บท
ตั้งค่า

บทที่6 กระตุกหนวดเสือ

สามวันมานี้หนิงฮวาได้ยินบ่าวไพร่พูดเรื่องของท่านแม่ทัพกับฮูหยินรองอยู่ทุกวัน บางคนก็ว่าคงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ อีกไม่นานคงจะมีคุณหนูคุณชายวิ่งกันเต็มจวน

บางครั้งนางก็ต้องได้ยินว่าบ่าวไพร่ต่างพากันอิจฉาฮูหยินรอง ท่านทั้งสองพบกันราวพรหมลิขิต ได้ไปพบรักขณะที่ไปรบ และร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานนับปี

แม้ฮูหยินรองจะมิใช่ลูกของผู้มีอำนาจ แต่ท่านแม่ทัพกลับแต่งฮูหยินรองเข้าจวนมาไล่เลี่ยกับฮูหยินเอก แถมดูเหมือนว่าท่านแม่ทัพจะรักฮูหยินรองมากกว่าฮูหยินเอกที่ถูกผู้ใหญ่บังคับหมั้นกันตั้งแต่เยาว์วัย

ทหารยามที่เฝ้าอยู่บริเวณเรือนของฮูหยินเอกก็พูดกันว่า เมื่อยามที่ท่านแม่ทัพมานอนค้างที่เรือนของฮูหยินเอก มันไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา ร้อยวันพันปีเท่านั้นจึงจะได้ยิน

หนิงฮวาได้ยินคำพูดเหล่านี้มาโดยตลอด เพียงแต่นางไม่อยากถือสาเอาความ นางคงไม่สามารถห้ามปากและความคิดของผู้ใดได้ สิ่งที่เขาพูดมาก็ใช่ว่าจะเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น หลายสิ่งที่พวกเขาพูดมาล้วนเป็นความจริง

นางมิใช่คนที่อ่อนหวานและขี้เอาใจแบบฮูหยินรอง นางเติบโตมาอย่างบุตรสาวของขุนนาง การแสดงออกแต่ละอย่างควรสง่างาม มิควรทำสิ่งใดประเจิดประเจ้อจนเป็นที่นินทา

"ฮูหยินอย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาเลยนะเจ้าคะ" ซิงอีได้แต่กุมมือของผู้เป็นนายแน่น ก่อนจะสาดน้ำออกไปทางหน้าต่าง ทันได้นั้นก็ได้ยินเสียงร้องโอ้ยออกมา

"หุบปากเน่าๆของพวกเจ้าไปซะหากยังอยากมีลิ้นไว้พูดอยู่!" ซิงอีเดินมาที่หน้าต่างก่อนจะชี้หน้าด่าบ่าวไพร่ในจวนที่กำลังนินทาเจ้านายของตน ก่อนจะปิดหน้าต่างเสียงดังสนั่น

โชคดีที่หนิงฮวามีสาวใช้อย่างซิงอี เพราะไม่ว่านางจะโกรธนางก็ไม่อยากที่จะไปด่าหรือว่าใคร ตั้งแต่เด็กนางอาจจะเป็นคนที่เอาแต่ใจบ้าง แต่นางก็ไม่ใช่คนที่ร้ายกาจ นางมักใช้ความเงียบให้ได้สิ่งที่ต้องการ

เมื่อนางยังเยาว์วัย นางอยากกินขนมตังเมดอกไม้ ท่านพ่อก็จะหามาให้ นางชอบขนมนี้มากเสียจนอยากได้มากินในทุกวัน แต่ท่านพ่อเป็นห่วงสุขภาพของนาง จึงไม่ยอมซื้อให้ หนิงฮวาในวัยเยาว์จึงใช้ความเงียบในการประท้วงท่านพ่อ

นางทำตัวปกติทุกอย่าง ท่านพ่อให้กินข้าวนางก็กิน ให้นอนนางก็นอน เพียงแต่มิยอมปริปากคุยกับท่านพ่อสักคำ จนในที่สุดเสนาบดีไป๋ก็พ่ายแพ้ให้กับลูกสาว ถึงกับยอมซื้อขนมตังเมดอกไม้มาให้นาง จนนางกินแทบไม่หมด

"ขอบใจเจ้าที่คอยเป็นห่วงข้าอยู่เสมอ"

หนิงฮวากล่าวอย่างอ่อนโยน ซิงอีมิใช่เพียงสาวใช้ แต่นางเป็นดั่งน้องสาวคนสำคัญที่คอยเป็นเดือดเป็นร้อนแทนนางเสมอ

"ไม่ให้ซิงอีห่วงท่าน แล้วจะให้ซิงอีห่วงใครล่ะเจ้าคะ คุณหนูโปรดอย่าเศร้าไปมากกว่านี้เลยเจ้าค่ะ ทำตามใจตนเองบ้างเถิด ซิงอีเห็นคุณหนูเป็นเยี่ยงนี้แล้วเจ็บหัวใจยิ่งนักเจ้าค่ะ"

หนิงฮวาได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาเบาๆ นางคิดว่านางเก็บอารมณ์ได้ดีแล้ว แต่มันคงไม่สามารถรอดพ้นสายตาของซิงอีไปได้สินะ..

"ข้าจะพยายาม"

ยามอู่ซิงอีได้มาที่โรงครัวเพื่อนำโสมมาตุ๋นเป็นยาไปให้หนิงฮวาผู้เป็นนาย นางหวังว่าสมุนไพรจะทำให้ฮูหยินของนางแข็งแรงและสดชื่นขึ้น ขณะที่ซิงอีถือโสมอยู่ในมือ ซือซือสาวใช้คนสนิทของฮูหยินรอง ก็รีบวิ่งมาแย่งโสมไป ทั้งคู่ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นาน

"นี่ซือซือ เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ กล้าดีอย่างไรมาแย่งโสมฮูหยินของข้า"

"เจ้านั่นแหละปล่อยมือ ยามนี้ฮูหยินรองของข้าป่วยไข้ โสมนี้จะต้องให้ฮูหยินของข้า!" ทั้งสองฉุดกระชากกันไปมาอย่างรุนแรง ซิงอีจึงปล่อยมือออก ทำให้ซือซือเสียหลักล้มลงไปกองอยู่กับพื้น

ซิงอีหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะแย่งโสมในมือของซือซือคืนมา และเริ่มนำมาประกอบเมนูไก่ตุ๋นโสมเพื่อที่จะนำไปให้หนิงฮวาผู้เป็นนาย ซือซือจึงรีบลุกและเดินออกไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

ซิงอีใช้เวลาอยู่ในห้องครัวประมาณหนึ่งชั่วยาม ไก่ตุ๋นโสมก็เสร็จได้ที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ นางตักน้ำซุปร้อนๆใส่ถ้วยลายครามอย่างปราณีตและบรรจง นางยิ้มอย่างภูมิใจในผลงานของตัวเอง

ขณะที่นางกำลังจะยกสำรับออกจากครัว ก็ต้องชะงักเมื่อพบว่า ฮูหยินรองกำลังยืนขวางประตูอยู่โดยที่มีซือซือยืนอยู่ข้างหลัง ซิงอีค้อมศรีษะเคารพฮูหยินรองก่อนจะขอตัวเดินออกมา แต่ทว่านางกลับมิยอมหลีกทางให้

"ไก่ตุ๋นโสมถ้วยนี้ช่างน่ากินยิ่งนัก ข้าขอได้หรือไม่"ฮูหยินรองเอ่ยขึ้น

"เรียนฮูหยินรอง เกรงว่าซุปถ้วยนี้จะให้ท่านไม่ได้ ซิงอีต้องนำมันไปมอบให้ฮูหยินเอกที่เรือน หากฮูหยินรองอยากได้ข้างในหม้อยังมีเหลือเยอะเลยเจ้าค่ะ" แม้ซิงอีจะได้แต่ก้มหน้าแต่นางก็พูดอย่างหนักแน่น

"เช่นนั้นรึ" เมื่อพูดจบหลิวลี่ถังก็ปัดสำรับที่ซิงอีถืออยู่ทันที น้ำซุปที่กำลังร้อนก็ลวกเข้าไปที่มือของซิงอีอย่างจัง นางได้แต่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ซือซือที่ยืนอยู่ข้างหลังก็หัวเราะชอบใจออกมาทันที

"เจ้ากล้าดีอย่างไรมาบอกให้ฮูหยินของข้ากินของเหลือในหม้อ สมน้ำหน้าเจ้าแล้ว" ซือซือเย้ยหยันซิงอีด้วยความสะใจ

ลี่ถังแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินกลับไป โดยที่มีซือซือหัวเราะเยาะก่อนจะหันหลังเดินตามฮูหยินรองไป

ซิงอีก้มหน้าใช้ไหล่เล็กๆเช็ดน้ำตาก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นมา เก็บกวาดเศษถ้วยที่หล่อนกระจายอยู่ที่พื้น นางล้างมือและแขนที่เปื้อนน้ำซุปแม้ปวดแสบปวดร้อนมากเพียงใด นางก็ต้องยกสำรับนี้ไปให้ฮูหยินของนางให้จงได้

ซิงอีตักสำรับใหม่ขึ้นมาอีกชุดก่อนจะค่อยๆเดินมุ่งหน้ากลับไปยังเรือนที่ฮูหยินกำลังรออยู่ เมื่อมาถึงก็พบว่าหนิงฮวากำลังนั่งรออยู่แล้ว ซิงอีซึงรีบจัดสำรับขึ้นโต๊ะอย่างกระฉับกระเฉง

"เจ้าไปนานมากจนข้าเกรงว่าจะไม่ได้กินเสียแล้ว"หนิงฮวาเอ่ยขึ้นอย่างติดตลก กับข้าวมื้อนี้ช่างหอมน่ากินยิ่งนัก นางยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นรอยแดงที่มือและแขนของซิงอี

"มือเจ้าไปโดนอะไรมา" หนิงฮวาถามด้วยความเป็นห่วง เหตุใดซิงอีของนางจึงดูไม่ร่าเริงอย่างเช่นเคย เกิดอันใดขึ้นกันแน่

"ซิงอีเพียงแค่ไม่ทันระวังเลยทำให้น้ำร้อนลวกเจ้าค่ะ" ซิงอีได้แต่ก้มหน้าลงมองพื้น หนิงฮวาใช้สายตากวาดมองอย่างละเอียดจึงรู้ได้ว่าซิงอีกำลังโกหก

"เงยหน้าขึ้นมามองหน้าข้า แล้วพูดมาว่ามือของเจ้าไปโดนอะไรมา" หนิงฮวาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาบรรยากาศโดยรอบเย็นวาบขึ้นมาทันที เมื่อรู้ตัวว่าไม่สามารถโกหกผู้เป็นนายได้ ซิงอีจึงยอมเล่าความจริงทั้งหมดให้หนิงฮวาฟัง

เมื่อหนิงฮวาฟังจบ นางก็ไม่ยอมพูดสิ่งใดแต่กลับลุกขึ้นและเดินไปยังเรือนของลี่ถังทันที ทำร้ายซิงอีก็เท่ากับตบหน้านาง ถ้าหากว่าอยู่กันดีๆไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่!!

ปั้ง!! เสียงประตูเปิดออกดังสนั่น หนิงฮวาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ราบเรียบเย็นชา ลี่ถังที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ก็ลุกขึ้นมาคารวะฮูหยินเอก

"ลมอะไรหอบพี่หญิงเข้ามาหรือเจ้าคะ" ลี่ถังพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน สีหน้าไม่รู้สึกรู้สา

หนิงฮวาปัดสำรับบนโต๊ะหล่นแตกกระจาย นางไม่ยอมพูดจา เดินเข้ามาตบหน้าฮูหยินรองทันที หลิวลี่ถังไม่ทันตั้งตัวจึงเสียหลักล้มลงนั่งทับน้ำแกงร้อนๆ มือนางก็ถูกเศษถ้วยเศษจานบาดจนเลือดไหล

ซือซือรีบวิ่งเข้ามาประคองผู้เป็นนาย แต่กลับถูกหนิงฮวากระชากผมไว้และใช้ฝ่ามือตบไปที่หน้าของบ่าวตัวต้นเหตุทันที ซือซือใช้มือทั้งสองข้างกุมแก้มทั้งสองข้างเอาไว้ ตอนนี้แก้มทั้งสองของนางถูกตบจนรู้สึกเจ็บแสบ ริมฝีปากก็มีเลือดไหลออกมา

"ข้าคงมิต้องอธิบายการกระทำของข้าหรอกกระมัง หากยังมีคราวหน้าที่เจ้าทำร้ายคนของข้าอีกละก็ อย่าหาว่าข้าใจร้ายก็แล้วกัน"

หนิงฮวาพูดด้วยความอาฆาต แม้นางจะไม่ชอบหน้าของฮูหยินรอง นางก็ไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายหรือกลั่นแกล้งอะไรทั้งนางและคนของนาง แต่ลี่ถังกลับกล้ามาเหยียบจมูกนางเช่นนี้ นางก็คงจะไม่ยอมอยู่เฉยให้คนของนางถูกรังแกง่ายๆเช่นกัน!

"ซิงอี กลับ!!" หนิงฮวาสบัดชายผ้าเดินออกไปทันที บ่าวไพร่ที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างพากันก้มหน้าหมอบลงกับพื้นทันที จนฮูหยินเอกเดินผ่านไปไกลแล้วจึงกล้าเงยหน้าขึ้นมา พวกเขาต่างรอบคิดใจใจว่า ฮูหยินรองได้ไปกระตุกหนวดเสือเข้าเสียแล้ว จากนี้ไปจวนคงลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel