บท
ตั้งค่า

5 ลูกชายเทวดา

หลังกินไอศกรีมเสร็จ ทั้งสองก็พากันออกจากร้าน เพื่อไปซื้อชุดเครื่องนอนไม่รอช้า

ทว่าเมื่อเดินออกมาหน้าร้าน อั๋นกลับเห็นว่าเพื่อนได้เดินไปทางบันไดเลื่อนที่ลงไปยังชั้นล่างเสียอย่างนั้น เห็นดังนี้อั๋นก็อดที่จะคว้ามืออีกฝ่ายเอาไว้ไม่ได้

“ไหนมึงบอกว่าจะมาซื้อที่นอนให้แม่มึงไม่ใช่เหรอ” คนคว้ามือเพื่อนไว้ถามด้วยความสงสัย เพราะแผนกขายที่นอนทั้งหลายอยู่บนชั้นสี่นั่นเอง แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสองกลับพากันอยู่ที่ชั้นหนึ่งนี่

“อือ ก็ใช่ไง” กล้าส่งเสียงตอบรับด้วยท่าทางจริงจังว่าเป็นเช่นนั้นจริง

“แล้วมึงจะลงไปชั้นล่างทำไม” คนสงสัยขมวดคิ้วถามต่อด้วยความสงสัยหนัก

“ก็ออกไปซื้อนอกห้างไง” คนถูกถามตอบตามที่ตั้งใจ

“อย่างนั้นเหรอ” คนสงสัยตอบรับอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปซื้อข้างนอกด้วย

“เออ สิ ในห้างแพงจะตาย ต่อราคาก็ไม่ได้” กล้าขมวดคิ้วปรายตาตอบกลับเสียงหนัก อย่างคิดว่ามันน่าแปลกตรงไหน โดยไม่ลืมงึมงำให้เหตุผลออกมาด้วยอีกต่างหาก

งึมงำจบ กล้าก็ออกเดินต่อทันที โดยมีอีกฝ่ายตอบกลับและเดินตามหลังมาด้วย

“อ้อ” คนเดินตามส่งเสียงในลำคอตอบกลับอย่างรับรู้ถึงความคิดของเพื่อนแล้ว

ทั้งสองพากันเดินมาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์โหลดต่ำสีดำแดงของอั๋นที่จอดอยู่ในลานจอดรถชั้นใต้ดิน แล้วขับมายังตลาดขายส่งและปลีกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างๆ ห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว

เมื่อมาถึงตลาด ทั้งคู่ก็พากันเดินตรงไปยังร้านจำหน่ายชุดเครื่องนอนร้านใหญ่อย่างไม่ให้เสียเวลา

หลังเดินเข้ามาภายในร้าน กล้าก็แจ้งความต้องการตามที่แม่สั่งมากับพนักงานหญิงวัยสามสิบปลายๆ ไม่รอช้า

ได้รู้ถึงความต้องการของลูกค้า พนักงานของร้านจึงพากล้าไปเลือกที่นอนตามที่ต้องการทันที

“โห แม่มึงโคตรใจป้ำเลยว่ะ” อั๋นที่เห็นราคาที่นอนแบบที่เพื่อนสั่งอุทานออกมาอย่างอดใจไม่ไหว ด้วยราคาตั้งพันกว่าเกือบสองพันเลยทีเดียว

“มึงอย่าพูดดิ” คนฟังบอกเสียงห้วนอย่างแสลงใจ

“ทำไมอ่ะ” คนอุทานขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

“ก็กูขอค่าจ้างมาซื้อของห้าร้อย ทำบ่น จะให้กูแค่สองร้อย แต่ควักเงินให้กูมาซื้อที่นอนตั้งสองพันแบบไม่ลังเลเลย กลัวแต่จะไม่พออยู่นั่น” คนถูกถามเล่าเหตุการณ์ตอนที่ถูกใช้มาซื้อของให้เพื่อนฟัง โดยไม่ลืมโกหกออกมาขอคะแนนสงสารจากร้าน อย่างหวังให้ทางร้านลดราคาให้แบบอ้อมๆ ด้วย

“ฮ่าๆ” คนฟังหัวเราะเสียงดังขึ้นมาอย่างอดใจไม่ไหว เช่นเดียวกับพนักงานหญิงที่พาทั้งคู่มาเลือกที่นอนก็ได้อมยิ้มขำอย่างรักษามรรยาทไม่ต่าง

ด้านคนเล่า เมื่อเล่าเรื่องราวออกมาแล้ว ก็หันไปเลือกที่นอนต่ออย่างตั้งใจ ก่อนจะชี้ไปยังที่นอนอันหนึ่งซึ่งราคาพันสามร้อยกว่าบาท

“อันนี้ลดได้ไหมครับ แม่ให้เงินผมมาแค่สองพันเอง ผมกลัวว่าจะซื้อผ้าห่ม หมอนและผ้าปูไม่พอน่ะครับ” กล้าเอ่ยด้วยสีหน้าละห้อยเรียกความสงสาร

“ได้จ้ะ จะเอาผ้าห่มแบบไหน ขนาดไหนจ๊ะ” พนักงานร้านยิ้มตอบรับอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ โดยไม่ลืมถามถึงขนาดผ้าห่มที่อีกฝ่ายต้องการ เพื่อจะได้จัดการได้ถูกอย่างกระตือรือร้น

“แม่สั่งมาว่าเอาแบบที่ห่มหน้าร้อนแล้วเย็น หน้าหนาวอุ่นครับ ผู้ใหญ่ห่มคนเดียว” กล้าตอบกลับตามที่แม่บอกมา

“ได้เลยจ้ะ รอแป๊บนึงนะ” พูดจบ พนักงานวัยสามสิบปลายๆ ก็เดินไปหาของที่ลูกค้าต้องการมาให้ไม่รอช้า

ยืนรออยู่สักพัก พนักงานหญิงคนเดิมก็หอบหิ้วถุงผ้าห่มขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่สีสันสดใสสามสี่ใบมาให้ดู

“อันนี้เป็นของลดล้างสต๊อกพอดี มีชุดผ้าปูกับปลอกหมอนหนุนหมอนข้างให้ด้วย น้องชอบสีไหนเลือกได้เลยจ้ะ” คนหอบหิ้วเอ่ย พลางยกถุงในมือขึ้นสูง เพื่อให้เด็กหนุ่มดูได้ถนัดๆ

“ราคาเท่าไหร่ครับ” กล้าถามอย่างไม่กล้าตัดสินใจ เพราะกลัวว่าจะแพงเกินไป

“ปกติหนึ่งพันสามร้อยเก้าสิบเก้าบาท ลดเหลือแปดร้อยเก้าสิบเก้าบาทจ้ะ” พนักงานหญิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“แปดร้อยถ้วนได้ไหมครับ” คนมาซื้อต่อรองอีกครั้งอย่างหวังว่าจะได้ซื้อในราคาที่ถูกมากกว่านี้อีก

“เดี๋ยวขอถามเจ๊ก่อนนะ” พนักงานร้านตอบกลับด้วยรอยยิ้มอ่อน ก่อนจะหันไปทางหน้าร้านแล้วตะโกนถามเจ๊เจ้าของร้านออกมาไม่รอช้า “เจ๊ อันนี้ลดเหลือแปดร้อยถ้วนได้ไหม น้องเขาไม่มีตังค์แล้ว”

พลางยกผ้าห่มขึ้นให้หญิงวัยห้าสิบกว่าเจ้าของร้านดู

“ล่ายๆ” เจ้าของร้านซึ่งมีเชื้อสายจีนตอบกลับง่ายๆ ไม่คิดมาก เพราะดีกว่าเก็บไว้ให้ฝุ่นเกาะ

“ได้จ้ะ” พนักงานวัยสามสิบปลายๆ หันมายิ้มบอกเด็กหนุ่มตรงหน้า

“ขอบคุณครับ” กล้าเอ่ยพลางยกมือไหว้ขอบคุณด้วยความดีใจ

“ไม่เป็นไรจ้ะ เอาสีไหนจ๊ะ” พนักงานร้านยิ้มตอบกลับด้วยความยินดี ก่อนที่จะบอกให้กล้าเลือกสีอีกครั้ง

ได้ยินคำกล่าว กล้าก็หันไปจับจ้องผ้าห่มสีฟ้า ชมพู เขียว เหลืองตรงหน้าอย่างครุ่นคิดว่าจะเลือกสีไหนดี

ใช้เวลาคิดอยู่สักพัก กล้าก็ตัดสินใจออกมา “เอาสีนี้ครับ”

พลางชี้ไปยังสีที่ต้องการ

“ไอ้กล้า ลูกศิษย์น้ามึงเป็นผู้ชายนะโว้ย” อั๋นเตือน เมื่อเห็นเพื่อนชี้ไปยังผ้าห่มสีชมพูหวานแหววซึ่งไม่เหมาะกับผู้ชายเลยสักนิด

“รู้แล้ว แม่กูแค่ซื้อไปเผื่อไว้เท่านั้น” คนถูกเตือนตอบกลับอย่างจำได้ดี โดยที่ไม่ลืมยกคำกล่าวของคนเป็นแม่มาอ้างด้วย

“อย่างนั้นเหรอ” คนเตือนขมวดคิ้วตอบกลับอย่างไม่วางใจ กลัวว่าเพื่อนจะมีนอกมีในมากกว่านั้น

“อือ” คนถูกเตือนอมยิ้มพร้อมเลิกคิ้วส่งเสียงในลำคอยืนยันเสียงหนักว่าเป็นเช่นนั้นจริง

ได้รับคำยืนยันอย่างสวนทางกับสีหน้าว่าเป็นเช่นที่คิดจริงๆ อั๋นก็พลันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี เลยได้แต่ยืนมองเพื่อนเลือกซื้อของไปเงียบๆ เท่านั้น เพราะทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

ใช้เวลาซื้อของไม่นานก็แล้วเสร็จ ทั้งสองจึงหอบหิ้วชุดเครื่องนอนออกมาจากร้านช่วยกัน

“มึงจะกลับยังไงวะเนี่ย รถกูขนไปไม่หมดนะโว้ย” อั๋นซึ่งหอบหมอนกับผ้าห่มเดินตามหลังออกมาจากร้านถามอย่างกลัวว่าเพื่อนจะให้ตัวเองขับรถไปส่ง เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ของเขามันคันเล็กเกินไปไม่สามารถเอาเครื่องนอนทั้งสามชิ้นขึ้นรถได้หมดนั่นเอง

“รู้แล้ว กูจะนั่งสามล้อกลับ” กล้าซึ่งแบกที่นอนเดินออกมาก่อนหันไปตอบกลับ

“อ้อ” คนถามตอบรับอย่างเข้าใจ พลางเดินตามหลังอีกฝ่ายไปด้วยอย่างสบายใจขึ้นมาแล้ว

เดินหอบชุดเครื่องนอนตามกันมาสักพัก ก็มาถึงหน้าร้านค้าร้านหนึ่งซึ่งไม่ได้เปิดให้บริการ กล้าจึงวางที่นอนที่แบกอยู่ลงพื้น แล้วหันมาพูดกับเพื่อนด้านหลัง

“มึงรอกูอยู่นี่แป๊บหนึ่ง เดี๋ยวกูมา” พูดจบ กล้าก็เดินจากไปทันที ทิ้งให้อั๋นมองตามหลังไปด้วยความสงสัยว่าอีกฝ่ายจะไปซื้ออะไรอีก

นั่งรออยู่พักหนึ่ง อั๋นก็เห็นคนไปซื้อของ เดินหิ้วถุงใบใสใส่สมุดเล่มเล็กกลับมายื่นให้

“มึงเขียนดิ๊” กล้าบอกคนที่นั่งรออยู่ทันทีที่เดินมาถึง พร้อมยื่นถุงใส่บิลเงินสดเล่มหนาขนาดเท่าฝ่ามือที่เพิ่งซื้อมาไปให้เพื่อนไม่ให้เสียเวลาด้วย

“เขียนอะไร” คนถูกยื่นถุงมาให้ขมวดคิ้วถามด้วยความงุนงง ขณะยื่นมือไปรับเอาถุงมาจากอีกฝ่าย

“ราคาที่นอนนี่ไง” คนถูกถามตอบกลับ พลางพยักพเยิดไปยังที่นอนที่เจ้าตัวนั่งเฝ้าอยู่

“โหย... ไอ้เลว นี่มึงจะโกงแม่มึงเหรอ” อั๋นว่าให้อย่างอดใจไม่ไหว เมื่อรู้แล้วว่าเพื่อนจะให้ตัวเองทำอะไร

“โหย...ไอ้คนดี กูก็เลียนแบบมึงนั่นแหละ” กล้าปรายตาสวนกลับด้วยความหมั่นไส้ทั้งมันเขี้ยว ที่อีกฝ่ายทำเป็นลืมพฤติกรรมของตัวเอง

ด้วยว่าพวกเขาเคยมาซื้อรองเท้าฟุตบอลด้วยกัน แล้วไอ้คนดีตรงหน้า มันก็มาทำแบบนี้ให้เขาเห็น จนเกิดการเลียนแบบขึ้นมาเหมือนอย่างในวันนี้นั่นเอง

ซึ่งนอกเหนือจากการปลอมราคาขายจากร้านให้สูงขึ้นแล้ว เพื่อนตรงหน้ามันยังไปโกหกแม่ของตัวเองว่า เงินไม่พอซื้อรองเท้า จนต้องมายืมเขาเพิ่ม เพื่อจะเอาเงินไปแต่งรถมอเตอร์ไซค์สุดรักของเจ้าตัวด้วยอีกอย่าง

“อย่างนั้นเหรอ ฮ่าๆ ๆ ” คนถูกยอกย้อนบอกอย่างขัดเขิน ใบหน้าเห่อร้อนไปหมด จนอดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้

“เออน่ะสิ รีบเขียนเร็วๆ เข้าจะได้รีบกลับ” กล้ากระแทกเสียงตอบกลับด้วยความหมั่นไส้ไม่หาย และไม่วายเร่งรัดออกมาด้วย เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่หัวเราะขำอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมเขียนบิลใหม่ให้สักที

ได้ยินคำเร่ง อั๋นจึงรีบก้มหน้าเขียนรายการตามบิลที่ร้านขายเครื่องนอนออกให้ไม่รอช้า พลางถามราคาไปด้วย เพื่อจะทำให้ได้ถูกใจคนสั่ง “เอาราคาเท่าไหร่”

“แม่กูให้เงินมาสามพัน...”

“โห...แม่มึงใจป้ำจริงๆ เลยว่ะ” อั๋นเงยหน้าขึ้นเอ่ยแทรกอย่างอดใจไม่ไหว หลังได้ยินว่าแม่ของอีกฝ่ายให้เงินมาเท่าไหร่

“เออสิ มึงอย่าย้ำ กูยิ่งเคืองๆ อยู่” คนถูกเอ่ยแทรกกระแทกเสียงตอบรับด้วยความขุ่นเคืองให้คนเป็นแม่ไม่หาย ก่อนจะบอกราคาที่ได้ครุ่นคิดเอาไว้ตอนเดินกลับมาเมื่อสักครู่ออกไปให้เพื่อนฟังต่อ “ราคาที่นอนหนึ่งพันสามร้อยลบสามพัน เหลือพันเจ็ด ค่าหมอนสองร้อย ผ้าห่มแปดร้อย เหลือเจ็ดร้อย ลบค่าแรงกูสี่ร้อย เหลือสามร้อย ลบค่าไอติมกับค่ารถมาร้อยหนึ่ง เหลือทอนสองร้อยเป็นค่าสามล้อกลับพอดี โอเค มึงเขียนตามนี่แหละ”

“โห เอาทุกเม็ดเลยนะมึง” อั๋นว่าให้อย่างอดใจไม่ไหว หลังได้ยินคำร่ายยาวจากเพื่อน

“เออสิ อยากเขี้ยวดีนัก” กล้าบอกด้วยความมันเขี้ยวให้คนเป็นแม่ไม่คลาย

“ไอ้ห่า” อั๋นยิ้มว่าให้เพื่อนด้วยความขบขันอย่างข่มกลั้นไม่ไหว ทั้งอดใจไม่อยู่ ก่อนจะหันกลับมาเขียนราคาตามที่เพื่อนบอกไม่รอช้า

ตวัดปากกาเขียนยึกยักอยู่สักพัก อั๋นก็เงยหน้าขึ้นบอกคนข้างตัว “เสร็จแล้ว”

พลางส่งบิลเงินสดที่เขียนราคาให้สูงกว่าความเป็นจริงยื่นไปให้คนจะใช้ได้ตรวจสอบ

“โอเค” กล้าที่รับบิลเงินสดมาตรวจสอบบอกด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะฉีกบิลที่เขียนขึ้นเมื่อสักครู่ออกมาใส่กระเป๋ากางเกง แล้วส่งส่วนที่เหลือกลับไปให้เพื่อนเก็บเอาไว้ เผื่อรอบหน้าอาจได้ใช้อีก

เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ช่วยกันหอบชุดเครื่องนอนไปขึ้นรถสามล้อซึ่งจอดรอผู้โดยสารอยู่ที่หน้าตลาดไม่รอช้า

“มึงตามไปรับกูด้วยนะ” กล้าซึ่งจับที่นอนยัดขึ้นรถสามล้อบอกเพื่อนด้านหลังเอาไว้ อย่างไม่อยากจะอยู่บ้านให้ถูกใช้ดั่งเช่นตอนนี้

“เออ” อั๋นตอบรับสั้นๆ ง่ายๆ อย่างพร้อมจะทำตาม พลางยื่นหมอนกับผ้าห่มไปให้คนตรงหน้าเอาขึ้นสามล้อไปด้วย

หลังจับชุดเครื่องนอนยัดขึ้นรถสามล้อเสร็จ กล้าก็ขึ้นนั่งยังเบาะด้านหลังทันที โดยที่อั๋นก็ได้หันหลังเดินกลับมายังรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองยังลานจอดรถเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel