บท
ตั้งค่า

บทที่ 4-1

“กินอะไรเอ่ยทิป”

เวรุณีสะดุ้งเฮือก พจนารถยิ้มเผล่วางจานข้าวแกงลง แล้วนั่งร่วมโต๊ะตรงหน้า

“ข้าวมันไก่น่ะ แล้วนารถไปไหนทำไมวันนี้มาช้า”

ปรกติเดินผ่านไปชงกาแฟจะเห็นเขานั่งที่โต๊ะ แต่วันนี้พจนารถกระหืดกระหอบมาเอาตอนสิบโมงเช้า

“ลาสองชั่วโมง วันนี้ครบรอบวันตายแม่ เลยไปถวายภัตตาหารที่วัด”

เธอมองเขาแล้วเปรียบเทียบกับตัวเอง สักวันเธอต้องมีรอยยิ้มมาจากใจจริง โดยไม่เสแสร้งว่าตัวเองเข้มแข็งดังที่เป็นอยู่

“เมื่อวานนี้ซีอีโอคุณธรณ์เรียกทิปไป มีอะไรหรือเปล่า”

ธนาคารสำนักงานใหญ่แห่งนี้ใหญ่โต แต่ก็ไม่เล็กนักสำหรับข่าวคราวต่างๆ ยิ่งเรื่องแปลกๆ อย่างผู้บริหารใหญ่เรียกพบพนักงานตำแหน่งเล็กๆ เพียงลำพัง

“อ๋อ...”

เวรุณียิ้มกลบเกลื่อน

“เขา เอ๊ย! ท่านเป็นคนรู้จักกับพ่อแม่ฉันน่ะ เลยถามข่าวเรื่องไทม์”

พจนารถเห็นว่าเป็นเรื่องเวลา ซึ่งกระทบใจเธอ เขาจึงไม่เซ้าซี้ถามต่อ แต่ชวนคุยเรื่องอื่นๆ ซึ่งก็พอทำให้เวรุณียิ้มได้บ้าง

“คาเฟทีเรียของเราสะอาด ได้รับรางวัลรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย ขายอาหารราคาถูกเพื่อลดภาระค่าครองชีพของพนักงาน”

ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลอธิบายนำชมสถานที่อย่างตั้งอกตั้งใจ ธรณ์ทำทีเป็นฟัง สายตากวาดไปทั่วบริเวณ แล้วสะดุดอยู่ที่สองหนุ่มสาว

เวรุณีหัวเราะสดใสอยู่กับพนักงานชายคนหนึ่ง ความรู้สึกไม่พอใจแล่นขึ้นใบหน้าเป็นริ้วๆ แต่ธรณ์ซ่อนไว้แนบเนียนภายใต้หน้ากากผู้บริหารอันสุขุม

ขณะเขาเศร้าเสียใจกับการจากไปของน้องสาว เวรุณีที่ปากบอกเสียน้องชายกลับหัวเราะ ยิ้ม ...หลายวันที่เขาดังตกนรก เธอกลับมีความสุข ไม่ยุติธรรมเลย

โลกธุรกิจโหดร้าย ธรณ์ต้องบริหารทรัพย์สินพ่อแม่ตั้งแต่ยังหนุ่ม สูญเสียช่วงเวลาวัยรุ่นไปกับภาระรับผิดชอบอันหนักอึ้ง คมเขี้ยวของคนรอบข้างที่พร้อมเอาเปรียบและแย่งทึ้งทรัพย์สมบัติ

ธิณาเท่านั้นที่เป็นดังน้ำทิพย์ชโลมใจอันแห้งแล้ง น้องสาวเป็นเพียงคนเดียวในโลกที่ธรณ์เชื่อใจที่สุด แสงสว่างอันสดใสในชีวิต บัดนี้ดับลงแล้วด้วยวัยอันเยาว์

...เหลือเพียงตัวเขาคนเดียวในโลก และความรู้สึกผิด โทษตัวเองว่าน่าจะดูแลเธอให้ดีกว่านี้ พาลไปโกรธตัวต้นเหตุอย่างเวลา และพี่สาวของมัน ที่ยังยิ้มระรื่นอยู่ได้

เวรุณีเม้มปากกอดอก เมื่อเขามายื่นหน้าบ้าน เวลาเดิมเป๊ะ

“เราจะคุยกันเรื่องเดิม”

โดยไม่ต้องขยายความว่าเรื่องไหน เธอยอมเปิดประตูให้อย่างไม่เต็มใจ ธรณ์เดินตามหลังร่างในชุดพนักงานธนาคาร ชุดเข้ารูป อวดอกอิ่ม เอวเว้า และก้นงอน

หุ่นเธอไม่บาง มีทรงน่าสัมผัสลูบไล้เหมือนนาฬิกาทราย เขาเห็นแล้วนึกไปถึงภาพเธอหัวเราะแล้วยิ่งขัดใจ

“นัดวันฉีดอสุจิเมื่อไรล่ะ ฉันจะได้คำนวณวันไข่ตก”

เป็นการสนทนาทางวิทยาศาสตร์อันแห้งแล้ง ไร้ซึ่งความโรแมนติกเหลือเกินในความคิดเวรุณี ทำอย่างไรได้เล่า ...ก็เขาหวังแค่ทายาท ส่วนเธอก็ไม่เต็มใจช่วยก่อกำเนิดให้นัก

“ไม่มีการฉีด ผมขอวิธีธรรมชาติ”

เวรุณีหยุดนิ่ง อ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก

“คุณกับผมก็แค่คนไม่ใช่สเปคมานอนด้วยกัน ...แค่สัมพันธ์ทางกาย”

“ฉันเคยคิดว่าคุณน่ะบ้า ตอนนี้ไม่คิดแล้ว คุณน่ะเป็นคนบ้าจริงๆ”

ดวงตาคมดำจ้องร่างอวบที่นั่งอยู่ตรงหน้า ไล่ตั้งแต่ผมยาวสีธรรมชาติมัดสูงเป็นหางม้า ดวงหน้ากลมขาวกระจ่างใส แพขนตายาวกระพริบถี่ยามตกใจ จมูกโด่งนิด ริมฝีปากอิ่ม อกหยุ่น เอวเว้า สะโพกผาย ที่ก่อกวนใจเขาตั้งแต่เมื่อวาน

ธรณ์ไม่เคยยุ่งกับพนักงานในบริษัท ไม่ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด แม้จะมีสาวใจกล้าทอดสะพานให้บ่อยๆ ก็ตาม แต่กับเวรุณี เธอกับเขาเจอกันในสถานการณ์ไม่ปรกติ

เขาพยายามไม่คิดคิดถึงเธอ ลบความรู้สึกละมุนมือยามสัมผัสความนุ่มนิ่ม ทำเป็นลืมๆ กับกลิ่นหอมอ่อนๆ เมื่อคืน พยายามแล้ว แต่ใจกลับลอยไปวนเวียนเรื่องเธอโดยอัตโนมัติ ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ ยิ่งโกรธปนหงุดหงิด จนเขาต้องถามตัวเองว่ากำลังเป็นบ้าอะไร

“คุณไม่มีใครไม่ใช่เหรอ”

“จะมีหรือไม่มีก็ไม่เกี่ยว แต่คุณกำลัง ...ขอมีอะไรกับฉัน”

เธอหน้าแดงซ่าน ยางอายหายไปจากหน้าเขาหมดแล้วกระมัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel