บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 แสดงความสามารถ

มู่หรงซางเหยียนไม่ได้หยุดมือของตัวเอง เขาคือราชาแห่งแดนเหนือผู้โหดเหี้ยม! ใครเจอต่างก็หวาดกลัวจนหนีหัวซุกหัวซุน!

แล้วเหตุใดต้องเชื่อฟังหญิงสาวนางหนึ่งกันเล่า!

มู่หรงซางเหยียนยกกระบอกน้ำขึ้น ไม่คิดจะฟัง คำพูดของหลี่ซินเหยาแม้แต่น้อย

ต่อให้นางจะเป็นว่าที่เจ้าสาวก็เถอะ ถึงแต่งกันจริง เขาก็ไม่มีวันเป็นสามีที่กลัวภรรยาเด็ดขาด!

“ท่านแม่ทัพ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “ท่านรู้หรือไม่ว่าคนแคว้นต้าหลี่ มีคำกล่าวหนึ่งว่า…พี่สะใภ้เปรียบเสมือนมารดา” หลี่ซินเหยาเอ่ยเสียงเบา “ท่านเป็นน้องชายแท้ๆ ของสามีข้า ดังนั้นท่านต้องเชื่อฟังข้า”

มู่หรงซางเหยียนพ่นน้ำออกมาคำใหญ่!

พี่สะใภ้เปรียบเสมือนมารดา!

นี่มันบ้าไปแล้ว!

แถมนางยังกล้าสั่งให้เขาเชื่อฟังอีก!

เหล่าทหารองครักษ์ที่รู้ฐานะตัวจริงของชายหนุ่มต่างพากันถอยหลังไปสองก้าว ด้วยความพร้อมเพรียง เพราะกลัวว่าท่านข่านของพวกตนจะบันดาลโทสะ หักคอองค์หญิงผู้พูดจาไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนนี้เสียให้รู้แล้วรู้รอด

ทว่า…ท่านข่านของพวกเขากลับไม่ได้หักคอองค์หญิง เพียงแต่บีบฝากระบอกน้ำในมือจนแตก

“ถ้าเช่นนั้นองค์หญิงอยากดื่มน้ำแบบไหนกันเล่า” เขากัดฟันแน่น “ที่นี่มันป่ารกร้าง ไม่ใช่วังหลวงของท่านหรอกนะ คงหาน้ำพุบนภูเขามาให้ท่านไม่ได้แน่นอน”

“ข้าไม่ใช่คนเรื่องมากเช่นนั้นหรอก”

หลี่ซินเหยาพูดอย่างใจเย็น ไม่โต้ตอบแม้จะถูกประชดประชัน “น้ำลำธารที่นี่ดื่มได้ เพียงแค่ต้องจัดการกรองพวกฝุ่นผงและสิ่งสกปรกออกไปก่อน”

พูดแล้วนางก็หันไปสั่งชุนฮวาให้หยิบของหลายอย่างออกมา ชุนฮวาแม้จะไม่เข้าใจว่าองค์หญิงจะเอาของพวกนั้นไปทำอะไร แต่ก็ไม่ถามให้มากความ รับคำสั่งแล้วเดินไปที่รถม้า

ไม่นาน ชุนฮวาก็กลับมาพร้อมของทั้งหมด

หลี่ซินเหยาจัดแจงนั่งบนเบาะปูพื้น ให้ชุนฮวาวางของทุกอย่างลง แล้วแบมือไปทาง มู่หรงซางเหยียน “ท่านแม่ทัพ ส่งกระบอกน้ำมาให้ข้าสิ”

มู่หรงซางเหยียนก็อยากรู้ว่านางจะเล่นอะไร จึงไม่ใส่ใจท่าทีสนิทสนมของนาง ยื่นกระบอกน้ำให้ไป

ทหารที่กำลังกินเสบียงอยู่รอบๆ เริ่มหันมามองด้วยความสนใจ ใครๆ ก็อยากรู้ว่าองค์หญิงผู้สูงศักดิ์คิดจะทำอะไร

ทหารเหล่านี้เติบโตมากับทุ่งหญ้า แม้จะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบกินเนื้อดิบเหมือนเมื่อก่อน แต่ความรู้เรื่องอาหารก็มีแค่การย่างเนื้อวัว เนื้อแกะ หรือผัดผักป่าให้สุกเท่านั้น

สำหรับน้ำพวกเขาก็ดื่มกันแบบธรรมชาติ ไม่ว่าจะลำธารหรือน้ำพุ ขอแค่ดูสะอาด ก็ดื่มได้แล้ว

หลี่ซินเหยาไม่สามารถอธิบายเรื่องเชื้อโรคหรือการติดเชื้อแบบคนยุคใหม่ได้ นางจึงใช้วิธีง่ายๆ ที่คนทั่วไปเข้าใจ คือการกรองน้ำ

เบื้องหน้าของนางมีอุปกรณ์ธรรมดาหลายอย่าง เช่น ผ้าเช็ดหน้าสีขาวนวล ทรายละเอียด ถ่านไม้ กรรไกร หินกรวด และแก้วน้ำใสสองใบ

ของทั้งหมดนี้ มีเพียงแก้วน้ำสองใบเท่านั้นที่ดูมีค่าที่สุด และแน่นอนว่าทุกสายตาจับจ้องไปที่มัน

หลี่ซินเหยาเริ่มจากเทน้ำในกระบอกของ มู่หรงซางเหยียนลงในแก้วใบหนึ่ง ไม่นานแก้วก็เต็ม

นางยกแก้วขึ้นให้ทุกคนเห็นว่า น้ำที่ดูใสสะอาดในกระบอกเมื่อครู่ พอเทน้ำลงไปในแก้วใสแล้ว กลับเผยให้เห็นสิ่งสกปรกมากมาย ทั้งเม็ดทราย เศษหญ้า และฝุ่นผงลอยฟ่อง

“แล้วอย่างไรล่ะ พวกเราก็ดื่มน้ำแบบนี้มาตลอด ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย!”

เสียงโต้แย้งดังมาจากกลุ่มทหาร ซึ่งหลายคนก็เห็นด้วย

“องค์หญิงนี่เรื่องมากจริงๆ แค่ดื่มน้ำยังทำเป็นพิถีพิถัน แถมยังใช้แก้วราคาแพงพวกนั้นอีก!”

มีเสียงกระซิบกระซาบตามมา

“พวกเจ้าพูดอะไรนะ!” ชุนฮวาอยากจะเถียงกลับ แต่หลี่ซินเหยากลับยกมือห้าม

“องค์หญิง ท่านเป็นผู้สูงศักดิ์ น้ำลำธารพวกนี้ไม่เหมาะกับท่านอยู่แล้ว” ไฉ่เหลียนรีบช่วยอธิบาย หวังจะลดความไม่พอใจของทุกคนลง แต่กลับทำให้องค์หญิงถูกเกลียดมากกว่าเดิม “หม่อมฉันจะไปดูว่ามีน้ำพุบนภูเขาเทียนซานเหลืออยู่หรือเปล่า... องค์หญิงอย่าเสวยน้ำพวกนี้เลยเพคะ!”

“ข้าบอกเจ้ารึว่าอยากดื่มน้ำพุเทียนซาน”หลี่ซินเหยาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หุบปากเสีย ข้าไม่อยากพูดซ้ำเรื่องเมื่อเช้า”

นี่คืออำนาจขององค์หญิงที่ฐานะสูงส่ง ยามจะสั่งให้นางกำนัลหยุดพูดจึงไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง

ไฉ่เหลียนก้มหน้าลง โดยไม่พูดอะไรอีก

แต่ในใจก็คิดว่า นางเตือนแล้วนะ ถ้า องค์หญิงต้องอับอายขึ้นมา อย่าได้โทษนางก็แล้วกัน

มู่หรงซางเหยียนเหลือบมองสองนายบ่าวเล็กน้อย ครั้งนี้เขาไม่ได้เข้าข้างนางกำนัล

แม้ปกติจะไม่สนใจเรื่องหลังบ้าน แต่เขาก็เป็นเจ้านายเหมือนกัน นางกำนัลคนนี้พูดจาเกินเลยไปจริงๆ

นึกถึงเมื่อตอนเช้าที่ตัวเองบุกเข้าไปในกระโจมแล้วพยายามช่วยเหลือนางกำนัล เขาก็รู้สึกว่าตนเองอาจจะเข้าใจองค์หญิงผิดไป

“ชุนฮวา เจ้านำถ่านไม้บดละเอียดผสมกับหินกรวดพวกนี้ซะ” หลี่ซินเหยาออกคำสั่งต่อ

ชุนฮวาทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายอย่างเคร่งครัด หลังจากบดถ่านจนละเอียด ก็นำผ้าเช็ดหน้าพับสี่ทบมาวางไว้ตรงปากกระบอกน้ำที่ว่างเปล่า

หลังจากปิดฝาแน่น หลี่ซินเหยาพลิกกระบอกน้ำลง แล้วใช้กรรไกรตัดก้นกระบอกออก

ทหารองครักษ์ของมู่หรงซางเหยียนถึงกับสูดปากด้วยความเสียดาย

นั่นคือกระบอกน้ำที่ทำจากหนังแรดดำ ที่ท่านข่านล่าด้วยตัวเอง! ทั้งแดนเหนือมีเพียงไม่กี่กระบอกเท่านั้น!

องค์หญิงคนนี้ตัดโดยไม่ลังเลเลยสักนิด!

พวกเขาถอยไปอีกสองก้าว เพราะกลัวว่าท่านข่านจะหักมือองค์หญิง

แต่ท่านข่านกลับไม่ทำแบบนั้น เขายื่นมือออกไปรับกระบอกน้ำที่ค่อนข้างหนัก แล้วเฝ้ามองนางโรยถ่าน ทราย และหินกรวด ลงเป็นชั้นๆ อย่างตั้งใจ

“เจ้ากำลังจะทำอะไร” มู่หรงซางเหยียนอดสงสัยไม่ได้ ก็แค่น้ำ…เหตุใดต้องเอาทรายกับถ่านใส่ลงไปด้วย

แม้เขาจะคาดเดาได้ว่าองค์หญิงคงอยากกรองให้สะอาดขึ้น แต่เขาก็ไม่คิดว่าวิธีแบบนี้จะได้ผล

“ก็ทำสิ่งที่จะมีประโยชน์ยามออกศึกไงล่ะ”คำตอบของ หลี่ซินเหยาทำให้มู่หรงซางเหยียนชะงัก แต่ทหารคนอื่นๆ ก็ยังคงไม่สนใจ

หลี่ซินเหยาเม้มปากแน่น ไม่สนสายตารอบตัว ใบหน้าเรียวรูปไข่ของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

มู่หรงซางเหยียนที่ตอนแรกจับจ้องอยู่ที่กระบอกน้ำ ไม่รู้ว่าตอนไหน สายตาเขากลับย้ายไปอยู่ที่ใบหน้าของนางแทน

ขนตางอนยาว ปลายจมูกเล็กสวย ดวงตากลมโต บวกกับท่าทีของนางในยามนี้ที่มุ่งมั่น ทำให้ใบหน้าที่เดิมก็งดงามอยู่แล้วยิ่งมีเสน่ห์ขึ้นอีกหลายเท่า

หลี่ซินเหยาไม่สนใจว่าชายตรงหน้ากำลังจ้องมองตนเอง นางแขวนเครื่องกรองน้ำไว้เหนือแก้วน้ำอีกใบ

จากนั้นก็ค่อยๆ เทน้ำจากลำธารใส่เข้าไป

“องค์หญิงใส่ถ่านลงไปขนาดนี้ พอเทน้ำเข้าไปก็กลายเป็นน้ำสีดำแล้วสิ”

“ฮ่าๆ องค์หญิงผู้สูงศักดิ์คงชอบดื่มน้ำจากถ่านกระมัง”

เสียงหัวเราะดังขึ้น

พวกเขาไม่ใช่คนแผ่นดินใหญ่ จึงไม่เกรงกลัวองค์หญิงอะไรนัก

มู่หรงซางเหยียนขมวดคิ้ว กำลังจะหันไปสั่งให้ทุกคนเงียบ แต่จู่ๆ เสียงหัวเราะก็หยุดลงเอง

เขาหันไปมอง ก็พบสายตาทุกคู่เต็มไปด้วยความตกตะลึง

น้ำถูกเทลงไปมากกว่าครึ่ง และตอนนี้ผ้าเช็ดหน้าที่ปิดปากกระบอกเริ่มชื้นจนมีน้ำซึมออกมา

หยดน้ำที่ไหลลงแก้วกลับเป็นน้ำใสสะอาดบริสุทธิ์ ไม่ใช่น้ำสีดำตามที่ทุกคนคิดไว้

หลังจากกรองเสร็จ นางนำแก้วทั้งสองใบมาวางเทียบกัน

แก้วแรกคือน้ำจากลำธารที่ตักมาโดยตรง อีกแก้วคือน้ำที่กรองแล้ว

หากไม่มีการกรอง แก้วแรกก็ดูสะอาดดีอยู่หรอก แต่พอมีแก้วที่สองเปรียบเทียบกัน มันก็ชัดเลยว่าน้ำที่มู่หรงซางเหยียนตั้งใจจะดื่มเมื่อครู่ แท้จริงนั้นขุ่นมัวแค่ไหน

สีหน้ามู่หรงซางเหยียนมืดลงทันที

เขาเกือบจะดื่มน้ำสกปรกพรรค์นี้ไปแล้วเหรอ!

เหตุใดเมื่อก่อนถึงไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย!

โชคดีที่ยังไม่ได้ดื่มลงไป…

เมื่อชุนฮวานำน้ำที่กรองไปต้ม หลี่ซินเหยาถึงได้ดื่มอย่างสบายใจ

ส่วนที่กรองน้ำชิ้นนั้น ก็กลายเป็นของเล่นในมือของมู่หรงซางเหยียนไปแล้ว เหล่าทหารรุมล้อมดูด้วยตาเป็นประกาย ทดลองกรองน้ำสกปรกซ้ำอีกรอบ

เมื่อได้เห็นหยดน้ำใสสะอาดที่หยดออกมา เทียบกับผ้าเช็ดหน้าที่กรองจนดำปี๋แล้ว ทุกคนก็ตะลึง

เหล่าขุนพลที่พอมีความรู้เริ่มยิ้มด้วยความยินดี

หลี่ซินเหยาเห็นว่ามีคนเข้าใจแล้ว จึงไม่ปิดบัง รีบให้ความรู้ต่อ “ถ้ายามออกศึก พวกเจ้าพบน้ำที่มีสิ่งปนเปื้อน หรือดูไม่สะอาด อย่าเพิ่งรีบดื่ม ให้ขุดหลุมลึกประมาณหนึ่งคนยืน ระยะห่างจากน้ำสักหนึ่งจั้ง แล้วปล่อยให้น้ำไหลซึมผ่านทรายและดินก่อน จากนั้นรอให้น้ำใสค่อยตักขึ้นมา ก็จะช่วยทำให้น้ำสะอาดขึ้น”

นี่คือการขุดบ่อกรองธรรมชาติน้ำที่ได้จะใสและปลอดภัยกว่า

(หนึ่งจั้ง ประมาณ 3.3 เมตร)

แม้แต่ทหารองครักษ์ของมู่หรงซางเหยียนก็ฟังด้วยความตั้งใจ

ที่แท้คำว่า ‘มีประโยชน์กับการศึก’ ขององค์หญิง ก็ไม่ใช่แค่ลมปาก

เครื่องกรองน้ำง่ายๆ นี้หากนำไปใช้ในสนามรบที่แหล่งน้ำมีจำกัด อาจช่วยชีวิตผู้คนได้มากมาย!

สายตาที่ทุกคนมองหลี่ซินเหยาเริ่มเปล่งประกาย

ท่านข่านของพวกเขาช่างสายตาเฉียบแหลมจริงๆ! เลือกพระชายาได้ดียิ่งนัก!
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel