บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ถึงตั้งครรภ์ก็จะหย่า

“แต่ที่อิงเอ๋อร์ทำไปก็เพราะรักท่านแม่ทัพนะเจ้าคะ อีกทั้งอิงเอ๋อร์อยากเป็นหูเป็นตาให้ท่านแม่ทัพเพราะเกรงว่าฮูหยินใหญ่จะมีแผนการร้ายกาจเหมือนที่นางเคยทำอย่างไรล่ะเจ้าคะ” หลิวอ้ายอิงกล่าวเสียงหวาน ขณะที่จางอี้เหลียงเงียบไปทันที ไยเขาจะไม่รู้ว่าหลิวอ้ายอิงกำลังพูดถึงเรื่องที่หวงซานซานเคยวางยาปลุกกำหนัดเขาจนได้เสียกัน

ดวงตาคมกริบเหลือบมองไปยังใบหน้างามที่เคลือบไปด้วยหยาดน้ำตาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะทรุดกายลงนั่งคุกเข่า มือหนาเอื้อมไปเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา

“เจ้าคงลืมข้อตกลงของเราไปแล้วสินะ”

แววตาคู่งามสั่นไหวไปมา เมื่อนึกถึงข้อตกลงที่แสนปวดใจ

“หรืออยากให้ข้ายกเลิกข้อตกลงระหว่างเรา”

“มะ ไม่นะเจ้าคะ อิงเอ๋อร์ขอโทษที่โกหกท่านแม่ทัพ ต่อไปอิงเอ๋อร์จะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้วเจ้าค่ะ” หลิวอ้ายอิงส่ายศีรษะไปมาระรัว ได้ยินเพียงเสียงเหอะที่ดังออกมาจากในลำคอ ร่างสูงของจางอี้เหลียงลุกขึ้นก้าวเดินออกไปจากห้องอย่างไม่ไยดีคนที่กำลังเปล่งเสียงร้องไห้กระซิกๆ เลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่จางอี้เหลียงเดินออกไปจากห้อง หลิวอ้ายอิงอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ด้วยความเสียใจระคนแค้นใจยิ่งนัก เขาไม่ได้รักนาง แต่ที่เขาแต่งนางมาเป็นฮูหยินรองเพราะข้อตกลงบางอย่าง…

หญิงสาวหวนนึกไปถึงเรื่องราวเมื่อสี่เดือนก่อน จางอี้เหลียงบอกว่าจะแต่งนางมาเป็นฮูหยินรองให้อยู่ในฐานะภรรยาของเขาเพียงเพราะต้องการทำให้หวงซานซานเสียใจ คราแรกที่นางยอมรับเพราะไม่อยากใช้ชีวิตเป็นบุตรสาวของอนุผู้แสนต้อยต่ำที่จวนสกุลหลิว ฐานะฮูหยินรองของท่านแม่ทัพใหญ่จางอี้เหลียงมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายกว่าเป็นไหนๆ อีกทั้งยังคิดว่านางจะสามารถเปลี่ยนใจให้เขาหันมารักได้จึงยอมตกลง เขาทำเป็นรักนางต่อหน้าหวงซานซาน แต่เมื่อลับหลังเขาก็หมางเมินกับนางมาโดยตลอด แม้กระทั่งร่วมเตียงกับนาง เขายังไม่เคยทำเลยสักหน

สรุปก็คือว่านางมีสถานะเป็นฮูหยินรองของเขาเพียงแค่ในตำแหน่งเท่านั้นเอง นางรู้ว่าแม่ทัพจางอี้เหลียงไม่ได้รักทั้งหวงซานซานและนาง จางอี้เหลียงไม่ได้มีสตรีใดอยู่ในหัวใจ แต่การที่ไม่มีหวงซานซานก็อาจทำให้เขายกย่องนางเป็นฮูหยินใหญ่แทนไม่ใช่หรือ เห็นทีว่าอาจถึงเวลาที่นางต้องกำจัดหวงซานซานออกไปจากตำแหน่งฮูหยินใหญ่ของแม่ทัพจางอี้เหลียงเสียแล้วสิ!

หลังจากที่หวงซานซานรับรู้ความจริงเรื่องที่เจ้าของร่างนี้กำลังตั้งครรภ์และได้ยืนกรานคำเดิมว่าอย่างไรก็จะหย่ากับแม่ทัพจางอี้เหลียงอยู่ดี รุ่งเช้าของวันต่อมาหลังจากที่ได้ตื่นนอน หวงซานซานได้สั่งให้หนิงหยู่ไปเตรียมรถม้าเพื่อเดินทางไปยังจวนตระกูลหวง

รถม้าคันใหญ่เคลื่อนออกไปตามถนน ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูจวนตระกูลหวง ทันทีที่ทหารเฝ้าประตูเห็นผู้มาเยือน เขาก็ไม่รีรอที่จะเปิดประตูต้อนรับนางทันใด เมื่อรถม้าได้จอดสนิท หวงซานซานและหนิงหยู่ก้าวลงจากรถม้า หญิงสาวกวาดสายตามองไปยังจวนไม้หลังใหญ่เบื้องหน้าพบว่าที่จวนตระกูลหวงแห่งนี้แม้จะเล็กกว่าจวนของแม่ทัพจางอี้เหลียง แต่ความโอ่อ่าและบริเวณพื้นที่โดยรอบไม่ได้ต่างกันเท่าใดนัก ทว่าที่จวนของแม่ทัพจางอี้เหลียงนั้นดูหรูหรามากกว่า

มิน่าเล่าหนิงหยู่ถึงได้บอกนางว่าจางอี้เหลียงเป็นบุรุษที่มีสตรีหมายปองเป็นอันดับหนึ่งในแคว้นเหยาแห่งนี้ เพราะนอกจากจะมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต เขายังเป็นคนที่ร่ำรวยมากเป็นอันดับหนึ่งรองจากเหย่าซินป่ายฮ่องเต้ แม้กระทั่งเสนาบดีกรมคลังหวงฉงบิดาของหวงซานซานยังเทียบไม่ติดเลย

“จางฮูหยิน”

เสียงเรียกที่ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของหวงซานซาน เมื่อหันไปมองตามเสียงเรียกจึงได้พบกับบุรุษวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปลายเดินเข้ามาหา

“พ่อบ้านหม่าเป็นพ่อบ้านประจำตระกูลหวงเจ้าค่ะ” หนิงหยู่กระซิบเจ้านายสาวเสียงเบา หลังจากที่สังเกตได้ว่าหลายวันที่ผ่านมา หลังจากที่หวงซานซานร่วมเตียงกับแม่ทัพจางอี้เหลียงในวันนั้น หวงซานซานได้หลงลืมความทรงจำไปชั่วขณะ ถึงแม้ว่าจะเป็นห่วงและเสนอให้ตามหมอมาดูอาการทว่าหวงซานซานกลับบอกปัดไม่ยอมให้ท่านหมอมาตรวจ นางจึงต้องทำตัวเป็นท่านหมอจำเป็นคอยทบทวนความทรงจำให้เจ้านายสาวแทน

“พ่อบ้านหม่า ข้ามาพบท่านแม่อ้ายเหมย”

“ฮูหยินรองอยู่ที่เรือนเล็กขอรับ” สีหน้าของพ่อบ้านหม่าดูจะประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นหวงซานซานอยู่ที่นี่ แต่กระนั้นเขาก็ยังรักษากิริยาที่สุขุมเอาไว้พลางตอบอย่างนอบน้อม อย่างไรเสียคนตรงหน้าก็เป็นบุตรสาวอีกคนของเสนาบดีหวงฉง อีกทั้งยามนี้นางยังมีฐานะเป็นถึงฮูหยินใหญ่ของแม่ทัพใหญ่จางอี้เหลียงอีกด้วย

หวงซานซานผงกศีรษะรับคำตอบของพ่อบ้านหม่า ก่อนจะหันไปสบตาของหนิงหยู่เล็กน้อย นางจึงกระซิบบอกเส้นทางให้เจ้านายทราบ จากนั้นทั้งสองคนจึงเดินออกไปด้วยกัน หารู้ไม่ว่าบนระเบียงไม้ที่ยื่นออกมาทางด้านนอกมีใครบางคนกำลังจ้องมองหวงซานซานกับหนิงหยู่อย่างไม่ละสายตา

ณ เรือนเล็กท้ายจวนตระกูลหวง

อ้ายเหมยที่กำลังนั่งปักผ้าห่มอยู่บนเก้าอี้ไม้ข้างโต๊ะกลม ทันทีที่รู้ถึงการมาเยือนของบุตรสาวก็รีบวางงานที่ถืออยู่ในมือลงทันใด ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปกอดหวงซานซานด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ

“ซานเอ๋อร์ลูกแม่ แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน” น้ำเสียงของอ้ายเหมยสั่นพร่า หยดน้ำตาไหลเกลื่อนใบหน้า ตั้งแต่ที่หวงซานซานสร้างเรื่องราวฉาวโฉ่ เสนาบดีหวงฉงโกรธมากจนถึงกับตัดความสัมพันธ์กับบุตรสาว หวงซานซานถูกสั่งห้ามไม่ให้กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหวงอีก

ความอบอุ่นที่ได้รับจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ทำให้หวงซานซานอดที่จะเผยรอยยิ้มน้อยๆออกมาไม่ได้ ในโลกปัจจุบันที่นางคือจันจ้าว มารดาของนางจากไปตั้งแต่ตอนที่นางยังเด็กนักจึงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับคนเป็นแม่อยู่เลย หญิงสาวเติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูของคนเป็นพ่อ ทว่าหลังจากนั้นเขาก็ได้แต่งงานและมีครอบครัวใหม่ จันจ้าวจึงย้ายออกไปอยู่คอนโดสุดหรูใจกลางเมืองหลวงเพราะไม่อยากเห็นภาพอันปวดใจยามที่บิดาอยู่กับภรรยาและลูกสาวคนใหม่ที่อายุห่างกับเธอถึงสิบปี

“ข้าก็คิดถึงท่านแม่เจ้าค่ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นกอดตอบมารดา คำตอบที่ได้รับสร้างความสุขใจให้อ้ายเหมยมากเหลือเกิน แต่กระนั้นก็อดกังวลใจไม่ได้เพราะรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของบุตรสาวและแม่ทัพจางอี้เหลียงนั้นเป็นไปอย่างไม่ค่อยดีเท่าใดนัก

อ้ายเหมยผละออกจากบุตรสาวก่อนจะเดินไปปิดหน้าต่าง เกรงว่าจะมีผู้ใดนำเรื่องที่หวงซานซานมาเยือนจวนตระกูลหวงไปบอกฮูหยินใหญ่กับบุตรสาวแล้วจะเกิดเรื่องขึ้น

“ซานเอ๋อร์สบายดีไหมลูก เจ้ากลับมาที่ตระกูลหวง มีเรื่องอะไรหรือไม่”

“ข้าจะหย่ากับท่านแม่ทัพจางเจ้าค่ะท่านแม่”

วาจาของบุตรสาวทำให้อ้ายเหมยนิ่งอึ้งไปหลายวินาที ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของบุตรสาว ใช่ว่านางจะไม่รู้เรื่องที่หวงซานซานวางยาปลุกกำหนัดจางอี้เหลียงจนเขาต้องรับผิดชอบชื่อเสียงของนางโดยการแต่งงาน อันที่จริงนางไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำของบุตรสาวเลยแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อเรื่องราวมันได้เกิดขึ้นมาแล้วจะย้อนกลับไปแก้ไขก็ทำไม่ได้ นางจึงต้องทำใจยอมรับแม้จะกังวลก็ตามเพราะรู้ดีว่าจางอี้เหลียงไม่ได้รักหวงซานซาน แม้ว่านางจะรักเขา อีกทั้งเขายังเป็นคนที่หวงจินหลิงนั้นหมายปอง

“ซานเอ๋อร์ตัดสินใจดีแล้วใช่หรือไม่ลูก”

“ข้าตัดสินใจดีแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ทว่า…” หญิงสาวนิ่งไปเล็กน้อยพลางขบเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ไม่แน่ใจเท่าใดนักว่าถ้าหากมารดารู้เรื่องที่นางตั้งครรภ์จะคิดเห็นว่าอย่างไร

“ว่าอะไรหรือลูก ซานเอ๋อร์มีเรื่องอะไรก็บอกแม่มาเถอะ แม่พร้อมที่จะรับฟังและช่วยเหลือทุกเรื่อง”

รอยยิ้มอ่อนโยนแสนอบอุ่นที่อ้ายเหมยส่งมาให้ทำให้หวงซานซานรู้สึกเบาใจลงไปมากโข หญิงสาวประคองมารดาให้ไปหย่อนกายลงนั่งข้างขอบเตียง จับมือบางของคนเป็นแม่มาวางลงบนหน้าท้องของตน

“ข้ากำลังตั้งครรภ์ลูกของแม่ทัพจางเจ้าค่ะ”

“ตั้งครรภ์หรือ” อ้ายเหมยเอ่ยเสียงแผ่ว ดวงตาเบิกกว้างมองหน้าท้องของบุตรสาวอย่างตกตะลึง หากไม่ได้ยินว่าหวงซานซานตั้งใจจะหย่ากับจางอี้เหลียงก่อนหน้า นางคงไม่ลังเลที่จะแสดงความดีใจออกมาแล้ว

“ใช่เจ้าค่ะ ข้าตั้งครรภ์ได้เกือบสามเดือนแล้วเจ้าค่ะ”

“เจ้าตั้งครรภ์แล้วเหตุใดถึงจะหย่ากับท่านแม่ทัพเล่า แล้วท่านแม่ทัพจะยอมหรือ”

“ท่านแม่ทัพยังไม่รู้เรื่องที่ข้ากำลังตั้งครรภ์เจ้าค่ะ และข้าจะไม่บอกเขาด้วย ข้าจะเลี้ยงดูลูกด้วยตัวของข้าเอง”

“ซานเอ๋อร์…” อ้ายเหมยขานเรียกชื่อบุตรสาวเสียงแผ่ว ความชื่นบานในตอนที่เห็นบุตรสาวก้าวเข้ามาในเรือนหายไปจากน้ำเสียง แววตามีความหวั่นวิตกให้เห็นอย่างชัดเจน หวงซานซานเห็นดังนั้นจึงยื่นมือเข้ามาบีบมือบางของมารดาเบาๆ

“ท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลเลยนะเจ้าคะ ถึงอย่างไรข้าก็ไม่อาจใช้ชีวิตคู่กับท่านแม่ทัพได้อีกต่อไป เขาไม่เคยรักข้า มีแต่ทำร้ายจิตใจข้า ข้าทุกข์ทรมานใจเหลือเกินเจ้าค่ะท่านแม่” เมื่อเห็นมารดามีท่าทีไม่เห็นด้วย หวงซานซานจึงแสร้งทำเป็นบีบน้ำตาให้มารดาเห็นใจ และมันก็ได้ผล ทันทีที่เห็นหยาดน้ำตาของบุตรสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ หัวใจของคนเป็นแม่ก็พลันอ่อนยวบลง ไม่ว่าผู้คนจะตราหน้าว่าหวงซานซานเป็นสตรีร้ายกาจวางแผนใส่ยาปลุกกำหนัดแม่ทัพจางอี้เหลียงจนเขาจำต้องแต่งงานกับนาง แต่สำหรับคนเป็นแม่ หวงซานซานก็เป็นลูกสาวที่นางรักยิ่งปานดวงใจเสมอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel