปแล้ว ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะวันต่อมานิดก็โทรมาบอกว่า ลูกศิษย์ของเจ้าตัวจะขึ้นรถตู้โดยสารประจำหมู่บ้านมาหาในวันพรุ่งนี้ตอนเย็น

เป็นอย่างนี้ แก้วจึงใช้ลูกชายที่เพิ่งกินมื้อกลางวันเสร็จไปช่วยซื้อเครื่องนอนทั้งหลายมาเตรียมไว้ให้ผู้จะมาอาศัยได้ใช้อย่างเตรียมพร้อมกับการเป็นเจ้าบ้านที่ดีอย่างมีน้ำใจ เนื่องจากจำที่น้องสาวบอกได้ดีว่าฐานะของผู้มาเยือนเป็นเช่นไรนั่นเอง

“เขาจะไม่เตรียมของใช้ของตัวเองมาเลยหรือไง” คนถูกใช้ขมวดคิ้วถามอย่างไม่อยากจะไปให้ด้วยใบหน้ายับยุ่งอีกวัน

“เผื่อเหลือเผื่อขาดน่ะ” แก้วบอกลูกชายเสียงอ่อน อย่างต้องการเตรียมพร้อมไว้ไม่ให้ขายหน้า

“รอให้ขาดก่อนค่อยไปซื้อก็ได้หรอก เผื่อซื้อมาแล้วเขาไม่ใช้จะทำยังไง เปลืองเงินเปล่าๆ ” คนถูกใช้ให้เหตุผลด้วยสีหน้ายับยุ่งไม่คลาย เพราะไม่อยากไป

“มันจะเปลืองเปล่าๆ ได้ยังไง ถ้าไม่ได้ใช้เราก็เก็บเอาไว้ใช้เองก็ได้นี่ของมันใช่ว่าจะเน่าจะเสียได้สักหน่อย อีกอย่างแขกมาแล้วจะให้เขานอนที่ไหน จะให้นอนเบียดเราบนเตียงหรือไง” แก้วว่าให้ลูกชายอย่างอดใจไม่ไหว ที่อีกฝ่ายเอาแต่พูดนั่นว่านี่อยู่ได้

“ก็ได้ แต่ขอค่าจ้างด้วยนะครับ” คนถูกใช้ตอบรับด้วยความจำใจ โดยไม่ลืมขอค่าจ้างด้วยอย่างสบโอกาส

“สองร้อย” คนเป็นแม่บอกอย่างยอมให้แต่โดยดี

“ห้าร้อย” คนขอค่าจ้างต่อรองอย่างได้ที

“จะบ้าเหรอ จะเอาไปทำไมเยอะแยะ” คนถูกต่อรองตวาดแว้ดออกมา ใบหน้ายับยุ่ง เนื่องจากจำนวนเงินมันเยอะเกินไป

“จะเอาไปกินหมูกระทะกับพวกไอ้อั๋นเย็นนี้” คนต่อรองบอกตามตรง เพราะนอกจากขี่รถเล่นแล้ว พวกเขายังชอบสังสรรค์กินหมูกระทะกันด้วย

“สามร้อยพอ เดี๋ยวจะเอาไปซื้อของมึนเมามาดื่มกัน” คนเป็นแม่บอกอย่างไม่วางใจ กลัวว่าลูกชายจะเอาเงินไปซื้อเครื่องดื่มมึนเมามาดื่ม

“โห่ แม่อ่ะ” คนต่อรองโห่ร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ ใบหน้างอง้ำเป็นอย่างมาก ที่อีกฝ่ายมาต่อรองมากขนาดนี้

แม้เขาไม่คิดจะเอาเงินไปซื้อของพรรค์นั้น แต่เขาก็ไม่อยากให้คนตรงหน้ามากดราคากันอย่างนี้

“อ่ะๆ สี่ร้อยก็ได้” คนเป็นแม่บอกอย่างยอมลงให้ เนื่องจากกลัวว่าลูกชายจะไม่ไปซื้อของให้

“ก็ได้” คนไม่พอใจตอบรับด้วยความจำใจ ใบหน้างอง้ำตามเดิม

ได้ยินคำตอบรับ คนเป็นแม่จึงควักแบงก์พันในกระเป๋าคาดเอวสามใบออกมายื่นให้ลูกชายด้วยความหมั่นไส้และมันเขี้ยว ในความช่างเจรจาต่อรองของอีกฝ่าย และไม่วายกำชับด้วย “ที่นอนเลือกเอาที่มันดีๆ ไม่นุ่มไม่แข็งเกินไปนะ จะได้ใช้นานๆ ส่วนผ้าห่มก็บอกคนขายให้เขาจัดมาให้ ว่าเอาแบบที่ห่มหน้าร้อนแล้วเย็น หน้าหนาวอุ่น”

“ค้าบบบ” คนถูกกำชับตอบรับเสียงยืดยานอย่างยียวนอดกวนอารมณ์คนเป็นแม่ไม่ได้ ทั้งรู้สึกหมั่นไส้ให้ผู้จะมาเยือนขึ้นมาตงิดๆ แล้ว เมื่อเห็นคนเป็นแม่กระตือรือร้นใส่ใจมากมายขนาดนี้ ขณะที่ยื่นมือไปรับเงิน

“อ้อ อย่าลืมเอาใบเสร็จมาให้แม่ดูด้วยล่ะ” คนเป็นแม่กำชับอีกหนอย่างนึกขึ้นได้

“ค้าบบบ” คนถูกกำชับตอบรับอีกครั้งอย่างไม่สบอารมณ์มากกว่าเดิม ที่คนเป็นแม่ทำเหมือนไม่ไว้ใจเขาอย่างนี้ จนอดที่จะนึกหมั่นไส้ให้ผู้จะมาอาศัยอยู่ด้วยขึ้นมากกว่าเดิมไม่ได้

เห็นคนอื่นดีกว่าลูกตัวเองชัดๆ

คนถูกไม่ไว้ใจนึกว่าให้แม่ด้วยความขัดเคือง ที่อีกฝ่ายควักเงินจ่ายไปซื้อของให้ผู้จะมาอาศัยอยู่ด้วยโดยไม่อิดออด ทว่ากับลูกตัวเองกลับต่อรองแล้วต่อรองอีกเสียอย่างนั้น

หลังเก็บเงินใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นดีแล้ว กล้าก็เดินปึงปังออกจากร้านไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่จอดอยู่ข้างร้านอย่างไม่สบอารมณ์ทันที

“ไง ถูกแม่ใช้ไปซื้อของสิท่า หน้าบูดมาเชียว” ชายวัยสี่สิบกว่าซึ่งคุ้นเคยกันดี เนื่องจากขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ที่วินนี้มานานเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มขำ เมื่อเห็นลูกชายเจ้าของร้านลาบที่พวกเขาฝากท้องไว้เป็นประจำเดินหน้าบูดบึ้งมาขึ้นรถ

“ครับ” กล้าตอบกลับอย่างพยายามข่มใจไม่พาลคนอื่นเสียงแผ่ว

“ไปซื้ออะไรล่ะคราวนี้” คนแซวถามต่ออย่างชวนคุย พลางยื่นหมวกกันน็อกส่งให้

“ไปซื้อที่นอนน่ะครับ” คนถูกแซวตอบกลับอีกครั้ง ทั้งรับหมวกกันน็อกมาสวมใส่ เมื่อเสร็จก็ก้าวขาขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซด์ของชายวัยสี่สิบกว่าทันที

“อ้อ แล้วจะไปซื้อที่ไหน ในห้างหรือในตลาด” คนขับถามอีกหนอย่างต้องการพาไปส่งยังจุดหมายที่เจ้าตัวต้องการ

“ในห้างครับ” กล้าบอกจุดหมาย

ได้รับคำตอบ คนขับก็ไม่ชวนคุยอีก เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถพาลูกค้ากิตติมศักดิ์ไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ห่างออกไปถึงไม่สี่กิโลเมตรทันที

ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง หลังบอกจุดหมายไปแล้ว ก็ได้ควักมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดส่งข้อความไปชวนเพื่อนให้ออกมาซื้อของเป็นเพื่อนไม่รอช้า

นั่งรถมาไม่นานก็มาถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เจ็ดชั้น ซึ่งมีของกินของใช้มากมายให้เลือกซื้อ

เมื่อลงจากรถได้ กล้าก็ตรงดิ่งขึ้นไปยังชั้นสอง แล้วเดินเข้าร้านที่เป็นจุดหมายทันที

“ขอเชอร์เบทมะนาวสามลูกครับ” กล้าสั่งไอศกรีมรสที่ชอบกับพนักงานร้านที่หน้าเคาน์เตอร์อย่างรวดเร็ว ด้วยว่าตอนนี้เขาอยากหาอะไรเย็นๆ มาดับอาการขัดเคืองใจให้คุณเป็นแม่เป็นอย่างมากนั่นเอง

สั่งจบ คนขัดเคืองใจไม่หายก็เดินมานั่งรอไอศกรีมที่สั่งยังเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของร้าน

นั่งรอไม่นานไอศกรีมที่สั่งก็ถูกนำมาวางลงตรงหน้า กล้าจึงรีบหยิบช้อนคันเล็กขึ้นมาจ้วงตักกินทันทีไม่รีรอ

อา...

ความเย็นและรสเปรี้ยวปรี๊ดที่จี๊ดขึ้นสมอง ทำเอาคนตักไอศกรีมกินเบิกตาโต ทั้งโห่ร้องในใจออกมาด้วยความสดชื่นและสะใจ จนทำให้อาการอึดอัดคัดแน่นในใจเมื่อสักครู่บรรเทาเบาบางลงด้วย

ตักไอศกรีมเย็นเจี๊ยบเปรี้ยวจี๊ดกินไปได้สามสี่คำ คนกินก็อารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว จึงล้วงเอามือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาโทรหาเพื่อน

“มึงมาถึงยังเนี่ย” คนโทรถามออกไปทันทีที่เพื่อนกดรับ แล้วตักไอศกรีมเข้าปากกินไปด้วยอีกคำ

(ถึงแล้วกำลังขึ้นไป)

ตอบรับจบปลายสายก็วางสายไปทันที เป็นอย่างนี้กล้าจึงหันมาละเลียดไอศกรีมตรงหน้าต่ออย่างอารมณ์ดีมากกว่าเดิม เพราะยิ่งได้กินไอศกรีมรสโปรดไปมากเท่าไหร่ อารมณ์ขัดเคืองใจเมื่อสักครู่ก็ยิ่งลดลงไปเท่านั้น

นั่งละเลียดไอศกรีมรสโปรดหมดไปหนึ่งสกู๊ป กล้าก็เห็นเพื่อนเดินเข้าร้านมาหา

“แม่ง แดกไม่รอกูเลย” อั๋นว่าให้เพื่อนไม่จริงจัง ทั้งนั่งลงตรงข้าม

คนถูกว่าให้ยักไหล่ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ เป็นอย่างนี้ผู้มาใหม่จึงหันไปสั่งเมนูโปรดของตัวเองกับพนักงานซึ่งมายืนคอยบริการอยู่ข้างๆ หลังเห็นเขาเดินเข้ามา “ขอสตอเบอร์รี่สองลูกครับ”

สั่งจบ อั่นก็หันมาถามเพื่อนตรงหน้าด้วยความสงสัยว่ามาซื้ออะไร ด้วยว่าอีกฝ่ายแค่ชวนให้ออกมาซื้อของเป็นเพื่อนเท่านั้น “มึงมาซื้ออะไรวะ”

“มาซื้อที่นอนให้แม่กู” คนถูกถามตอบกลับตามตรง

“โห...แม่มึงนี่โคตรสุดยอดเลย จะเปลี่ยนของใช้ทั้งทีก็ยังไม่มาซื้อเองอีก” คนถามเอ่ยอย่างเข้าใจผิดคิดว่าเพื่อนมาซื้อให้คนเป็นแม่ไปใช้

“ไม่ใช่ของแม่กู ของลูกศิษย์น้ากู” กล้าอธิบายเสียงเรียบอย่างไม่อยากจะพูดถึง

“ลูกศิษย์น้ามึง ? ” คนเข้าใจผิดขมวดคิ้วทวนคำด้วยความสงสัยว่าคือใคร

“อืม น้ากูเป็นครูอยู่ที่บ้านนอก ลูกศิษย์เขาจบมอ.หกแล้วอยากจะมาหางานทำและมาเรียนต่อที่นี่ แต่เขาไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน น้ากูเลยฝากให้มาอยู่ด้วยน่ะ” กล้าเล่าเรื่องราวออกมาให้กระจ่างอย่างไม่อยากจะใส่ใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับมีสีหน้ากระตือรือร้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“เหรอ แล้วลูกศิษย์น้ามึงผู้หญิงหรือผู้ชายวะ” อั๋นเบิกตาขึ้นถามด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก

“ผู้ชาย” คนถูกถามตอบกลับอย่างไม่คิดอะไร แต่คนฟังกลับถอนหายใจเสียงดังออกมาด้วยความเสียดายเสียอย่างนั้น

“ว้า...เสียดายจัง” คนเสียดายเอ่ยเสียงแผ่วด้วยแววตาละห้อยอย่างผิดหวัง

“เสียดายทำไม” กล้าขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย

“ก็เผื่อเป็นสาวๆ สวยๆ ไง” อั๋นตอบกลับด้วยรอยยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย

“ไอ้บ้า แก่แดด แล้วมึงอ่ะ” กล้าว่าให้อย่างอดใจไม่ไหว เมื่อได้เห็นท่าทีกรุ้มกริ่มของคนตรงหน้า ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

“แก่แดดบ้าอะไร อีกไม่กี่วันพวกเราอายุจะสิบเจ็ดแล้วนะเว้ย” คนถูกว่าตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง

“สิบเจ็ดแล้วยังไง มึงโตแล้วเหรอ” กล้าถามกลับด้วยความหมั่นไส้ให้เพื่อนมากมาย ที่อีกฝ่ายทำเหมือนตัวเองโตมากแล้วเสียเต็มประดา เนื่องจากว่าเพื่อนยังแบมือขอเงินพ่อแม่ใช้เหมือนกันกับตัวเองอยู่นั่นเอง

“โตแล้วสิ หรือมึงยังไม่โต” คนถูกหมั่นไส้อมยิ้มตอบกลับอย่างยอกย้อน

“โตกว่ามึงอีก” คนถูกยอกย้อนตอบกลับด้วยความหมั่นไส้หนัก จนอดเกทับออกไปอย่างไม่ยอมน้อยหน้าไม่ได้

“ไหนโตแค่ไหนแล้วอ่ะ เอามาดูหน่อยสิ” คนถูกเกทับกระเซ้าด้วยรอยยิ้มกริ่มมีเลศนัย พลางชะโงกมองส่วนที่อยู่ใต้โต๊ะของอีกฝ่ายไปด้วยอย่างขบขัน

“ไอ้ทะลึ่ง รีบๆ แดกไปเลย เดี๋ยวต้องไปซื้อของอีก” คนถูกกระเซ้าว่าให้อย่างอดใจไม่ไหว เมื่อเห็นท่าทีทะลึ่งตึงตังจากคนตรงหน้า เลยตัดบทออกมาอย่างไม่อยากจะเสวนาเรื่องนี้ต่อ

“ฮ่าๆๆ ” คนถูกว่าให้หัวเราะขำออกมาด้วยความพออกพอใจที่ได้กระเซ้าเพื่อนไปเช่นนั้น ก่อนจะหันมาตั้งอกตั้งใจกินไอศกรีมของตัวเองไปอย่างอารมณ์ดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel