บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ฮูหยินกำลังตั้งครรภ์

“เจ้าขอหย่ากับข้าหรือ” คล้ายดั่งมีอะไรมาตีเข้าที่ศีรษะของจางอี้เหลียงอย่างแรง เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของหวงซานซาน ที่ผ่านมาเขาพยายามเป็นฝ่ายขอหย่าขาดจากนางมาโดยตลอด ทว่านางกลับไม่ยอมและบ่ายเบี่ยงทุกครั้งไป แต่เหตุใดครานี้นางกลับเป็นฝ่ายขอหย่าจากเขาเสียเองเล่า

ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาใกล้ ดวงตาคมกริบหรี่ลงเล็กน้อยมองสตรีร่างบางที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาอย่างจับผิด ในขณะที่หวงซานซานเห็นเขาก้าวเข้ามา นางจึงก้าวถอยไปทางด้านหลัง จนกระทั่งแผ่นหลังบางแนบสนิทกับผนังไม้เย็นเฉียบ

“เจ้าไม่ใช่หวงซานซาน” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มต่ำลงมาในระยะประชิด วาจาของเขาทำให้คนฟังใจหายวาบ มือไม้เย็นเฉียบจนต้องบีบเข้าหากัน

‘เขารู้ความจริงงั้นหรือ หากเป็นเช่นนั้นนางจะทำอย่างไรดี!’

“ท่านรู้ได้อย่างไรกัน” ถามเสียงสูง ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นกว่าเดิม นางคิดว่าเขาโง่เสียอีก ที่จริงแล้วฉลาดไม่เบาเอาเสียเลย เพียงแค่วันเดียวก็รู้แล้วว่านางหาใช่หวงซานซาน

จางอี้เหลียงกระตุกมุมปากทว่าไม่นานเขาก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น สายตาที่เต็มไปด้วยความเยาะหยันจ้องมองสตรีร่างบางตรงหน้าอย่างไม่วางตา

“หวงซานซานไม่ว่าเจ้าจะสรรหาวิธีใดมาหลอก แต่ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก เลิกทำตัวแบบนี้เถอะ ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทนกับเจ้า!” มือหนาบีบที่แขนเรียวอย่างแรงจนดวงหน้างามเหยเกด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกและก้าวฉั่บๆเดินออกไปจากห้องของนางอย่างรวดเร็ว

“ไอ้คนบ้า! ดีแต่รังแกผู้หญิง” หวงซานซานตะโกนตามหลังคนตัวโตไป เสียงของนางทำให้เขาชะงักฝีเท้าลง ก่อนจะก้าวเดินต่อไปพลางปิดประตูเสียงดังปังใหญ่จนหวงซานซานสะดุ้งโหยงขึ้นอย่างแรงด้วยความตกใจ

“ทำเป็นเบ่งกล้ามไปเถอะ อย่างไรเสียข้าก็จะหย่ากับท่านให้จงได้” หญิงสาวพึมพำเสียงเบาพลางทำท่าจะก้าวเดินตามหลังคนตัวโตไปหมายจะพูดคุยกับเขาให้รู้เรื่อง อย่างไรวันนี้นางต้องทำให้เขาหย่าจากนางให้ได้ นางอยากรีบเป็นอิสระ ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว ทว่าเพียงแค่หวงซานซานเร่งฝีเท้าตามไปถึงประตู ยังไม่ทันที่จะได้ผลักประตูให้เปิดออก หญิงสาวก็ยกมือขึ้นกุมศีรษะของตนทันใด

“อ่ะ!” ร่างบางซวนเซทำท่าจะล้มลง เป็นเวลาเดียวกับที่หนิงหยู่เปิดประตูเข้ามาอย่างพอดิบพอดี

“ฮูหยินเวียนศีรษะอีกแล้วหรือเจ้าคะ” สาวใช้คนสนิทรีบเข้ามาประคองเจ้านายสาวพากลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ ยกพัดขึ้นมาโบกสะบัดเบาๆ

