บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

จอมสุรางค์น้ำตาซึมเล็กน้อย ขณะเป็นฝ่ายมองตามน้องชาย ซึ่งสูงไม่แพ้อเมริกันชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ หล่อนรอจนน้องชายลับหายไปในกลุ่มชนคลำคล่ำบริเวณท่าเรือแล้วจึงก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางเดินไปขึ้นเรือ

หญิงสาวไม่ได้ใส่ใจผู้คนโดยรอบ เพราะหลังจากก้มดูเวลา พบว่าจวนได้เวลาเรือออกจากท่า ก็รีบจ้ำอ้าว จึงไม่รู้ว่าหมู่คนส่วนใหญ่ที่หล่อนเดินผ่านต่างมองมาที่หล่อนอย่างชื่นชม

บนเรือลำใหญ่ มีผู้โดยสารที่ขึ้นเรือก่อน ยืนเรียงรายตลอดลูกกรงเรือ คนที่กำลังขึ้นก็มี จอมสุรางค์ตามไปเกือบเป็นคนสุดท้าย

หล่อนก้าวขึ้นมายืนบนดาดฟ้าเรือ วางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หายใจเข้าเต็มปอดหลายๆ เฮือก ได้ไม่ทันไรบันไดก็ถูกชักขึ้น

หญิงสาวขยับกระเป๋าสะพายบนไหล่ขวาที่ทำท่าจะเลื่อนหล่นให้เข้าที่ ผมสลวยสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนหยักศกในตัว ถูกลมทะเลตีจนยุ่งเหยิง แต่กลับชวนให้ใบหน้าเรียวรูปไข่นั้นยิ่งมีเสน่ห์ชวนพิศ โดยเฉพาะผิวผ่องราวครีมเนื้อดี ช่างดูนุ่มนวลชวนสัมผัสเพื่อรับรู้ถึงความเนียนละไม

จอมสุรางค์ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาเพื่อนร่วมทาง หล่อนกวาดตาไปรอบๆ มองผู้คน พบว่าบางคนหน้าเศร้า ที่จะต้องจากบ้านเกิด บางคนก็ดีอกดีใจที่จะได้ท่องเที่ยวไปในโลกกว้างยังดินแดนที่ตัวเองไม่เคยไปมาก่อน

เรือลำนี้เป็นเรือสำราญโดยสารลำมหึมา ถือสัญชาติอเมริกัน ที่กำลังพาผู้โดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ล่องข้ามถึงสองมหาสมุทร

“นี่ค่ะ หนังสือเดินทางของฉัน มาช้าไปนิด ขอโทษด้วยนะคะ มัวแต่ล่ำลาน้องชายที่จะไม่ได้เจอกันอีกนานน่ะค่ะ”

จอมสุรางค์รู้ว่าภาษาอังกฤษของหล่อนไม่มีที่ติ แม้จะออกสำเนียงอเมริกันตามความเคยชิน แต่ที่ไม่รู้คือ รอยยิ้มตบท้ายคำพูดของหล่อน แทบจะทำเอาพนักงานหนุ่มร่างสูง ผมทอง นัยน์ตาสีฟ้า ไม่เพียงแต่จะลืมตรวจตราหนังสือเดินทางที่หล่อนยื่นส่งให้ แต่เขายังแทบจะลืมหายใจไปชั่วขณะ เพราะยิ้มอันหวานละมุนแผ่ซ่านขึ้นถึงดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเหมือนถูกหล่อไว้ด้วยธารน้ำผึ้งในกรอบขนตางอน

“มิส ... ชอม...ชอมซูแรง ธันจาธอน” เจ้าหน้าที่บนเรือ ซึ่งอยู่ในวัยหนุ่มพยายามอ่านออกเสียงอย่างยากลำบาก

เจ้าของชื่อหัวเราะคิก ก่อนอ่านชื่อนามสกุลตัวเองให้ฟัง

“จอมสุรางค์ ธันยธรค่ะ”

“ออกเสียงยากมากครับ แต่ก็ฟังไพเราะ”

เจ้าหน้าที่บนเรือ ซึ่งอยู่ในวัยไม่น่าจะเกินยี่สิบห้ากล่าวชม แค่เห็นสถานภาพนำหน้าชื่อของผู้โดยสารสาว เขาก็ฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

“เชิญตามผมมาเลยครับ ห้องพักของคุณอยู่ชั้น4 เคบินหมายเลข412 เราต้องขึ้นลิฟต์ ถ้าตัวเปล่าก็พอจะเดินขึ้นลงบันไหว แต่มีสัมภาระแบบนี้ไปลิฟต์ดีกว่า”

เจ้าพนักงานหนุ่มเดินนำไปก่อน หลังจากเอื้อมมือมารับกระเป๋าเดินทางของหญิงสาวไปถือให้

จอมสุรางค์เดินตัวปลิวตามไป เมื่อไม่ต้องหิ้วกระเป๋าเดินทางที่เริ่มจะหนัก

แต่ทันก่อนจะก้าวพ้นมุมเพื่อเลี้ยวตามพนักงานบนเรือไปยังลิฟต์ผู้โดยสาร เท้าบนรองเท้าสานส้นไม่สูงนักเพื่อความคล่องตัว ก็มีอันชะงัก เมื่อสายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างให้ความสนใจกับความเป็นไปบนเรือ บังเอิญเหลือบไปประสานเข้ากับนัยน์ตาเข้มคมคู่หนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ

ไม่ใช่แต่ความคมแห่งนัยน์ตาเท่านั้น ทำเอาหล่อนถึงกับหยุดกึก รอยยิ้มของเขาที่ส่งมาราวว่าหล่อนกับเขารู้จักสนิทชิดเชื้อกันมานานก็มีส่วน

จอมสุรางค์ไม่ได้ยิ้มตอบ เพราะไม่อยากให้ดูเป็นว่าหล่อนให้ความสนใจเขากลับไป แม้จริงๆ แล้วจะต้องยอมรับว่า ชายหนุ่มรูปร่างสูงในระดับมาตรฐานสากล ซึ่งดูเพรียวมากกว่าเทอะทะ มีหน้าตาคมสันเป็นอย่างมาก จุดความสนใจแก่หล่อนได้มากกว่าผู้ชายทุกคนที่หล่อนเคยพบ เคยรู้จักมา

ใบหน้าค่อนข้างเพรียวของชายหนุ่มที่ส่งยิ้มมาให้ ประกอบด้วยเครื่องหน้าสะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นจมูกโด่งขึ้นสันงาม ปากบางได้รูปตึงเต็ม เวลาคลี่ออกจากกันในอาการที่เรียกว่ายิ้ม อาจไม่ถึงกับทำให้หัวใจสาวกระตุก แต่ก็ทำเอาเข่าที่เคยรับน้ำหนักได้อย่างมั่นคงเกิดอาการยวบยาบ ถือเป็นอาการเบื้องต้นของคำว่าเข่าอ่อน

เขาเป็นคนที่ยิ้มได้เก๋ และเฉี่ยวจริงๆ

สี่ปีในอเมริกา มีชายหนุ่มจำนวนไม่น้อย พยายามจะเข้ามาเสนอตัว ยื่นใบสมัครขอเป็น ‘บอยเฟรนด์’ โดยหวังจะมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่ขั้นตอนต่อไป ซึ่งเพื่อนชายบางคนหน้าตาดีพอที่จะไปสมัครเป็นดารานักแสดงได้สบายๆ แต่ก็ไม่มีสักคนที่จอมสุรางค์รู้สึกพิเศษ อย่างที่บิดาเคยบอก...

“ถ้าเจอคนที่ใช่ เราจะรับรู้ได้เอง ถึงว่าบางทีอาจจะเสียเวลานิดหน่อย เพื่อทำความมั่นใจ แต่เจ้าความรู้สึกเมื่อแรกเจอจะไม่โกหกเรา แม้เราเองจะพยายามโกหกใจตัวเอง พยายามกลับชอบเป็นชัง กลับความชื่นชมเป็นตำหนิ ด้วยเหตุผลบ๊องๆ อะไรก็ตามที แต่ท้ายที่สุด ความรู้สึกเขวๆ จะคืนสู่ที่ทางของมัน และเมื่อถึงตอนนั้น เราจะไม่สามารถปดใจเราเองได้อีกต่อไป”

จอมสุรางค์ยังทันสังเกตต่ออีกนิด ก่อนรีบก้าวตามเจ้าหน้าที่บนเรือซึ่งเดินนำไปก่อน

ชายหนุ่มที่ทำเอาหล่อนเกือบสะดุดเท้าตัวเอง มีผมเส้นสลวยหยักศกดกดำสนิทเหมือนนัยน์ตา ผิวของเขาเป็นสีน้ำตาลไม่สักทอง ไม่ขาวอย่างฝรั่งส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่คล้ำอย่างผิวคนไทย

หล่อนคิดว่าเขาเป็นชาวตะวันตก ซึ่งคนไทยมักเรียกรวมๆ ว่า ‘ฝรั่ง’ เพราะรูปร่างเขาชวนให้คิดเช่นนั้น รวมถึงหน้าตาที่ยิ่งกว่าคมสันก็ออกเค้าว่าเขาอาจมีเลือดผสม แต่จะผสมระหว่างชาติไหนกับชาติไหน หล่อนไม่แน่ใจ หากจะให้เดาจากสีผิว และความคมเข้ม ทั้งสีผม สีนัยน์ตา ก็อยากเดาว่าเขาน่าจะมีเลือดลาตินอยู่กึ่งหนึ่ง บางทีไม่พ่อ ก็แม่ของเขา จะเป็นชาวสเปน โปรตุเกส หรืออิตาลี

ขณะคาดเดาถึงบรรพบุรุษฝ่ายหนึ่งของชายหนุ่มแปลกหน้านี้ จอมสุรางค์ไม่ได้นึกแม้แต่แวบเดียวว่า ชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเข้มคมสะดุดตา พอจะไปสมัครเป็นพระเอกหนังหนังฮอลลีวู้ดได้สบายๆ นี้ อาจมีพ่อ หรือแม่ เป็นคนไทย เชื้อชาติเดียวกับหล่อนนี้เอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel