บทที่ - 3
“อือ ฉันไม่สะดวกจะอยู่ที่นี่น่ะ มันไกลที่ทำงานของฉัน ปกติก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเรียนเธอรู้ใช่ไหมว่าเดินทางไปยังไง และต้องนั่งรถเมล์สายไหน” จริงๆ แล้วบ้านของเขากับคอนโดระยะห่างเท่ากันถ้าจะเดินทางไปที่บริษัท แต่เขาไม่สะดวกใจที่จะอยู่กับเด็กนี่ เขาไม่ชอบเด็กนี่แต่ก็ต้องทนเพราะเธอคือลูกสาวของพี่สาวอีกอย่างรับปากแล้วว่าจะดูแลเธอ
“เรื่องนั้นฝนสืบค้นจากอินเตอร์เน็ตแล้วค่ะ พอจะรู้อยู่บ้างว่าจะเดินทางยังไง...ว่าแต่น้าป้องจะกลับมาบ้านวันไหนคะ” สาวน้อยรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่เขาพาเธอมาทิ้งไว้ที่บ้านหลังใหญ่ของเขา
“บอกไม่ได้หรอก แล้วแต่วันน่ะ ฉันไปล่ะ มีอะไรก็โทรหาฉันตามเบอร์ที่ให้ไว้ได้ และต้องการอะไรก็บอกป้าเจียงได้เลย ป้าเจียงผมฝากดูแลหลานด้วยนะครับ” ท้ายประโยคเขาหันไปฝากฝังเธอกับป้าเจียงคนเก่าคนแก่ของบ้าน
“ค่ะคุณป้อง”
“ค่ะน้าป้อง”
ความสดใสก่อนหน้านี้ของณิชาภัทรหายไปทันที ความคิดความฝันที่วาดไว้ว่าจะได้อยู่บ้านกับเขาและทานข้าวด้วยกันทุกมื้อ เจอหน้ากันทุกวัน มันคงเป็นได้แค่ฝันเพราะตอนนี้เขาจะออกไปค้างที่คอนโด ส่วนปกป้องมองสีหน้าที่เศร้าของหลานสาวแล้วก็มองเมินไปทางอื่นพร้อมกับเดินจากไปทันที เขาไม่อยากอยู่ที่นี่ อีกอย่างคืนนี้เขามีนัดกับลูกค้าสาวที่เขารู้สึกถูกชะตาและแล้วเขาก็มีแผนการจะจีบหล่อนอีกด้วย
“ไปดูห้องกันเถอะค่ะหนูฝน” ป้าเจียงเอ่ยชวนเด็กสาวเมื่อเหลือกันสองคน
“ค่ะป้าเจียง ไม่เป็นไรค่ะป้า หนูลากกระเป๋าเองได้” เมื่อเห็นว่าป้าเจียงกำลังจะลากกระเป๋าให้เธอจึงห้ามท่านไว้แล้วเดินไปถือลากเอง แล้วเดินตามท่านขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน
ณิชาภัทรมองดูห้องนอนตัวเองที่ป้าเจียงจัดไว้ให้ และเธอก็ถามป้าเจียงว่าห้องของปกป้องอยู่ส่วนไหนของบ้าน พอรู้ว่าห้องของเขาอยู่ข้างห้องของตัวเอง ให้ตายเถอะเธอได้นอนห้องติดกับเขา ตอนนี้ป้าเจียงออกไปแล้วเด็กสาวจึงจัดการเสื้อผ้าของตัวให้เข้าตู้อย่างเรียบร้อย อีกสองวันจะเปิดเรียนเธออยากรู้นักว่าห้องนอนของเขาเป็นยังไง
“ไปแอบดูหน่อยดีกว่ายัยฝน” เธอบอกตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไปยังห้องข้างๆ และก็ต้องยิ้มเมื่อประตูห้องข้างๆ ไม่ได้ล็อกเธอจึงบิดลูกบิดแล้วเปิดผลักเข้าไปดู
“ขอสำรวจห้องหน่อยนะคะน้าป้อง” เธอเดินเข้ามาในห้องนอนของผู้ชายที่ตัวเองฝันถึงตั้งแต่ที่รู้จักและเจอกันที่คลองหลังบ้านวันนั้น และพอได้มาอยู่ในห้องของเขาก็เดินสำรวจห้องนอนที่มีแค่ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งที่มีครีมบำรุงหน้าแค่ไม่กี่ตัวพร้อมกับเตียงนอนขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง
“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ห้องก็ดูมืดทึบน่ากลัวจะตาย” สาวน้อยบ่นแล้วเดินไปยังห้องน้ำของเขา เข้าไปในห้องน้ำก็ไม่มีอะไร มีแค่ของใช้แปรงสีฟัน โฟมล้างหน้าเท่านั้น ส่วนห้องอาบน้ำก็มีแต่อางอาบน้ำและมีครีมอาบน้ำกับแชมพูสระผมเท่านั้น
“ไม่มีอะไรเลย ไปเปิดตู้เสื้อผ้าดูดีกว่า” แล้วเดินออกมาเปิดตู้เสื้อผ้าที่ไม่มีอะไรอีกล่ะ นอกจากเสื้อเชิ้ตสีขาวที่จัดเป็นระเบียบไล่สีกัน ส่วนกางเกงก็มีแต่สแลคสีดำ และมีชุดลำลองไม่กี่ชุด แล้วเปิดลิ้นชักเล็กดูก็เจอบ๊อกเซอร์ของเขา
“บ๊อกเซอร์ ไม่มีกางเกงในแสดงว่า อร้าย...น้าป้องใส่แค่บ๊อกเซอร์” สาวน้อยคิดซุกชนแล้วหยิบกางเกงบ๊อกเซอร์ของน้าชายออกมาจากลิ้นชักแล้วชูกางออกดู
“น้าป้องเป็นคนง่ายๆ แน่เลย ดูจากห้องและตู้เสื้อผ้าแล้วไม่เยอะ กางเกงเนี่ยก็ผ้านุ่มดีจัง” นำบ๊อกเซอร์มาแนบถูไถแก้มตัวเองแล้วหลับตาเคลิ้มถึงวันนั้นที่คลองหลังบ้าน
“อ่า กล้ามแน่นๆ แล้วข้างล่างจะใหญ่เหมือนนายแบบในนิตยสารไหมนะ อร้าย...แค่คิดก็หื่นแล้ว งั้นกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวนี้หนูขอนะคะน้าป้อง” แล้วเธอก็ปิดลิ้นชักไว้เหมือนเดิมนำกางเกงบ๊อกเซอร์ที่หยิบออกมายัดไว้ในเสื้อตัวเองแล้วเดินกลับห้องตัวเองทันที และโชคดีที่บ้านนี้มีแค่เธอกับป้าเจียงอยู่จึงทางสะดวกในการขโมยบ๊อกเซอร์ของน้าชายสุดหล่อ
ปกป้องนัดนัยนามายังร้านอาหารที่ชอบแถวสุขุมวิท และทำไมเขารู้เพราะเขาสืบมา เธอชอบทานอาหารไทยร้านนี้มาก เขามาถึงร้านก่อนเวลาสิบนาที และรอไม่นานหญิงสาวก็มาถึง เธอแต่งตัวสวยงามเหมือนทุกครั้ง อ่อนหวานด้วยชุดเดรสชีฟองสีชมพูอ่อน แต่งหน้าเบาๆ เขายิ้มให้เธอพร้อมกับลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้เธอนั่ง