“ข้าคงนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอล่ะมั้ง” หวงซานซานตอบหนิงหยู่เสียงอ่อน สีหน้าของหนิงหยู่บ่งบอกถึงความเป็นห่วงนางอย่างมาก

“ไม่ใช่หรอกเจ้าค่ะ”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร เจ้าไม่ใช่หมอเสียหน่อย ช่างเถิด ข้าจะไปพูดกับท่านแม่ทัพจางให้รู้แล้วรู้รอด อย่างไรวันนี้ข้าก็ต้องทำให้เขาหย่าจากข้าให้จงได้” และถ้าหากเขาตกลง นางจะขนข้าวขนของออกจากจวนตระกูลจางตั้งแต่วันนี้เลย จะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้าคู่สามีภรรยาที่เหมาะสมกันราวกับผีเน่ากับโรงผุคู่นั้น

“ไม่ได้เจ้าค่ะ! หย่าไม่ได้นะเจ้าคะ” หนิงหยู่ร้องห้ามด้วยความตกใจ ทว่าท้ายประโยคน้ำเสียงของนางจึงค่อยอ่อนลง

“ทำไมล่ะ เมื่อครู่เจ้าก็เอาแต่บอกว่าหย่าไม่ได้ ข้าจะหย่าเสียอย่าง ใครก็อย่ามาห้ามข้าซะให้ยากเลย” หวงซานซานชักสีหน้าใส่หนิงหยู่อย่างไม่พอใจนักที่เอาแต่ห้ามนาง ผู้ชายคนนั้นวิเศษวิโสมาจากไหนกัน เหตุใดนางถึงจะหย่าจากเขาไม่ได้

“ที่หย่าไม่ได้ก็เพราะฮูหยินกำลังตั้งครรภ์เจ้าค่ะ”

ร่างบางของหวงซานซานแข็งค้างไปทันใด ราวกับมีของแข็งมากระทบศีรษะของนางอย่างแรง ตัวชาวาบด้วยความตกใจไปทั้งสรรพางค์ ริมฝีปากบางเฉียบสั่นระริกไม่ต่างจากมือทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อยๆหันหน้ามาสบตากับหนิงหยู่

“วะ ว่าอย่างไรนะ”

“ฮูหยินตั้งครรภ์ได้เกือบสามเดือนแล้วเจ้าค่ะ”

คำว่าตั้งครรภ์ที่หนิงหยู่เอ่ยออกมานั้นดังก้องอยู่ในหัวของหวงซานซานซ้ำไปซ้ำมา หญิงสาวรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ไหวต้องทรุดกายลงไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกหน มือเล็กๆยกขึ้นวางลงบนหน้าท้องแบนราบของตัวเองที่มีพุงยื่นออกมาน้อยๆ ถ้าหากไม่ได้สังเกตดีๆก็อาจมองไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง

“เมื่อหลายเดือนก่อน ฮูหยินทนเห็นท่านแม่ทัพหมางเมินไม่ไหว ฮูหยินคิดว่าหากมีลูกท่านแม่ทัพจะสนใจฮูหยิน ฮูหยินจึงพยายามยั่วยวนท่านแม่ทัพและ…” กล่าวมาถึงตรงนี้หนิงหยู่ก็เงียบเสียงลง แต่ถึงแม้ว่าหนิงหยู่ไม่พูดอะไรต่อ หวงซานซานก็รู้ว่านางหมายถึงอะไร นั่นเป็นครั้งแรกที่จางอี้เหลียงกับหวงซานซานได้เสียกันเป็นแน่

“เรื่องนี้เขารู้หรือไม่” หวงซานซานถามเสียงแผ่ว หยดน้ำปริ่มคลออยู่ในหน่วยตา ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าคนที่เกลียดเด็กเข้าไส้อย่างนางจะต้องมาอยู่ในร่างของหญิงตั้งครรภ์

‘โอ๊ยยยยย จะบ้าตาย!’

“ยังไม่รู้เจ้าค่ะ ฮูหยินตั้งใจจะบอกท่านแม่ทัพในวันเกิดของท่านแม่ทัพที่จะมาถึงในอีกสิบวันข้างหน้านี้เจ้าค่ะ” หนิงหยู่เอ่ยแล้วก็เงียบไป เหลือบมองสีหน้าสับสนระคนตกใจของเจ้านายสาวพลางคิดว่าหวงซานซานคงเปลี่ยนใจไม่หย่ากับท่านแม่ทัพแล้วกระมัง

ตุ้บ!

“ดี!” มือบางทุบลงบนพนักเก้าอี้ไม้ทำให้หนิงหยู่เอียงคอด้วยความสงสัย แต่แล้วนางก็ต้องใจหายวาบกับประโยคต่อมาของหวงซานซาน

“ข้าจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ข้าจะเลี้ยงลูกคนเดียวด้วยตัวของข้าเอง” หวงซานซานกล่าวอย่างหมายมาด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางจะต้องหย่ากับจางอี้เหลียงให้ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบไม่รักเด็ก แต่เด็กที่อยู่ในท้องและกำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกในอนาคตไม่ได้ผิดอะไร ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้นางได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้ นางก็จะยอมรับและเลี้ยงดูเด็กที่จะเกิดมาให้ดีที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้

“ฮูหยินเจ้าขา ไม่มีสตรีใดทำเช่นนั้นหรอกเจ้าค่ะ” หนิงหยู่ไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อยว่าหวงซานซานจะสามารถเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวได้ แม้ว่าหวงซานซานจะวางแผนร้ายกาจเพื่อให้ได้แต่งงานกับแม่ทัพจางอี้เหลียง แต่นิสัยที่แท้จริงของนางไม่ต่างจากสตรีหัวอ่อนในห้องหอที่แสนอ่อนแอคนหนึ่ง

กฏของแคว้นเหยา หากสตรีแต่งงานย้ายออกไปอยู่บ้านสามีจะถือเป็นทรัพย์สินของผู้เป็นสามี ต่อให้กลับบ้านเดิมก็ไม่ต่างอะไรจากเป็นคนอื่น อีกทั้งนางรู้ดีว่าเสนาบดีหวงฉงกับเตาจี๋เหยาฮูหยินไม่มีทางยอมรับหวงซานซานหรอก และยิ่งหากรู้ว่าหวงซานซานกำลังตั้งครรภ์และได้หย่ากับแม่ทัพจางอี้เหลียงด้วยแล้วล่ะก็ ดีไม่ดีหวงซานซานอาจโดนไล่ตะเพิดออกไปจากจวนเสียมากกว่าโทษฐานที่ทำให้บิดามารดาที่อยู่บ้านเดิมต้องอับอาย

“เจ้าไม่เชื่อใจข้าหรือหนิงหยู่” หวงซานซานยกมือขึ้นกอดอก ดวงหน้างามบูดบึ้งจ้องหน้าสาวใช้คนสนิทเขม็ง

“ใช่ เอ่อ เปล่าเจ้าค่ะ แต่บ่าวไม่เคยเห็นใครทำเช่นนี้เลย”

หวงซานซานส่ายศีรษะไปมาเบาๆ แม้ว่าหนิงหยู่จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่สีหน้าและแววตาของหนิงหยู่ได้แทนคำตอบทุกอย่างแล้ว

“ต่อให้เจ้าไม่เชื่อใจข้าก็ไม่เป็นไร ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นเองว่าข้าทำได้ หากเจ้าไม่อยากไปกับข้า ข้าอนุญาตให้เจ้ากลับไปอยู่กับฮูหยินรอง เอ๊ย ท่านแม่อ้ายเหมยที่จวนตระกูลหวงได้”

“ไม่เจ้าค่ะ บ่าวจะอยู่กับฮูหยิน ต่อให้ต้องลำบากแค่ไหนบ่าวก็จะไม่ทิ้งฮูหยินเด็ดขาดเจ้าค่ะ” หนิงหยู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคงไม่แพ้แววตา หวงซานซานสัมผัสได้ถึงความจงรักภักดีที่หนิงหยู่มีให้เจ้าของร่างนี้จึงพยักหน้ารับเบาๆ

“ว่าแต่ว่าท่านแม่ทัพจะยอมหย่ากับฮูหยินหรือเจ้าคะ”

“ข้าจะทำให้เขายอมจนได้ แต่ถ้าหากเขาไม่ยอมจริงๆ ข้าก็จะหนี” คำตอบของนางทำให้หนิงหยู่เบิกตากว้างพลางยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ ขณะที่หวงซานซานกำมือแน่น หากจางอี้เหลียงไม่ยอมหย่ากับนางง่ายๆ นางก็จะอุ้มท้องหนีเขาไปเสียเลย เขาใจร้ายกับเจ้าของร่างนี้มาก อย่าหวังว่าหคือแม้แต่จะคิดว่าจะได้อุ้มชูลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมาในอนาคตคนนี้เลย!

ภายในหอนอนใหญ่ฝั่งปีกตะวันออก หลิวอ้ายอิงเดินไปเดินมาราวกับหนูติดจั่น ไม่นานเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นเบาๆพร้อมกับเสียงของสาวใช้เฝ้าประตู

“ฮูหยินรองเจ้าคะ ท่านแม่ทัพมาพบเจ้าค่ะ” เพียงแค่เอ่ยจบประโยค ประตูห้องก็ถูกผลักให้เปิดอ้าออก เผยให้เห็นร่างสูงองอาจก้าวเข้ามาในห้อง

“ท่านแม่ทัพ อิงเอ๋อร์โดนฮูหยินใหญ่ใส่ร้าย ท่านแม่ทัพต้องให้ความเป็นธรรมกับอิงเอ๋อร์นะเจ้าคะ” หญิงสาวปรี่เข้าไปกอดแขนกำยำพลางซบใบหน้าลงอย่างออดอ้อน ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงเสียงเข้มที่กล่าวขึ้นอย่างดุดัน

“ฮูหยินรองข้าขอเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปอย่าทำเช่นนั้นอีก ข้าไม่ชอบให้ผู้ใดล้ำเส้นใคร ครั้งนี้ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า แต่ถ้าหากเจ้ายังดื้อรั้นไม่ฟังคำสั่งข้าและมีครั้งต่อไป ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้าก็แล้วกัน”

หลิวอ้ายอิงชะงักไปเล็กน้อย ครุ่นคิดไปว่าเขารู้ความจริงหรือเขาเลือกที่จะเชื่อหวงซานซานกันแน่ แต่คนอย่างนางไม่ยอมรับความจริงง่ายๆหรอก

“อิงเอ๋อร์ไม่ได้ทำนะเจ้าคะ” หญิงสาวยังคงยืนกรานคำเดิม ช้อนสายตาขึ้นมองคนตัวโตหมายจะให้เขาเห็นใจ ขณะที่จางอี้เหลียงกระตุกมุมปากขึ้นน้อยๆก่อนจะดึงแขนออกจากการเกาะกุมของนาง

“ข้าไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ความจริงนะฮูหยินรอง เจ้าคอยสั่งให้สาวใช้ของเจ้าสอดแนมหวงซานซานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาข้าตั้งใจไม่เอาเรื่องเจ้า แต่หนนี้เจ้าทำเกินไปแล้วจริงๆ อีกทั้งยังกล้าโกหกข้า!” ชายหนุ่มตวาดใส่หน้าของหลิวอ้ายอิงจนนางสะดุ้งขึ้นอย่างแรง ไม่นานก็เปล่งเสียงร้องไห้โฮออกมายกใหญ่พลางทรุดกายลงไปนั่งกอดขาของจางอี้เหลียงเอาไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel