บทที่ 6 การตัดสินใจครั้งใหญ่
“แต่ถ้าหากเจ้าทำเช่นนั้น ซานเอ๋อร์รู้ใช่หรือไม่ว่าท่านพ่อจะโกรธมากกว่าเดิม” มือเล็กๆ ของคนเป็นแม่บีบมือบางของลูกสาวคืน แววตาของนางเต็มไปด้วยความวิตกกังวลอยู่หลายส่วน
“หลังหย่าข้าไม่คิดที่จะกลับมาเหยียบที่ตระกูลหวงอีกแล้วล่ะเจ้าค่ะ ข้าถึงได้มาหาท่านแม่เพราะอยากให้ท่านแม่ไปด้วยกันกับข้า” หวงซานซานกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาไม่ได้บ่งบอกว่ากำลังล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย นางรู้จากหนิงหยู่มาว่าเสนาบดีหวงฉงตัดความสัมพันธ์กับเจ้าของร่างนี้ไปตั้งแต่ที่หวงซานซานสร้างเรื่องฉาวโฉ่แล้ว ฉะนั้นนางไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับสกุลหวงอีกต่อไป
“หมายความว่าอย่างไร”
“ท่านแม่ไปกับข้านะเจ้าคะ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน อย่าทนอยู่ให้ฮูหยินใหญ่กับหวงจินหลิงรังแกอีกเลยเจ้าค่ะ” หวงซานซานเหลือบมองผ้าห่มที่มารดากำลังนั่งปักอยู่ก่อนที่นางจะมาถึง เป็นอย่างที่หนิงหยู่บอกไว้ไม่มีผิดว่าอ้ายเหมยมักจะถูกฮูหยินใหญ่เตาจี๋เหยากลั่นแกล้งเล็กๆ น้อยๆ มาโดยตลอด และผ้าห่มผืนนั้นเตาจี๋เหยาคงสั่งให้มารดาของนางปักเป็นแน่
“แม่… คือว่า แม่…” อ้ายเหมยเป็นห่วงบุตรสาวไม่น้อย แต่กระนั้นนางก็ไม่ได้มีความกล้ามากพอที่จะไปจากที่นี่ ในตอนที่ยังเป็นสาวรุ่นราวคราวเดียวกับหวงซานซาน นางก็อาศัยภายใต้เงาของบิดาที่เป็นพ่อค้าขายผ้าในตลาด ครั้นเมื่อแต่งเข้ามาเป็นฮูหยินที่จวนตระกูลหวง นางก็อยู่ภายใต้การดูแลของสามีมาโดยตลอด อ้ายเหมยคิดไม่ออกเลยว่าจะอยู่ตามลำพังกับหวงซานซานโดยไร้เงาของบุรุษได้อย่างไร
“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะดูแลท่านแม่เองเจ้าค่ะ”
อ้ายเหมยเงียบไปสักพักใหญ่ หวงซานซานก็ไม่ได้เร่งเร้าปล่อยให้มารดาได้มีเวลาตัดสินใจ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นานสุดท้ายอ้ายเหมยจึงพยักหน้ารับเบาๆ
“แม่จะไปกับเจ้า” แม้ว่านางจะกังวลถึงชีวิตใหม่ที่ตัดสินใจเลือก แต่อย่างน้อยก็ยังคิดว่าคงมีความสุขกว่าการอยู่ที่นี่ให้เตาจี๋เหยากับหวงจินหลิงข่มเหงรังแก แม้จะมีสามีแต่เขาก็ไม่เคยปกป้องนาง ในขณะที่ฮูหยินผู้เฒ่าผู้เป็นแม่สามีก็ลำเอียงเข้าข้างแต่ลูกสะใภ้ใหญ่อย่างเตาจี๋เหยา อย่างน้อยการไปกับหวงซานซานก็ทำให้นางได้อยู่ใกล้และดูแลบุตรสาวและหลานตัวน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอนาคต
คำตอบของอ้ายเหมยทำให้หวงซานซานดีใจเป็นอย่างมาก หากท่านแม่ตามไปด้วยอย่างน้อยนางก็ไม่ต้องมาคอยห่วงหน้าพะวงหลัง อ้ายเหมยผุดลุกขึ้นจากเตียงนุ่มก้าวเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าไม้ออกเผยให้เห็นหีบใบเล็กวางอยู่ข้างใน นางยกมันขึ้นมาวางบนโต๊ะน้ำชา เมื่อเปิดออกเผยให้เงินเครื่องประดับและเงินจำนวนหนึ่งวางอยู่เต็มหีบ
“แม่มีสมบัติอยู่บ้าง คิดว่าคงพอให้เราใช้จ่ายอย่างสุขสบายไปได้หลายเดือน” นางหันมาส่งยิ้มให้บุตรสาว หวงซานซานจึงแย้มริมฝีปากตอบคนเป็นแม่พลางส่งสายตามองไปยังหีบไม้ใบเล็ก ครุ่นคิดว่านางจะแบ่งเงินออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกจะเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อเปิดกิจการอะไรบางอย่างหาเลี้ยงชีพ ส่วนที่สองจะแบ่งไว้เป็นค่าเช่าบ้านหลังเล็กๆอยู่ และส่วนสุดท้ายจะเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน
ปังๆๆ!
เสียงตบประตูดังระรัวขึ้นอย่างแรง ทำให้ประตูไม้สั่นไหวไปตามแรงกระแทก อ้ายเหมยกับหวงซานซานหันมาสบตากันด้วยความแปลกใจ ก่อนที่หวงซานซานจะหันไปพยักหน้าให้หนิงหยู่ สาวใช้วัยกำดัดจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูเผยให้เห็นสตรีต่างวัยสองคนยืนอยู่ คนแรกเป็นสตรีวัยสี่สิบเศษอายุอานามไล่เลี่ยกับอ้ายเหมยแต่เหมือนจะมากกว่าเล็กน้อย นางแต่งกายด้วยชุดหรูหราสวมใส่เครื่องประดับเข้าชุดราวกับกล่องเครื่องประดับเดินได้ ส่วนอีกคนเป็นสตรีอายุเท่าๆกันกับหวงซานซาน แต่งกายด้วยอาภรณ์สีเหลืองอ่อนยาวกรอมเท้า ใบหน้าแต้มแต่งด้วยเครื่องประทินโฉมบางเบาเผยให้เห็นผิวขาวใสเนียนละเอียด
“มันอยู่นั่นเจ้าค่ะท่านแม่!” หวงจินหลงชี้ไปยังหวงซานซานที่นั่งอยู่ข้างๆของอ้ายเหมย
“ไปลากตัวของมันมา” เตาจี๋เหยาหันไปร้องสั่งสาวใช้ที่ติดตามมาอีกสองคน พวกนางจึงตรงเข้าไปหาหวงซานซานตามคำสั่ง อ้ายเหมยกับหนิงหยู่รีบปรี่เข้าไปขวางพวกนางเอาไว้ เตาจี๋เหยาเห็นเช่นนั้นจึงสั่งให้สาวใช้ทั้งสองคนจับตัวของอ้ายเหมยและหนิงหยู่เอาไว้แทน
“ข้าจัดการนังตัวดีนี่เองเจ้าค่ะท่านแม่” หวงจินหลิงหันไปกล่าวกับมารดาพลางส่งสายตามองไปยังหวงซานซานอย่างอาฆาต สตรีผู้นี้เป็นคนแย่งแม่ทัพจางอี้เหลียงไปจากนางแล้วยังมีหน้ากลับมาที่จวนตระกูลหวงอีกหรือ ทำเช่นนี้ถือว่าหยามหน้าของนางเกินไปแล้ว
“ฮูหยินใหญ่ คุณหนูรอง อย่าทำอะไรซานเอ๋อร์เลยนะ ถือว่าข้าขอเถอะ หากจะทำก็ทำข้าแทนเถอะเจ้าค่ะ” อ้ายเหมยขอร้องทั้งน้ำตา นางยอมเจ็บตัวแทนบุตรสาวดีกว่าเห็นหวงซานซานต้องเจ็บปวด อีกทั้งยังรู้สึกเป็นห่วงเจ้าก้อนกลมที่อยู่ในท้องของบุตรสาวอีกด้วย
หวงจินหลิงปรี่เข้าไปหาที่นั่งอยู่ข้างขอบเตียง ทว่าหวงซานซานที่เตรียมตัวระวังอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวงจินหลิงปรี่เข้ามาหมายจะจับตัวของนาง นางจึงเบี่ยงกายหลบพร้อมกับผุดลุกขึ้นยกเท้าขึ้นถีบไปที่สะโพกของหวงจินหลิงจนนางล้มคะมำหน้าคว่ำลงไปบนเตียงกว้าง
การกระทำของหวงซานซานที่โต้ตอบหวงจินหลิงทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างอึ้งไปตามๆกัน ไม่เคยเห็นหวงซานซานปฏิบัติเช่นนี้กับผู้ใดมาก่อน ที่ผ่านมายามที่นางยังอยู่ที่จวนตระกูลหวงและโดนสองแม่ลูกกลั่นแกล้ง นางก็ก้มหน้ายินยอมอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด ทว่าเหตุใดหนนี้หวงซานซานถึงได้โต้ตอบหวงจินหลิงอย่างรุนแรงเช่นนี้เล่า
“กรี๊ดดดดด! ท่านแม่นังตัวดีทำร้ายข้า” เสียงกรีดร้องของหวงจินหลิงทำให้หวงซานซานรีบยกมือขึ้นปิดหูแทบไม่ทัน เสียงของหวงจินหลิงไม่ต่างอะไรจากเสียงของนางร้ายในละครที่เคยดูเลยแม้แต่น้อย
“หุบปาก!” สุดท้ายทนไม่ไหวหญิงสาวจึงหันไปตวาดใส่หวงจินหลิงเสียงดังลั่น เสียงตวาดของหวงซานซานทำให้หวงจินหลิงปิดปากลงแทบไม่ทัน มองหวงซานซานอย่างอึ้งๆ ทั้งตกใจระคนสงสัยด้วยไม่เคยเห็นหวงซานซานปฏิบัติกับนางเช่นนี้มาก่อน
“หวงซานซานเจ้ากล้าทำร้ายหลิงเอ๋อร์เชียวหรือ แบบนี้คงอภัยให้ไม่ได้แล้ว!”
เตาจี๋เหยาปรี่เข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพลางยกมือขึ้นหมายจะตบสั่งสอนคนเหิมเกริมที่กล้าทำร้ายหวงจินหลิง แต่ก่อนที่มือของเตาจี๋เหยาจะฟาดลงข้างแก้มของนาง หวงซานซานได้ยกมือขึ้นคว้าหมั่บไปที่ข้อมือเรียวนั่นและออกแรงผลักจนฮูหยินใหญ่แห่งจวนสกุลหวงล้มคว่ำไปที่ข้างกายของหวงจินหลิงอีกคน จากนั้นหวงซานซานได้ปรี่เข้าไปดึงผ้าห่มผืนบางที่อ้ายเหมยนั่งปักอยู่ในตอนแรกขึ้นมาโยนไปใส่สองแม่ลูก ผ้าห่มสีชมพูเข้มคลี่ออกจากกันคลุมไปที่ร่างของเตาจี๋เหยาและหวงจินหลิงเอาไว้
ร่างบางของหวงซานซานตรงไปยังอ้ายเหมยและหนิงหยู่ สาวใช้ผู้ติดตามของเตาจี๋เหยาเห็นสีหน้าท่าทางเอาจริงของนางก็ไม่กล้าหือ รีบปล่อยมือจากอ้ายเหมยและหนิงหยู่ทันใด
“ท่านแม่ไม่ต้องรอวันอื่นหรอกเจ้าค่ะ ไปกับข้าวันนี้เลยดีกว่า”
“ซานเอ๋อร์จะดีหรือลูก”
“ดีสิเจ้าคะ ข้าทำร้ายฮูหยินใหญ่กับหวงจินหลิง หากขืนอยู่ต่อไป ท่านแม่คิดว่าพวกนางจะปล่อยท่านแม่กับข้าไปง่ายๆหรือเจ้าคะ รีบไปกันเถอะ” หวงซานซานคว้าแขนของมารดาให้เดินออกจากประตูไปด้วยกัน โดยไม่ลืมที่จะส่งสัญญาณให้หนิงหยู่อุ้มหีบไม้ใส่สมบัติออกไปด้วย
ทว่าเพียงแค่เดินออกมาถึงข้างนอกประตูยังไม่ทันจะก้าวขึ้นรถม้า เสียงเข้มดุดันของบุรุษผู้หนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน
“อ้ายเหมยหากเจ้าไปกับนาง ข้ากับเจ้าขาดกัน!”
อ้ายเหมยชะงักฝีเท้าลงทันใดพลางหมุนกายหันหน้ากลับมา หวงซานซานเองก็เช่นกัน นางเห็นบุรุษร่างท้วมผู้หนึ่งอายุราวห้าสิบปียืนอยู่ ข้างกันนั้นคือร่างบอบบางของหญิงชราที่ถือไม้เท้าหัวมังกรเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ หวงซานซานคิดว่าพวกเขาคงเป็นเสนาบดีหวงฉงกับฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลหวงไม่ผิดแน่
“อ้ายเหมยกลับมาเดี๋ยวนี้ ส่วนเจ้านังลูกอกตัญญู ไสหัวออกไปจากจวนของข้าเสีย!” หวงฉงตวาดเสียงดังลั่นพลางก้าวเข้ามาหมายจะคว้ามือบางของอ้ายเหมย ทว่านางกลับก้าวถอยห่างออกไปทางด้านหลังพร้อมกับส่ายศีรษะไปมาทั้งน้ำตา
“ข้าจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว ที่นี่มีแต่คนใจร้าย ท่านพี่เคยรู้หรือไม่ว่าข้าทุกข์ทรมานใจเพียงใดที่ต้องยอมให้ฮูหยินใหญ่กับคุณหนูรองกลั่นแกล้งรังแก ฮูหยินผู้เฒ่าก็ลำเอียงเข้าข้างแต่ฮูหยินใหญ่ ข้าเองก็เป็นคนเหมือนกับพวกท่าน มีเลือดเนื้อหัวใจและความรู้สึกไม่ต่างจากพวกท่าน แล้วเหตุใดพวกท่านถึงไม่สงสารเห็นใจข้าบ้างล่ะเจ้าคะ”
“หวงฉงหากนางตัดสินใจแล้วก็อย่าไปรั้งนาง ข้าเองก็อยากรู้เช่นกันว่าจะไปรอดได้กี่น้ำเชียว” ฮูหยินผู้เฒ่าหย่งเฉียงแค่นเสียงเหอะออกมาเบาๆในลำคอ นางเชื่อว่าไม่ถึงสามวันอ้ายเหมยก็ต้องกลับมาอย่างแน่นอน คนอย่างนางจะเอาตัวรอดได้อย่างไรกัน
“ข้าไม่ให้เจ้าไป” เสนาบดีหวงฉงปรี่เข้าไปคว้าข้อมือบอบบางของอ้ายเหมย ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของเตาจี๋เหยาที่เดินเข้ามาพร้อมกับหวงจินหลิง
ทว่าอ้ายเหมยกลับสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของสามี จากนั้นได้ยกมือบางฟาดลงไปที่แก้มสากของเขาอย่างแรง ท่ามกลางความตกใจของทุกคน
