ตอนที่2.รอยแผลเป็นขนาดใหญ่ปรากฏอยู่กลางหลัง!
แสงแฟลชวูบวาบเรียกสติของหญิงสาว มือเรียวกำลังแหวกเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อบางเบาจนเห็นบราลูกไม้สีดำที่เน้นย้ำผิวขาวเนียนละเอียด เอวคอดกิ่วเข้ากับกางเกงยีนขาสั้นที่ขอบรุ่ยร่ายอวดเรียวขาสวยกับรองเท้าบูทหนังสูงครึ่งแข้ง
แต่สิ่งที่สะกดสายตาทุกผู้คนดวงตาคมที่จับจ้องมองเบื้องหน้าและริมฝีปากที่เผยอขึ้นอย่างเย้ายวน ผมยาวเหยียดตรงของเธอถูกดัดเป็นลอนดูอ่อนหวาน การเป็นนางแบบมืออาชีพทำให้หญิงสาวไม่ปริปากบ่นแม้ว่าจะทำงานเกินเวลาที่คาดไว้กว่าชั่วโมงเศษ
“ได้แช่น้ำอุ่นคงดีขึ้น” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองพลางขยับท่าให้ช่างภาพเก็บภาพ เธออยากให้งานออกมาดูดีที่สุดแม้จะบอกตัวเองเสมอว่านี่ไม่ช่สิ่งที่เธอต้องการก็ตามที
“โอเคเรียบร้อย ขอบคุณน้องริต้ามากครับ”
นางแบบสาวถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วยิ้มบางๆ เธอเดินไปดูรูปจากกล้องของช่างภาพพลางดื่มน้ำดับกระหาย พูดคุย
กันอีกสองสามประโยคแล้วหญิงสาวก็ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเดินทางกลับที่พัก
เธอเก็บข้าวของเครื่องใช้เล็กๆ น้อยๆ ที่วางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ เสียงประตูเปิดออกเรียกสายตาของเธอให้หันไปมองอย่างรวดเร็ว
“ริต้าจ๊ะ ของขวัญจากแฟนคลับจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณแฮรี่”
หญิงสาวยิ้มเหนื่อยๆ แต่ก็ยื่นมือไปรับช่อดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่มาไว้ในวงแขน เธอพลิกอ่านการ์ดที่แนบมาด้วยแล้วดึงมันออกใส่ในกระเป๋าสะพายของตัวเองรวมกับใบอื่นๆ ที่เธอเก็บมาไว้แล้ว “ฝากช่อดอกไม้ไปให้ที่โรงพยาบาลด้วยนะคะ”
“ใจดีเหมือนเดิมนะ” แฮรี่-ชายวัยสามสิบสี่สิบแต่ดูปราดเปรียวเหมือนเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ด เขาเป็นคนคอยดูแลคิวการแสดงให้กับนางแบบสาวสวยที่แสนลึกลับ
“สำหรับฉันดอกเดียวก็พอค่ะ” นิ้วเรียวหยิบดอกกุหลาบสีขาวออกมาจากช่อดอกหนึ่ง ดอกไม้และของขวัญบางอย่างที่เธอได้รับหญิงสาวจะให้ผู้จัดการส่วนตัวนำไปมอบให้ตามโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้คนป่วยคนอื่นๆ
“พรุ่งนี้วันหยุดของฉันใช่ไหม”
“ถามทั้งรู้หมายความว่าไง” แฮรี่หัวเราะร่วน “ได้หยุดพักห้าวัน หลังจากนั้นบินไปถ่ายแบบที่ญี่ปุ่น”
“ก็...” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ “ตอนนี้ฉันเป็นอิสระแล้ว ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ”
“เธอหมายถึงการปิดมือถือด้วยใช่ไหม”
หญิงสาวพยักหน้ารับอีกฝ่ายก็ได้แต่ถอนหายใจหนักๆ อย่างเข้าใจ “ฉันไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะแค่เป็นห่วงเฉยๆ คุณอยู่เมืองนอกมากกว่าบ้านเกิดอย่างนี้ อาจจะมีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือ”
“เรื่องนั้นฉันรู้ค่ะ” เธอหันหลังและก้าวมาช้าๆ อย่างต้องการจะตัดบทสนทนา “รับรองว่าฉันไม่เบี้ยวงานแน่นอน”
‘ฉันรู้ว่าที่นี่เป็นยังไง...เพราะฉะนั้นฉันจึงมายืนอยู่ในประเทศนี้นะซิ!’
สาริศา กวินนาถ ถือกระเป๋าส่วนตัวมาที่รถเก๋งคันเล็กแล้วพามันเคลื่อนไปสู่จุดหมายที่ต้องการ แต่มันไม่ใช่บ้านหลังงานในหมู่บ้านจัดสรรแสนหรูหราอีกแล้ว ตอนนี้เธอซื้อคอนโดเล็กๆ กลางกรุงเพื่อเป็นที่พักอาศัย หญิงสาวเผลอมองตัวเองที่กระจกส่องหลังของรถแล้วถอนหายใจเบาๆ มือเรียวเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดริมฝีปากที่สีแดงสดของลิปสติกยังเคลือบติดอยู่
โลกควรจะรู้จักเธอในฐานะนักไวโอลินสาวสวยที่ใครๆ รู้จักในนาม ‘สาริศา กวินนาถ’ หญิงสาวที่มักจะเดินทางพร้อมกล่องไวโอลินที่แทบไม่เคยห่างกาย แต่เพราะนายอานนท์พ่อเลี้ยงของเธอที่ผลาญสมบัติของแม่จนแทบสินเนื้อประดาตัวเพราะถูกผีพนันเข้าสิง ทำให้เธอต้องใช้ความสาวและเซ็กซี่ทำเงินให้ครอบครัว และส่วนหนึ่งก็มาจากที่เธอต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่อีกด้วยรวมทั้งค่ารักษาพยาบาลของเธอเองด้วย
อุบัติเหตุเมื่อสิบแปดเดือนก่อนเปลี่ยนเธอให้กลายเป็น ริต้า-สาริศา นางแบบสาวสุดเซ็กซี่ในวันนี้
หญิงสาวขับรถมาถึงคอนโด เมื่อจอดรถเสร็จก็ก้าวเข้ามาในลิฟต์ แต่ในขณะที่ล้วงกระเป๋าสะพายเพื่อค้นหาคีย์การ์ดไขห้องพัก โทรศัพท์มือถือก็ตกลงพื้น เธอก้มตัวลงเก็บด้วยความเคยชิน แต่ใบหน้าหวานก็ต้องขมวดคิ้วเพราะความเจ็บแปลบทันที เธอฝืนยืดตัวและเดินตัวตรงเข้าห้องพัก วางกระเป๋าและสัมภาระลงบนโต๊ะก่อนจะถอดเสื้อยืดที่สวยอยู่ออก รวมทั้งกางเกงยีนขายาวที่สวมอยู่ เหลือเพียงชุดชั้นในลูกไม้สีขาว มือเรียวรวบผมด้านหลังขึ้นแล้วเอี้ยวตัวมองเงาตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ตรงหน้า
รอยแผลเป็นขนาดใหญ่ปรากฏอยู่กลางหลัง!
