ตอนที่ 3 น้ำนี้ดื่มไม่ได้
หลี่ซินเหยาจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง นางอยู่ใกล้อีกฝ่ายมาก ใกล้จนชายหนุ่มมองเห็นใบหน้าที่เรียบเนียนราวผิวไข่อย่างแจ่มชัด
มู่หรงซางเหยียนรีบถอยหลังไปหนึ่งก้าว "องค์หญิง โปรดทรงรักษามารยาทด้วย!"
"รักษามารยาท" หลี่ซินเหยาเอียงศีรษะ เมื่อชายหนุ่มถอย นางก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว บีบอีกฝ่ายจนต้องเดินถอยหลังไปจนชิดขอบกระโจม "แม่ทัพมู่หรงบุกรุกเข้ามาในกระโจมของข้าตามอำเภอใจ เหตุใดถึงไม่คิดจะรักษามารยาทบ้างล่ะ"
"ข้า..." มู่หรงซางเหยียนรับมือไม่ทันกับความสนิทสนมอย่างกะทันหันของหลี่ซินเหยา ดวงตาของเขากวาดไปที่อื่น แล้วเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว
"องค์หญิงรีบเสวยพระกระยาหารเช้าเถอะ! ข้าจะไปเตรียมรถม้าแล้ว!" พูดจบเขาก็ออกไปจากกระโจม ราวกับกำลังหนีจากสัตว์ร้ายที่น่ากลัว
หลี่ซินเหยามองปฏิกิริยาที่ตื่นตระหนกของมู่หรงซางเหยียน อารมณ์ของนางก็พลันดีขึ้นมา
ฝ่ายไฉ่เหลียนที่คุกเข่ามาตลอดแอบเงยหน้าขึ้น นางคิดว่าตามนิสัยขององค์หญิง คงจะสาปแช่งคนป่าเถื่อนที่ไม่มีมารยาทคนนี้ไม่หยุด แต่ช่างน่าแปลกใจยิ่งนักที่ตอนนี้องค์หญิงยิ้มอย่างมีความสุข
…..
มู่หรงซางเหยียนในเวลานี้ปลอมตัวเป็นแม่ทัพที่มาต้อนรับขบวนเจ้าสาว โดยใช้ชื่อน้องชายแท้ๆ ของตัวเองคือ ‘มู่หรงเลี่ยหยาง’
ซึ่งมู่หรงเลี่ยหยางตัวจริงถูกทิ้งไว้ที่ทุ่งหญ้าแดนเหนือเพื่อดูแลกิจการบ้านเมืองชั่วคราว
มู่หรงซางเหยียนจับบังเหียนเดินอยู่ข้างรถม้าขององค์หญิง การสั่นสะเทือนของถนนและลมที่พัดเอื่อยๆ พัดเปิดม่านรถม้าเป็นครั้งคราว ทำให้เขาเผลอมองเห็นภายในรถม้าอยู่บ่อยครั้ง
องค์หญิงที่หยิ่งผยองไม่เห็นใครในสายตา ผู้นั้นวันนี้กลับเปลี่ยนไป มู่หรงซางเหยียนคิดในใจ ไม่เพียงแต่ไม่คิดหนี ตอนนี้เดินทางมาเกือบทั้งวันแล้ว กลับไม่โวยวายขอหยุดพักเหมือนหลายวันก่อน
แต่...
ใบหน้าน้อยๆ นั่นช่างซีดเซียวจริงๆ
เมื่อนึกถึงท่าทางของนางที่นอนตะแคงอยู่บนเบาะนอน เหมือนจะเป็นลม มู่หรงซางเหยียนก็บ่นในใจว่า สตรีคนนี้ช่างบอบบางเหลือเกิน
แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความรำคาญ แต่เขาก็ยังส่งสัญญาณทันที ความเร็วของขบวนทั้งหมดก็ลดลง
หลี่ซินเหยาในรถม้ากำลังจะเป็นลมจริงๆ
ร่างกายนี้สุขสบายอยู่แต่ในวัง ไม่เคยออกเดินทางไกล การนั่งอยู่ในรถม้าที่สั่นสะเทือนไม่หยุด ทำให้นางเวียนหัวไปหมด กระเพาะปั่นป่วนไม่หยุด
โชคดีที่ตอนเช้าไม่ได้กินอะไรมาก ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงอ้วกออกมาแล้ว
พื้นที่ภายในรถม้าขององค์หญิงนั้นกว้างมาก นอกจากหลี่ซินเหยาแล้ว นางกำนัลคนสนิททั้งสองคนก็อยู่ด้วยเพื่อคอยปรนนิบัติ คนหนึ่งคือไฉ่เหลียนที่เป็นนางเอก อีกคนหนึ่งชื่อ ‘ชุนฮวา’
เจ้าของร่างเดิมชอบแต่คนที่พูดจาเอาใจ ชุนฮวาซื่อสัตย์จงรักภักดีแต่พูดไม่เก่ง จึงไม่ได้รับความโปรดปรานเท่าไฉ่เหลียนที่ฉลาดหลักแหลม
แต่ชุนฮวาในวันนี้กลับรู้สึกปลื้มปีติอย่างไม่คาดฝัน เพราะองค์หญิงสั่งให้นางเป็นคนคอยทำนู่นทำนี่ตลอด ไม่เคยชายตาแลไฉ่เหลียนเลยสักครั้ง
แม้จะไม่เข้าใจว่าไฉ่เหลียนที่ฉลาดหลักแหลมขนาดนั้นจะไปทำให้องค์หญิงกริ้วได้อย่างไร แต่ในใจของชุนฮวานั้นความสุขและความเศร้าของผู้เป็นนายสำคัญที่สุด ไม่นานนางก็ตกใจกับใบหน้าซีดเซียวของผู้เป็นนาย “องค์หญิงอยากให้ขบวนหยุดพักหรือไม่ เพคะ”
แม้ตอนนี้หลี่ซินเหยาจะรู้สึกไม่สบาย แต่ก็ส่ายหน้า "ไม่จำเป็น ก่อนหน้านี้ก็ทำให้การเดินทางล่าช้าไปมากแล้ว ถึงแม้ข้าจะเป็นองค์หญิง แต่ก็เป็นประชาชนของแคว้นต้าหลี่ การอภิเษกสมรสครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างแคว้นต้าหลี่กับแดนเหนือ หากทำให้ฤกษ์งามยามดีล่าช้าเพราะข้าเพียงผู้เดียว ข้าก็จะเป็นคนบาปของแคว้นต้าหลี่"
คำพูดของหลี่ซินเหยานี้พูดให้ไฉ่เหลียนฟังมากกว่าที่จะพูดให้ชุนฮวาฟัง
หลายวันก่อนเจ้าของร่างเดิมก็มึนหัว ไฉ่เหลียนจึงอ้างว่าองค์หญิงไม่สบาย ขอให้หยุดพักหลายครั้ง
แม้ทหารคุ้มกันจะไม่พูดอะไร แต่ในใจก็เริ่มไม่พอใจแล้ว เพราะเมื่อเวลาพักเพิ่มขึ้น เวลาเดินทางในแต่ละวันก็จะลดลง ไม่สามารถไปถึงสถานีพักม้าตามกำหนดการได้ กลางคืนจึงต้องพักในป่าเปลี่ยว แม้องค์หญิงจะได้รับการปรนนิบัติอย่างดี แต่พวกคนรับใช้ก็ลำบากและมีหน้าที่ให้ต้องทำมากขึ้น
"พวกเจ้าเป็นนางกำนัลคนสนิทของข้า ทุกคำพูดและการกระทำล้วนเป็นตัวแทนของข้า ต่อไปต้องคิดให้มาก ให้ความสำคัญกับส่วนรวมเป็นหลัก" หลี่ซินเหยาเอ่ยตักเตือนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"เพคะ" ไฉ่เหลียนก้มหน้าคุกเข่าอยู่ข้างๆ กับชุนฮวา
มู่หรงซางเหยียนฟังบทสนทนาภายในรถม้าอย่างไม่ปิดบัง และในใจก็มองภรรยาในอนาคตของเขาดีขึ้นเล็กน้อย
องค์หญิงผู้นี้ ดูเหมือนจะไม่โง่เกินไป หรือว่าก่อนหน้านี้เขาเข้าใจนางผิด ชายหนุ่มหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง บางทีนางอาจจะคิดถึงบ้านมากเกินไป เลยก่อเรื่องขึ้นมากมาย
มู่หรงซางเหยียนหวังว่านางจะไม่สร้างปัญหาแบบนี้ต่อไป
พระอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้นสูง ลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้า
ขบวนหยุดลง ทหารฝ่ายโรงครัวเริ่มเตรียมอาหารกลางวัน
เมื่อเดินทางข้างนอก ทหารส่วนใหญ่จะกินอาหารแห้ง แต่อาหารขององค์หญิงย่อมไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้ พ่อครัวหลวงที่นำมาจากวังกำลังตระเตรียมอาหารอย่างหวาดระแวง อธิษฐานในใจว่าองค์หญิงอย่าได้จู้จี้จุกจิกเหมือนเมื่อก่อนอีกเลย
แม้หลี่ซินเหยาจะไม่อ้วก แต่ก็ยังไม่มีความอยากอาหาร นางอยากดื่มแค่น้ำเปล่าเพื่อดับกระหาย
แต่เมื่อเห็นน้ำที่ชุนฮวาตักมาจากลำธารเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ นางก็ไม่สามารถดื่มได้จริงๆ
แม้ลำธารนั้นจะดูใสสะอาด แต่นางก็สังเกตเห็นว่าน้ำในลำธารไม่ได้ไหล เมื่อครู่นี้เท้าของม้าเหยียบย่ำลงไปในน้ำ น้ำที่ตักขึ้นมาแบบนี้ย่อมมีสิ่งเจือปนมากกว่าปกติแน่นอน หากทำให้ท้องร่วงหรือติดโรคอื่นใด ในยุคสมัยโบราณที่ยารักษายังไม่ครอบคลุม นางก็อาจจะตายได้ในพริบตา
"ข้าไม่ดื่มน้ำนี้"
หลี่ซินเหยาผลักกระบอกน้ำออก แล้วยังจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังจะอ้าปากดื่มน้ำด้วยความกระหายอยู่ไม่ไกล
"ท่านก็ห้ามดื่ม!"
มู่หรงซางเหยียนชะงักมือ ความคิดที่มองนางดีขึ้นเมื่อครู่พังทลายลงทันที
องค์หญิงคนนี้ไม่ทำให้ใครสบายใจเลยจริงๆ!
แม้แต่การดื่มน้ำก็ยังต้องสร้างความยุ่งยาก!