บท
ตั้งค่า

ป่วยจนเลอะเลือน

2

ป่วยจนเลอะเลือน

ห้าวันหลังจากเทศกาลโคมไฟ หญิงสาวลืมตาขึ้นเมื่อผู้คนในห้องออกไปจนหมดก่อน จึงลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงอุ่น เพราะเหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า ไม่มีเหตุผลรองรับเอาเสียเลย ซ้ำยังต้องมาอยู่ในร่างนางร้ายสุดแสนอาภัพผู้นี้อีก

จะกล่าวว่านางเป็นนางร้ายก็ร้ายไม่เท่านางร้ายคนอื่น ๆ หรือแม้แต่นางเอกของเรื่องยังร้ายเสียกว่า นางร้ายเพราะนางมักถูกมอบบทนางร้ายให้มากกว่าจะแสดงเอง นอกจากนี้สุดท้ายยังต้องตายเพราะพระเอกสุดที่รักของนางอีกต่างหาก

ก่อนตายนางก็เป็นคนดีมาตลอดเหตุใดพอได้มีโอกาสใช้ชีวิตจึงทำให้นางมีโชคชะตาเช่นนี้กันเล่า

“ขอบคุณสวรรค์ที่มอบบทตัวละครที่สุดแสนจะโชคดีคนนี้ให้ เฮ้อ เอาไงต่อดีไอ้พิม” หญิงสาวพึมพำกับตนเอง นางอ่านหนังสือมามากส่วนใหญ่ผู้ที่มาเป็นนางร้ายหรือตัวประกอบหากทำตัวโจ่งแจ้งไปจะกลายเป็นที่สนใจ สุดท้ายกลายเป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งนั้น

นางควรทำอย่างไรดี นางไม่อยากมีส่วนในนิยายเรื่องนี้แล้วยิ่งไม่อยากตายอย่างอนาถภายใต้คมดาบของบุรุษใจคอโหดเหี้ยม หลอกใช้สตรีเช่นมู่หลินเฟิง

คิดไปก็พลันปวดหัวไปสงสัยนางจะไข้ขึ้นเสียแล้ว คงเพราะร่างกายบอบบางของโจวเจียวเจียวนี่กระมัง ทำให้ตอนนี้ในหัวนางไม่มีสิ่งใดอยู่เลย

หญิงสาวรู้เพียงอย่างเดียวนางไม่อยากเป็นนางร้าย ไหน ๆ ก็ร่ำรวยเช่นนี้แล้ว นางขอเป็นแค่ตัวประกอบที่ร่ำรวย…

ตกลงปลงใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปแล้วก็เอนตัวลงนอนบนเตียง พลางยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดไว้บนเข่าอีกข้าง ซ้ำยังกระดิกเท้าอย่างสบายใจ เพราะที่นี่คือตระกูลโจวนางจึงไม่ต้องกลัวว่าผู้อื่นจะสงสัยในตัวนาง

โจวเจียวเจียวบุตรสาวคนเดียวที่บิดามารดารักและทะนุถนอนยิ่งกว่าไข่ในหิน ไม่ว่านางต้องการสิ่งใดก็ล้วนถูกหามาให้จนได้ มีเพียงมู่หลินเฟิงที่นางพึงใจแต่ไม่มีทางได้มา

“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” เสี่ยวมั่วสาวใช้คนสนิทถามด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าดีใจ นางวางถาดใส่ถ้วยยาไว้บนโต๊ะแล้วยกถ้วยยามาให้หญิงสาวบนเตียงกิน

“เสี่ยวมั่ว” ในร่างเก่านี้ไม่มีความทรงจำใดหลงเหลือ นางอาศัยจำจากในหนังสือนิยายที่อ่านมาเท่านั้น นิยายเล่าถึงสาวใช้เพียงคนเดียวของโจวเจียวเจียวนั่นคือเสี่ยวมั่ว

แต่นางไม่รู้เลยว่าตระกูลโจวมีสาวใช้กี่คน...

“เจ้าค่ะ คุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งเสี่ยวมั่วหรือเจ้าคะ แต่จะมีสิ่งใดก็กินยาก่อนเถิดเจ้าค่ะ คุณชายเป็นห่วงคุณหนูมากหากยังไม่หายอีกเกรงว่าต้องเกณฑ์หมอทั่วเมืองแล้วกระมัง” ยาคือสิ่งที่นางเกลียดที่สุด ตลอดชีวิตกินแต่ยาเม็ดต้องมากินยาต้มเช่นนี้ ทำใจไม่ได้จริง ๆ

“ไม่กินไม่ได้หรือ”

“แต่คุณหนูถูกน้ำเย็น จนเป็นไข้หวัดหากไม่หายในเร็ววันนายท่านและฮูหยินต้องเร่งกลับมาแน่เลยเจ้าค่ะ” โจวเจียวเจียวชั่งใจอยู่สักครู่ก่อนจะยกถ้วยยาตรงหน้ามาดื่มรวดเดียวหมด

“อ๊าก ขม”

“นี่ผลไม้แห้งแก้ขมเจ้าค่ะ” มือเล็กรีบเอื้อมไปหยิบผลไม้แห้งรสเปรี้ยวมาใส่ปาก ตั้งแต่สาวใช้เสี่ยวมั่วยังกล่าวไม่จบดี แม้จะช่วยได้ไม่มากก็ยังพอกลบรสฝาดติดลิ้นได้บ้าง

“ข้าตกน้ำได้อย่างไร”

“คุณหนูจำไม่ได้หรือเจ้าคะ” เสี่ยวมั่วเอียงคอถามอย่างสงสัยพลางยกมือขึ้นไปแตะหน้าผากผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง กลัวว่านางจะไข้ขึ้นจนเลอะเลือนไป

คุณหนูของนางเกลียดสืออีหรานยิ่งกว่าสิ่งใดไม่มีทางลืมว่าถูกนางดึงให้ตกน้ำ แม้นางจะยืนยันว่าคุณหนูไม่ได้ทำแต่คุณชายมู่ก็ไม่เชื่อ เพราะสาวใช้ของสืออีหรานเองก็ยืนยัน ว่าคุณหนูของนางจงใจผลักคุณหนูสือให้ตกน้ำ

“แม่ดอกบัวขาว ฉันคิดถูกจริง ๆ ที่ไม่ชอบนิยายเรื่องนี้ ทั้งพระเอกทั้งนางเอก แทนที่จะชื่อว่าบุพเพรักอันดับหนึ่ง เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นคู่รักผ่านรกเถอะ”

“คุณหนูหมายถึงสิ่งใดหรือเจ้าคะ”

“ช่างเถอะ ไม่มีสิ่งใดหรอก” นางกล่าวตัดบทพลางครุ่นคิดอีกครา โชคดีที่หลังเรียนจบนางเลือกเรียนภาษาจีนเพื่ออ่านนิยายและดูซีรีส์ หากไม่แล้วนางคงได้แสร้งเป็นใบ้แทน

“เสี่ยวมั่ว หากระดาษกับพู่กันให้ข้าที” สาวใช้ตัวน้อยเบิกดวงตาเล็กเรียวจนกว้าง ตื่นตกใจราวเห็นพุทธองค์ผุดขึ้นตรงหน้า คุณหนูของนางไม่ชอบที่จะขีดเขียนเพราะกลัวนิ้วมือเปรอะเปื้อน

โจวเจียวเจียวเห็นสาวใช้ตนเองมีท่าทางประหลาด พลันนึกขึ้นมาได้ว่าโจวเจียวเจียวผู้นั้นไม่ชื่นชอบ แต่อย่างไรเสี่ยวมั่วก็เป็นสาวใช้ของนาง ปล่อยให้นางสงสัยไปก็ไม่เป็นอันใดจึงไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดใด

“คุณหนูรอสักครู่ เสี่ยวมั่วจะไปขอจากคุณชายมาให้เจ้าค่ะ”

“อืม” เสี่ยวมั่วยืนขึ้นยอบกายแล้วเดินจากไป ทิ้งให้สตรีในอารมณ์สีเหลืองอ่อนนอนพิงหัวเตียงอยู่ลำพัง

เสี่ยวมั่วเดินออกจากเรือนข้างก้าวเท้าอย่างเร่งรีบไปที่ห้องหนังสือของโจวจี้หยวน นางต้องรายงานเรื่องนี้ให้ผู้เป็นนายอีกคนของคฤหาสน์ให้รับรู้

คุณหนูของนางต้องป่วยเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่แปลกไปมากเช่นนี้

ตั้งแต่ที่นางปฏิเสธมู่หลินเฟิงก่อนนี้ ผู้คนก็เอาแต่คิดว่าคุณหนูของบ้านป่วยไข้จนเลอะเลือน

ยามนี้โจวจี้หยวนเองก็กำลังเร่งหาหมอฝีมือฉกาจเพื่อให้มาดูอาการน้องสาวตนเอง

“คุณชายขอรับ เสี่ยวมั่วขอพบขอรับ” ไป๋อวี่ บ่าวรับใช้คนสนิทของโจวจี้หยวนเข้าไปกล่าวรายงาน เมื่อเสี่ยวมั่วมาถึงหน้าห้องตำรา โจวจี้หยวนเงยหน้าจากรายการบัญชีรับเงินจ่ายเงินของร้านค้าตระกูลโจวที่มีอยู่ทั่วเทียนเผิง

“ให้นางเข้ามา” ครู่หนึ่งสาวใช้ร่างเล็กก็เร่งฝีเท้ามายืนอยู่เบื้องหน้า ประสานมือยอบกายคารวะคุณชายคนเดียวของตระกูลโจว

“คารวะคุณชาย”

“เจียวเจียวเป็นอันใด”

“คุณหนูต้องการกระดาษและพู่กันเจ้าค่ะ” โจวจี้หยวนถลึงลุกจากที่นั่งทันทีที่ได้ยินสาวใช้กล่าว แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าน้องสาวที่เคยเอ่ยว่ามองแท่นฝนหมึกแล้วเวียนหัว จะร้องขอกระดาษและพู่กันเสียเอง

“เห็นทีเจียวเจียวคงป่วยหนักกระมัง ไป๋อวี่รีบให้คนตามหมอเดี๋ยวนี้ ไปข้าจะไปดูเจียวเจียวเอง”

น้ำเสียงร้อนรน อีกทั้งท่าทางเร่งรีบของโจวจี้หยวนบ่งบอกว่าเป็นห่วงน้องสาวเพียงคนเดียวมากเพียงใด เขาเชื่อสนิทใจว่าน้องสาวป่วยหนักเพราะตกน้ำในงานเทศกาลโคมไฟหลายวันก่อน

แต่ก็ไม่ลืมหยิบสิ่งของที่น้องสาวต้องการตามไปด้วย เขาอยากรู้นักว่าน้องสาวอยากได้สิ่งของเหล่านี้ไปทำอันใด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel