บทที่ 4 นายหน้าโจร
“หนูว่าจะไปหาเจ้าริบบี้หน่อยน่ะคะ ไม่รู้ป่านนี้ จะถูกคนงานจับไปต้มทำแกงแล้วหรือยัง”
น้ำเสียงเศร้าหมองของเธอ ทำให้พี่ชายต้องเดินมายกมือลูบศีรษะเล็กเบา ๆ
“โอ๋ โอ๋ เด็กน้อย พี่ไม่คิดเลยนะ ว่าน้องสาวคนสวยของพี่ จะเศร้าเป็นกับคนอื่นด้วย แต่เอาเถอะ เดี๋ยวพี่จะช่วยหาด้วยอีกคน ว่าแต่เราแน่ใจนะว่าหายแถวบริเวณนั้นจริง ไม่ได้โกหกพี่ใช่มั้ย”
“หนูไม่ใช่เด็กน้อยในวันวานแล้วนะคะ ถ้ายังเรียกเด็กน้อยอีก หนูโกรธพี่จริงด้วย มันหายที่นั่นจริง ๆ ยังไงถ้าเป็นไปได้ พี่น่าจะลองบอกให้เพื่อนของพี่ช่วยหาที่ไร่ของเขาหน่อยนะคะ
เพราะไร่ของเราสองคนติดกัน แล้วแถวที่หายก็อยู่ใกล้ ๆ ริมรั้วซะด้วย พูดถึงเพื่อนของพี่ พี่ไม่คิดที่จะพาหนูไปทักทายทำความรู้จักเอาไว้บ้างเลยเหรอคะ
หนูได้ยินคนใช้ในบ้านเล่ากันว่าหล่อ เถื่อน เร้าใจมาก จนหนูชักอยากจะเห็นซะแล้วสิคะ ว่าจะหล่อกว่าพี่ หรือน้อยกว่าพี่หมื่น”
“ไม่ต้องไปรู้จักกับมันเหรอ เพราะรายนั้นน่ะเจ้าชู้จะตายไป พี่ไม่อยากให้เรากลายเป็นอาหารของเพื่อนพี่”
“เจ้าชู้แบบนี้ พอ ๆ กับพี่ชายของน้องเลยหรือเปล่าคะ”
น้ำเสียงใสไม่วายที่จะกล่าวเย้าแหย่พี่ชายบ้าง
“เราเนี่ยนะ รู้ทันพี่ไปซะหมดเลย”
“ก็เพราะแบบนี้ไงคะ น้องถึงได้ไม่กล้าชวน เพื่อน ๆ มาเที่ยวที่ไร่ด้วย เพราะกลัวเดี๋ยวใครบางคนแถวนี้จะแอบจับ เพื่อนสาวของน้องไปกินซะหมด”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เราเนี่ยนะ พูดเกินจริงไปได้ ถึงพี่จะเจ้าชู้แต่พี่ก็เลือกอยู่นะ”
“เมื่อไหร่จะหาพี่สะใภ้ให้กวางสักทีล่ะคะ”
“หยุดไปเลยนะ เราก็รู้ว่าพี่ชอบความโสดแค่ไหน เรื่องพี่สะใภ้รอไปก่อนเถอะ คงอีกนาน บางทีพี่คงต้องเลี้ยงลูกของเราซะก่อนล่ะมั้ง”
“คุณพี่ชายสุดหล่อ สงสัยกว่ากวางจะได้พี่สะใภ้ พี่ชายของกวางก็คงจะผมขาวเต็มหัวแล้ว”
“ว่าแต่พี่นะเรา เมื่อไหร่จะพาคนรู้ใจมาให้พี่รู้จักบ้างล่ะ”
“พามาได้ด้วยเหรอคะ พี่ชายของกวางออกจากหวงน้องสาวคนนี้จะตายไป หรือว่าตอนนี้พี่ไม่หวงแล้ว”
“หวงสิทำไมจะไม่หวง ลองพามาสิ รับรองลูกกระสุนได้ออกจากปลายกระบอกปืนของพี่แน่”
“ฮิ ฮิ ฮิ งั้นน้องไม่กล้าพามาหรอกค่ะ น้องจะอยู่เป็นโสดแข่งกับพี่หมื่นตะวันดีกว่า กวางขอตัวก่อนนะคะ จะรีบไปหากระต่ายตัวน้อยของกวาง ไม่รู้ป่านนี้มันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
“ยังไงก็ระมัดระวังตัวหน่อยนะ เพราะคนงานในไร่ก็เป็นผู้ชายซะส่วนใหญ่ คนนับเป็นร้อยเป็นพันแบบนั้น เราควบคุมกันไม่ทั่วถึง ไม่เพียงแต่ไร่ของเราเท่านั้น แต่ไร่ของเพื่อนพี่อีก
เราเป็นผู้หญิง หน้าตาดีแบบนี้ ยิ่งต้องระวัง”
“โอ๊ย… พี่ชายปากหวานแบบนี้ เล่นชมกวางจนกวางจะตัวลอยได้แล้วนะคะ”
“พี่ก็แค่หยอกล้อเล่นเราเล่นน่ะ เรามันหน้าตาขี้เหร่จะตายไปไ
“นี่แน่ะ นี่แน่ะ”
“โอ้ย… โอ้ย… ทุบพี่ทำไมเนี่ย”
“พี่หมื่นตะวันน่ะ ว่ากวางขี้เหร่”
ดวงหน้าสวยหวานงอนตุบป่องอย่างแสนน่ารัก จนคนเป็นพี่ชายอยากจะยกมือหยิกเล่น ถ้าไม่กลัวว่าจะทำให้น้องน้อยต้องเจ็บ
“ก็มันจริงนี่นา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ร่างสูงของหมื่นตะวันวิ่งหนีน้องสาวพร้อมกับเสียงหัวเราะที่สามารถแกล้งให้แม่ตัวดีโกรธเคืองตนเองได้
ในขณะที่อรปรียาได้แต่มองตามหลังของพี่ชาย พร้อมกับรอยยิ้มน้อย ๆ เพราะเธอรู้ว่าพี่ชายก็คงอยากจะทำให้เธอมีความสุข และมีเสียงหัวเราะ เขาคงเห็นว่าเธอกำลังซึมเศร้าเสียใจ ที่เจ้าริบบี้กระต่ายตัวโปรดหายไป
อรปรียากลับมาที่ตำแหน่งเดิมหน้าบ้านหลังเล็ก ที่เธอเห็นว่าเจ้ากระต่ายตัวน้อยหายเข้าไปในนั้น ประตูหน้าบ้านหลังสวยที่เธอนึกชอบตั้งแต่แรกเห็นถูกล็อคไว้
พลันทำให้สาวน้อยนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่ยังคงตามหลอกหลอนเธอให้ต้องรู้สึกกลัวและหวาดระแวงผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่โตบึกบึน เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อซิกแพคลอนสวยจนถึงกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของบุรุษเพศ
ทุกรอยสัมผัสที่ชายหนุ่มแตะต้องลูบไล้บนเนื้อตัวของเธอ ล้วนแล้วแต่อยากที่จะลืมได้ แค่นึกถึงทุกรอยสัมผัสเมื่อคืน กายบางกลับร้อนวูบวาบทั่วร่างอย่างแปลก ๆ แก้มนวลแดงระรื่น
“บ้าชะบัด นี่เราจะไปนึกถึงคนบ้าแบบนั้นทำไมกันนะ สาธุ สาธุ เจ้าป่าเจ้าเขา ขอให้นายหน้าโจรอย่าเพิ่งกลับมาที่นี่เวลานี้เลยนะ ว่าแต่ทำไมเพื่อนของพี่หมื่นถึงอนุญาตให้ลูกน้องหน้าโหดมาอยู่ที่บ้านสวยขนาดนี้นะ
คงจะเป็นพวกระดับหัวหน้าละมั้ง หน้าโหด ๆ แบบนี้ไว้หนวดไว้เคราราวกับโจร ตัวก็ออกจะสูงใหญ่ เป็นใครจะไม่กลัวล่ะ”
ดวงตากลมโตพยายามมองสอดส่ายไปรอบ ๆ บ้านหลังเล็กบนเนินเขา
วันนี้อรปรียาพยายามที่จะแต่งตัวให้มิดชิดมากขึ้น และคิดว่าตอนนี้พวกคนงานก็คงจะไม่อยู่ในบ้านพักกันแล้ว เพราะที่ไร่ของเธอทุกคนก็เข้าไปในไร่เพื่อทำงานกันหมดตรงนี้เป็นบริเวณบ้านพัก
แถมยังมีเพียงหลังเดียว เหมือนกับว่าผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ต้องการความเงียบสงบมีความเป็นส่วนตัว
